บทความนี้ต่อจาก พาร์ทสอง : รวมประโยคเด็ดจาก “มหาเวทย์ผนึกมาร” Jujutsu Kaisen (2020) อนิเมะเรื่องดังที่ครองใจหลาย ๆ คน ซึ่งในพาร์ทสามก็จะเป็นการวิเคราะห์ตามความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนเอง อาจจะมีทั้งส่วนที่ถูกใจและขัดใจ แต่ก็อยากให้ลองเปิดใจและร่วมวิเคราะห์ไปพร้อม ๆ กันค่ะ

ประโยคเด็ดชวนคิดจากมหาเวทย์ผนึกมาร พาร์ทสอง

6. ว่าด้วยเรื่องศีลธรรม

“ฉันแค่สงสัยว่านี่เป็นครั้งแรกหรือเปล่าที่เธอฆ่าใครซักคนแทนที่จะปัดเป่า”

 “พูดตามตรงนะ ฉันไม่รู้สึกอะไรเลย ในความคิดของฉัน สำหรับผู้ใช้คุณไสยแล้วนี่ถือเป็นเรื่องปกติไม่ใช่เหรอ ก็ไม่ได้จะทำตัวเป็นฟุชิงุโระหรอกนะ แต่ไม่ใช่ทุกคนที่เราจะช่วยได้ ในความคิดของฉัน คนที่ไม่เกี่ยวข้องกับฉัน ไม่ควรมามีผลกับชีวิตฉัน เย็นชาไหมล่ะ แต่ก็มีคนแบบนายที่อยากทำอะไรก็ทำอยู่เหมือนกัน ไม่ได้จะปลอบนายหรอกนะแต่เราไม่มีเวลามานั่งตรวจสอบว่าพวกนั้นเป็นคำสาปหรือผู้ใช้คำสาป และถึงจะเป็นมนุษย์เราก็ไม่มีปัญญาคุมตัวศัตรูที่แข็งแกร่งระดับนั้นได้หรอก”

ในตอนที่ 24 ขณะที่ทั้งคู่กำลังเดินไปหาฟุชิงุโระ หลังจากที่ยูจิกับโนบาระได้ต่อสู้นะครรภ์คำสาปทั้งสอง ยูจิก็ได้ถามโนบาระถึงสิ่งที่เขาค้างคาใจมานานตั้งแต่อีพีแรก ๆ เกี่ยวกับการฆ่าคนและการปัดเป่าคำสาป เนื่องจากยูจิไม่รู้ว่าศัตรูเหล่านั้นเป็นคำสาปหรือผู้ใช้คำสาป ถ้าเขาฆ่าผู้ใช้คำสาปก็เท่ากับเขาฆ่าคนด้วย (มาถึงตรงนี้ก็คิดว่าพระเอกของเราช่างเป็นคนดีเสียจริง) ด้วยบรรทัดฐานศีลธรรมในตัวยูจิทำให้เขารู้สึกผิดต่อการฆ่าผู้ใช้คำสาปถึงแม้ว่าพวกเขาจะเป็นศัตรูก็ตาม ส่วนโนบาระก็บอกว่าเธอไม่ได้รู้สึกอะไรเพราะทำตามหน้าที่และการเอาตัวรอด ถึงรู้ว่าเป็นผู้ใช้คำสาปก็ไม่ใช่ว่าจะควบคุมได้ ถ้าอยากรอดก็ต้องต่อสู้ให้ชนะ

หากพูดด้วยความเป็นกลาง ถ้าการฆ่าคนเป็นเรื่องผิดและไม่ควรทำ ไม่ว่าจะฆ่าคนดีหรือคนไม่ดีก็ผิดเหมือนกันทั้งสิ้น ถ้าถามว่าอะไรเป็นตัวชี้วัดว่าใครดีหรือเลวก็คงจะตอบได้ยาก ส่วนตัวมองว่าทุก ๆ คนมีทั้งส่วนที่ดีและเลวอยู่ในตัวเอง ปน ๆ กัน เราไม่ได้เป็นคนดีสำหรับทุกคนและคนเลวสำหรับทุกคน เช่น ทุกคนจะมองโจรขโมยของว่าเป็นคนไม่ดี แต่ถ้าเขานำเงินที่ได้ไปบริจาค คนที่ได้รับเงินบริจาคนั้นก็อาจจะมองว่าเขาเป็นคนดี ในเมื่อไม่มีใครที่จะสามารถดีได้ร้อยเปอร์เซ็นต์หรือเลวได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ในบางครั้งจึงจำเป็นที่จะต้องปล่อยบางสิ่งไปเพื่อไม่ให้เดือดร้อนตัวเอง ในกรณีของยูจิก็คงจะเป็นความรู้สึกผิดที่ฆ่าผู้ใช้คำสาป เนื่องจากหากเขาไม่ฆ่า ผู้ใช้คำสาปก็อาจจะไปห่าคนอื่น ๆ รวมถึงยูจิและเพื่อน ๆ ด้วย

“แต่หมอนั่นร้องไห้ด้วยที่ตัวเองกับน้องชายตาย ฉันก็ดีใจนะที่ตัวเองกับคุงิซากิรอดมาได้ แต่ก็มีคนต้องร้องไห้เพราะชีวิตที่ฉันพรากไป”

ยูจิได้เล่าให้โนบาระฟังว่าเขาได้ฆ่าไปแล้วสามคน แต่เขาก็ตระหนักว่าผู้ใช้คำสาปก็เป็นชีวิตหนึ่งที่เขาพรากไป อยากที่ได้กล่าวไปในตอนนั้นว่ายูจิเป็นคนที่มีบรรทัดฐานศีลธรรมของตัวเอง แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็เลือกทำในสิ่งที่ดีที่สุด พอคิดในอีกมุมการที่ยูจิมีความคิดและความรู้สึกที่ละเอียดอ่อน มีความเมตตาแม้อีกฝ่ายจะเป็นศัตรูก็ตาม สิ่งที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้อาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้โลกน่าอยู่ขึ้นก็ได้

7. ว่าด้วยเรื่องความเป็นตัวเองของตัวละครในเรื่อง

ในข้อนี้ไม่ได้มาเป็นประโยคแต่มาเป็นบุคลิกของตัวละครแทน

ในอีพีที่ 5 ตอนที่สุคุนะได้ควักหัวใจของยูจิออก เพื่อให้ยูจิตาย แต่ฟุชิงุโระก็เชื่อมั่นว่ายูจิที่สลับตัวอีกครั้งและยูจิคงไม่ยอมให้สุคุนะออกอาละวาดแน่ ในส่วนของยูจิที่เป็นพระเอกที่มีความเป็นคนดี (มาก ๆ) กับฟุชิงุโระที่ทำสิ่งที่ตนเองคิดว่าทำถูก อย่างเช่น การขอให้อาจารย์โกะโจช่วยยูจิทั้ง ๆ ที่ตามกฎแล้วยูจิต้องมีโทษประหารชีวิต ทั้งสองคนเป็นตัวละครที่ทำตามสิ่งที่เชื่อและคิดว่าถูก

“เพื่อให้คนดี ๆ ได้รับความเท่าเทียม เราจะช่วยเหลือผู้คนอย่างไม่เทียม”

ตอนแรกที่เมงุมิพูดประโยคก็รู้สึกงงหน่อย ๆ แต่ตามที่เข้าใจก็ประมาณว่าเมงุมิจะช่วยคนที่เห็นสมควรว่าควรจะช่วยโดยที่อาจจะไม่ได้ยึดเรื่องความเท่าเทียม อย่างเช่นในกรณีของยูจิที่เขาอยากช่วยแม้ยูจิจะมีสุคุนะในร่างอย่าง

บุคลิกของโนบาระก็คล้าย ๆ กับสองคนนี้คือเชื่อมั่นในความถูกต้องของตนเอง ส่วนตัวแล้วรู้สึกประทับใจในการต่อสู้ของโนบาระกับครรภ์คำสาป เนื่องจากการใช้พลังของเธอนั้นดูเทพกว่าเดิมมาก ๆ อีกทั้งในเรื่องของการทุ่มสุดตัวของโนบาระในการต่อสู้ทุก ๆ ครั้ง ไม่ว่าศัตรูจะแข็งแกร่งมากกว่าเธอแค่ไหน แต่เธอก็มั่นใจและไม่คิดจะถอยซักครั้ง (แต่ไม่ทันจะได้สู้ เธอก็โดนจับไปก่อนทุกที) ด้วยความทุ่มสุดตัวของเธอ ระหว่างการต่อสู้กับครรภ์คำสาป เธอจึงใช้ตะปูปักแขนตัวเองจนทะลุ (ฉากนี้รู้สึกอึ้งและหวาดเสียวหน่อย ๆ )

“พวกเบื้องบนคือรังปีศาจของโลกไสยศาสตร์ มีแต่พวกเห็นแก่ตัว สืบทอดอำนาจ หยิ่งยโสและพวกโง่โดยกำเนิด ผมจะรีเซ็ตโลกไสยศาสตร์ที่เน่าเหม็นใบนี้ใหม่ จะฆ่าพวกเบื้องบนน่ะง่ายมาก แต่สุดท้ายก็จะมีคนกลุ่มใหม่เข้ามาแทน ผมจึงได้เลือกการศึกษา ผมอยากสร้างพวกพ้องที่แข็งแกร่งและฉลาดหลักแหลม”

อาจารย์โกะโจผู้มีบุคลิกหล่อเท่ เต็มไปด้วยอารมณ์ขันและความเทพระดับปรมาจารย์ผู้ที่อยากจะสร้างโลกไสยศาสตร์ที่ดีกว่าเดิม เขาจึงอยากสอนเหล่าลูกศิษย์ให้โตเป็นคนที่ใช้ได้และร่วมมือกันกับเขา เขาจึงเลือกมาเป็นครูในโรงเรียนไสยเวททั้ง ๆ ที่เขาคิดว่าตนเองไม่เหมาะกับการเป็นครูเลย จะเห็นได้ว่าเป้าหมายของโกะโจนั้นดูยิ่งใหญ่และเขาเชื่อว่ามันเป็นไปได้ ซึ่งสถานการณ์โลกไสยศาสตร์ที่โกะโจบรรยายก็ดูคลับคล้ายคลับคลาว่าเป็นการจำลองโลกในความเป็นจริงอย่างนั้น ในเรื่องของเบื้องบนที่ใช้อำนาจในทางที่ไม่ชอบ มีการสืบทอดอำนาจและเห็นแก่ตัวโดยไม่เห็นหัวใครทั้งสิ้น ซึ่งเป็นปัญหาด้านศีลธรรมในจิตใจ ซึ่งอาจจะแก้ได้ด้วยจิตสำนึกที่ดี ยุคสมัยที่เปลี่ยนไป คนรุ่นใหม่และการศึกษาอย่างที่อาจารย์โกะโจมีความมุ่งมั่น

จบกันไปแล้วทั้งสามพาร์ทสำหรับ รวมประโยคเด็ดจาก “มหาเวทย์ผนึกมาร” Jujutsu Kaisen (2020) อนิเมะเรื่องดังที่ครองใจหลาย ๆ คน ซึ่งเป็นการรวบรวมบทพูดของ jujusu kaisen ซีซันหนึ่ง ในส่วนของซีซันสองนั้นก็อาจจะมีแต่ก็ต้องรออีกซักหน่อย ซึ่งในเดือนธันวาคมของปี 2564 (ช่วงเวลาฉายที่ญี่ปุ่น) ซึ่งจะเป็นภาพยนตร์ (หรือที่เรียกว่ามูฟวี่) โดยจะเป็นเรื่องราวและที่มาของยูตะ นักเรียนปีสองที่โกะโจยอมรับว่าจะสามารถเก่งเทียบเท่าเขาได้ ส่วนจะเข้ามั้ยนั้นก็คงต้องรอลุ้นกันต่อไป