เรียกได้ว่า เข้าบ้านเราเสียที กับสตรีมมิงที่เรารอคอยกันมานานแสนนาน ที่ต่างประเทศเขาได้ดูกันหมดแล้ว แต่บ้านเราเพิ่งจะได้ดูกัน กับ Disney+ ซึ่งของบ้านเราพ่วงกับ Hotstar มาด้วย เป็น Disney+ Hotstar โดยในบ้านเราได้เปิดให้ดูกันเมื่อวันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมานี่เอง โดยวันนี้ ผมจะมารีวิว Disney+ Hotstar ให้ได้ดูกันครับ

Disney+ Hotstar Logo

ก่อนอื่น เรามาทำความรู้จักกับสตรีมมิง Disney+ กันแบบพอเป็นพิธีนะครับ Disney+ นั้น คือบริการสตรีมมิงเจ้าดังเจ้าใหญ่ เจ้าของคือ บริษัท Walt Disney เปิดให้บริการครั้งแรกในวันที่ 12 พฤษจิกายน 2019 แน่นอนว่าที่แรกที่เปิดให้บริการ คือในสหรัฐอเมริกานั่นเอง คอนเทนต์ที่ลงให้สตรีมมิงนี้ มีทั้งที่เป็น Original Content และหนัง รวมถึงซีรี่ส์ในสตูดิโอ Walt Disney Studio และ Walt Disney Television นอกจากนี้ยังมีคอนเทนต์เจ้าอื่น ๆ อีกด้วย ได้แก่ คอนเทนต์ในเครือลูก ๆ อย่าง Pixar, Marvel, Star Wars, 20th Century Fox และสารคดีจาก National Geographic

ในปัจจุบัน Disney+ ได้ให้บริการสตรีมมิงของตนในเกือบ 60 ประเทศทั่วโลกแล้ว โดยในบ้านเรา และประเทศในแถบอาเซียนบางประเทศ ก็ได้มีการผูกสัญญากับอีกบริการสตรีมมิงสัญชาติอินเดียอย่าง Hotstar พ่วงมาด้วย นั่นทำให้ นอกจากคอนเทนต์ของ Walt Disney และสตูดิโอลูก ทางบ้านเรา ยังได้ดูคอนเทนต์ของแถบ ๆ เอเชียด้วย

สำหรับ Disney+ Hotstar ที่มีการผูกติดกัน ตอนแรกผมก็คิดว่า อาจจะมีเนื้อหาของโซนเอเชียมาก แต่พอดูเข้าจริง สัดส่วนพอดีกันเลยครับ มีทั้งคอนเทนต์ของทางจีน เกาหลี และหนังไทยหลาย ๆ เรื่องก็มีนะครับ ซึ่งตรงนี้ สำหรับผมผมมองว่าค่อนข้างเป็นกำไรมากเลยทีเดียว เพราะแต่ละเรื่องที่เขาเลือกมาลงใน Disney+ Hotstar นี้ ค่อนข้างคุณภาพทั้งนั้น อย่างของทางบ้านเราก็จะมี หนังพี่มากพระโขนง และหนังอีกหลายเรื่องของ GDH ของเกาหลีก็อย่างเช่น ซีรี่ส์ Seobok หรือหนังรางวัลอย่าง Parasite ทาง Hotstar ยังมีหนังฝรั่งอยู่ด้วยนะครับ อย่างที่ผมเพิ่งดูไปล่าสุด กับหนังรางวัล OSCAR ชนะเลิศล่าสุดอย่าง Nomadland ตรงนี้เรียกว่า รักมากเลยครับ

Disney+ Hotstar Home

ส่วนคอนเทนต์ต่าง ๆ ของ Disney และสตูดิโอลูกเองก็ไม่ต้องพูดถึง เยี่ยมยอด เรารู้กันอยู่แล้ว ผมเองเป็นติ่งหนัง Marvel ดังนั้นทั้งหนั้งทั้งหมด รวมถึงซีรี่ส์ที่เพิ่งฉายมาล่าสุด มีให้ดูที่นี่ที่เดียว หนังและหนังสั้นเรื่องอื่น ๆ ของเขาก็มีให้ดูนะครับ อยากดูการ์ตูนเรื่องไหน ที่นี่มีให้ดูหมด หรือแม่แต่การ์ตูนของ Disney ที่ผมไม่คิดว่าจะหาดูได้แล้ว ก็สามารถหาดูได้ที่นี่ อย่าง Kuzco หรือ Phineas and Ferb อันนี้หาดูยากจริง ๆ ครับ

สิ่งที่ดีงามมาก ๆ อีกสิ่งหนึ่ง และผมเองมองว่า ตรงนี้เป็นอะไรที่ใส่ใจผู้บริโภคมากเลยทีเดียว คือการมีพากย์ไทย ไม่ว่าจะเป็นหนังรางวัลของ Hotstar ที่กล่าวถึงไป หรือซีรี่ส์ที่เป็น Original Content ของตนเอง ก็มีพากย์ไทยให้เราดู แม่แต่หนังสั้นที่ไม่คิดจะมี ก็มีพากย์ไทยให้เราดู อย่างเช่นหนังสั้นจากเรื่อง Soul ที่ชื่อเรื่องว่า “22 VS Earth” ที่ผมไม่คิดว่าจะเอามาพากย์ไทย ก็มีพากย์ไทย เท่าที่ดูนะครับ ยังไม่เห็นอันไหนไม่มีพากย์ไทยเลย

ในเรื่องของการใช้งาน การใช้งานผ่านแอปพลิเคชันกับคอมพิวเตอร์ ตรงนี้ผมสังเกตว่า เขายังไม่ได้ซิงค์กันเท่าไหร่นัก อย่าง Netflix หากเราดูหนังเรื่องหนึ่งไปหยุดที่ตรงไหน ไม่ว่าจะดูในแอปพลิเคชัน หากปิดแล้วไปเปิดในคอม หรือแหล่งอื่น จะทำการเล่นต่อจากตรงนั้นโดยอัตโนมัติ ของ Disney+ Hotstar ยังไม่ได้ทำการซิงค์หากเปลี่ยนเครื่องดู แต่เพิ่งเปิดตัว ตรงนี้เป็นจุดผิดพลาดเล็ก ๆ ที่ยอมรับได้ครับ

ในเรื่องของตัวเล่นวีดีโอ และระบบภาพ เสียงต่าง ๆ ผมดูเพียงแค่ในคอมพิวเตอร์และมือถือผ่านแอปพลิเคชันเท่านั้น ในมือถือดูเหมือนจะไม่มีปัญหาใด ๆ แต่ในคอมนั้นมีติดอยู่นิดหน่อย คือขณะที่เล่นอยู่นั้น ระบบเสียงจะชัดเจน มีบ้างบางช่วงที่เสียงจะคุณภาพด้อยลง (ไม่รู้มีปัญหาเกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตหรือเปล่า) และการใช้หน้าจอต่าง ๆ ก็ใช้งานได้ง่าย ไม่ได้ลำบากอะไร

สรุปว่า ในช่วงเวลาที่บริการสตรีมมิงทางบ้านเรา รวมถึงทั่วโลกกำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือด แย่งเวลาของคนดูไปหมด Disney+ Hotstar ก็ยังคุ้มค่าควรดูอยู่ ในราคาที่ถูกมาก ๆ อยากให้สมัครของจริงกันเลยครับ อย่าดูเถื่อนกันเลย รักงานของ Disney ก็ต้องสนับสนุน Disney ด้วยนะครับ ในราคาที่ถูกแสนถูก ไม่ใช่แค่คุ้ม รับรองว่าเกินคุ้มแน่นอนครับ นอกจากตอนนี้ มีคอนเทนต์ให้เราดูกันไม่หมดแล้ว เขายังมีแผนผลิตคอนเทนต์ใหม่ ๆ มาให้เราดูเรื่อย ๆ ไม่หยุดหย่อนอีกด้วย ยังไงก็ไปดู หรือมีติดไว้นะครับ กับ Disney+ Hotstar