เมื่อช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้ จากการเลื่อนหาอะไรก็ตามดูทาง Netflix ก็ได้ไปสะดุดกับซีรี่ส์เรื่องหนึ่งเข้า ชื่อเรื่องว่า The A List ซึ่งเป็นซีรี่ส์ที่ผมเห็นอยู่นานแล้ว แต่ก็ไม่ได้คิดจะดูอะไร แต่ตอนนั้นเห็นซีรี่ส์เรื่องนี้มาพากย์ไทย บวกกับไม่มีอะไรดูด้วย มีซีซั่นเดียว กับไม่กี่ตอน และตอน ๆ หนึ่งก็อยู่ที่ประมาณครึ่งชั่วโมง ทุกอย่างลงล็อคเป๊ะ เลยมีโอกาสได้ดูเรื่องนี้ และสด ๆ ร้อน ๆ เลยกับเมื่อวาน ได้มีการนำซีซั่น 2 ของ The A List นี้เองมาลงใน Netflix หากใครจะหาดู เรียกว่าดูกันได้ยาว ๆ เลยครับ

Lisa Ambalavanar and Jacob Dudman in The A List

The A List เป็นซีรี่ส์ที่ว่าด้วยเรื่องของวัยรุ่น กับการมาค่ายฤดูร้อนบนเกาะแสนงดงามที่ตัดขาดจากโลกภายนอก ดูทั่วไปก็เหมือนกับการมาค่ายของวัยรุ่นที่แสนงดงาม น่าจะเต็มไปด้วยมิตรภาพ และความประทับใจ แต่มันกลับเป็นฝันร้ายที่ไม่อาจลืมเลือน Mia (รับบทโดย Lisa Ambalavanar) ผู้ที่คิดว่าตนเองจะมาเป็นตัวแม่แห่งค่ายฤดูร้อนบนเกาะห่างไกลที่เต็มไปด้วยแสงแดด ความโรแมนติก และการเป็นดาวเด่น แต่แล้ว การมาถึงของหญิงสาวลึกลับคนใหม่ที่ชื่อ Amber (รับบทโดย Ellie Duckles) ก็ทำให้สิ่งที่เธอคิดไว้ไม่เป็นไปตามนั้น Amber เดินเข้าไปในค่าย แย่งตำแหน่งดาวเด่นที่ควรเป็นของ Mia ด้วยความที่เป็นตัวแม่ทั้งสองคน ทำให้ Mia เกลียดเธอในทันที เพื่อน ๆ และผู้ติดตามของ Mia ไม่ช้าทั้งหมดก็หันแสงไฟไปทาง Amber นานเข้า Mia ก็เริ่มสังเกตเห็นสิ่งแปลก ๆ และเริ่มสงสัยว่า นี่เป็นมากกว่าการแข่งขันเพื่อแย่งชิงความนิยม มีบางอย่างซ่อนอยู่ในสายตาของ Amber บางอย่างที่ดูน่ากลัว บางอย่างที่ดูกระหาย เมื่อ Amber จ้องมอง เหมือนมีบางอย่างที่ร้ายกาจ มันเกิดขึ้นในหัวของผู้ที่ถูกมอง Amber ไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดา เธอมีพลังลึกลับบางอย่าง มันก็ลังแข็งแกร่งขึ้น และเป็นอันตราย สิ่งต่าง ๆ เริ่มเลวร้ายขึ้น เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร The A List จะพาคุณไปพบกับเรื่องราวของเหล่าวัยรุ่น ความรักและมิตรภาพ ความภักดีและการทรยศ ซึ่งสิ่งเหล่านี้นำมาซึ่งความรุนแรงและพลังอันลึกลับ

Jacob Dudman and Ellie Duckles in The A List

หากดูเผิน ๆ แล้ว The A List ก็น่าจะเป็นเพียงซีรี่ส์อิจฉา แย่งความเด่นดังกันของวัยรุ่นทั่วไปนี่เอง ดูจากพล็อตและดูไปช่วงแรก ๆ ผมก็เข้าใจว่าอาจจะเป็นแบบนั้นได้เลย จนเกือบจะเลิกดูเลย แต่เนื้อเรื่องค่อย ๆ พาเราเข้าไปในจุดที่ลึกขึ้น เหมือนพยายามดึงเราไปลึกลับ แต่ก็ยังไม่หยุดซีรี่ส์วัยรุ่น เหมือนจะไม่ค่อยอยากดู แต่ก็อดลุ้น อดสงสัยต่อไม่ได้ เนื้อเรื่องค่อย ๆ พาเรารู้จักหลาย ๆ ตัวละคร และไม่ให้เรารู้จักบางตัวละคร ในที่นี้หมายถึง Amber นั่นทำให้เราค่อนข้างชัดเจนว่า ซีรี่ส์ The A List นี้ ไม่ใช่ซีรี่ส์วัยรุ่น ที่ทะเลาะกันแย่งความเด่นดัง หรือแย่งผู้ชายกันธรรมดา ๆ แล้ว เอาล่ะ ไหน ๆ ก็มาขนาดนี้แล้ว ก็ดูไปจนจบเลยก็แล้วกัน แต่ไม่ได้กล้ำหลืนฝืนดูนะครับ มันก็มีอะไรให้เราพอลุ้นได้อยู่เหมือนกัน

Lisa Ambalavanar and Ellie Duckles in The A List

หากจัดหมวดหมู่ซีรี่ส์ The A List ผมจัดให้อยู่ในหมวดของ “ซีรี่ส์ดูไปรีดผ้าไป” ได้อยู่เหมือนกัน หรือจะตั้งใจดูก็ได้ เนื้อเรื่องไม่ได้ใหม่อะไร แต่ก็ไม่น่าเบื่อ ถึงจะเน้นไปที่ตัวละครวัยรุ่นหล่อสวย แต่เนื้อเรื่องก็มีให้จับ เพียงแต่ติดปัญหาอยู่ที่ เนื้อเรื่องของทั้งสองซีซั่น ซีรี่ส์ที่ทำซีซั่นต่อ จะว่าไปแล้วก็สำคัญที่การพัฒนาบท บางเรื่องอาจมีการเปลี่ยนฉาก หรืออารมณ์ไปเลย แต่ก็ยังสามารถเชื่อมโยงกับซีซั่นก่อนได้ The A List หากจะบอกว่า สองซีซั่นมีอารมณ์แตกต่างกันค่อนข้างมากก็บอกแบบนั้นได้ จะเรียกว่า เป็นการเล่าเรื่องต่อยอดจากซีซั่นแรกก็ได้ แต่ผมรู้สึกตะหงิดใจอะไรบางอย่าง มันมีมวลก้อนแปลก ๆ ที่แอบสงสัยอยู่ว่า ทำไมเลือกที่จะให้ซีซั่นสองเล่าแบบนี้ บางอันก็ไม่ค่อยสมเหตุสมผลสักเท่าไหร่ บางอันก็ง่ายดายจนเกินไป บางครั้ง (ในซีซั่น 2) เหมือนไม่มีอะไรให้เราจับ เราควรลุ้นตรงไหน เหมือนปัญหามันไม่ใหญ่พอด้วย ซีซั่นแรกปัญหาค่อนข้างใหญ่ แต่พอมาซีซั่นต่อกลับเล็กลง ตรงนี้น่าจะเป็นจุดที่ทำให้ผมดูแล้วแปลก ๆ ไปสักนิด

Jack Kane, Lisa Ambalavanar, Eleanor Bennett, Savannah Baker, Jacob Dudman, Micheal Ward, and Ellie Duckles in The A List

ตัวละครแต่ละตัว ก็อย่างที่ว่าไป ขายหล่อขายสวย ใช้พลังวัยรุ่นกันเต็มที่ แต่ไม่ใช่ว่าแย่นะครับ แต่ละตัวละคร ถึงจะไม่ได้ดีเด่นหมดทุกตัวละคร แต่ก็ใช้ได้เลย ไม่ใช่แค่หล่อสวยแบบซีรี่ส์วัยรุ่นที่ไม่ค่อยดี มันจะมีตัวละคร 3 ประเภทในเรื่อง ประเภทแรก ตัวละครหลักที่เด่น ๆ มีไม่กี่ตัว ประเภทที่สอง ตัวละครกลุ่มหลัก ไม่ค่อยเด่นแต่ก็มีบทบาท ประเภทที่สาม กลุ่มตัวประกอบ ประเภทแรกค่อนข้างชัดเจน ประเภทนี้ตัวละครทั้งหมดใช้ได้เลยครับ มีปมปัญหาและพาเราไปรู้จักดี ประเภทที่สองนี่สิผมว่าติดปัญหาอยู่หน่อย พวกเขาบางคนจางจนเกินไป จนเกือบดันไปอยู่ประเภทที่สาม ทั้งที่ควรอยู่ประเภทที่สอง แต่ก็ไม่ได้เยอะแยะครับ ยังพอกล้อมแกล้มไปได้บ้าง

หากใครไม่มีอะไรดู The A List ก็น่าดูอยู่เหมือนกันนะครับ แก้เบื่อดี ไม่เครียดมาก อารมณ์ไม่ได้พุ่งขนาดนั้น แต่ก็น่าดูดีนะครับ สนุกแบบนิ่ง ๆ ดี ดูได้ทั้งสองซีซั่นแล้วตอนนี้ ทาง Netflix ดูได้จนจบเลย ไม่น่าทำซีซั่นต่อแล้ว (ก็ไม่แน่)