เมื่อปลายปี 2020 มีหนังอนิเมชันจากค่ายดังอย่าง Pixar ที่เคยฝากผลงานเรียกน้ำตาแห่งความสุขไว้มากมาย อย่างเช่นเรื่องราวความทรงจำที่แสนพิเศษกับของรักในวัยเด็กอย่าง Toy Story หรือเรื่องราวความรักของครอบครัวอย่างเรื่อง Coco มาคราวนี้ Pixar มาเรียกน้ำตาเราอีกรอบ ด้วยอนิเมชันที่ยังคงแฝงด้วยกลิ่นอายของความแฟนตาซี ครอบครัว และการผจญภัยที่แฝงเรื่องต่าง ๆ ไว้ภายในให้เราได้คิด ให้เราได้ซึมซับความสุขจากผลงานเรื่องนี้ ผมเชื่อว่าหากคุณได้ดูหนังเรื่องนี้แล้ว คุณจะพบความสุขและความหมายของชีวิต และใช้ชีวิตทุกวันอย่างมีความหมายได้แน่นอนครับ หนังเรื่องนั้นก็คือเรื่อง Soul
Soul ว่าด้วยเรื่องราวของนักเปียโนแจ๊สหนุ่ม Joe Gardner (ให้เสียงโดย Jamie Foxx) ที่ตอนนี้ทำงานเป็นครูคุมวงและสอนดนตรีในโรงเรียนประถมแห่งหนึ่งในนิวยอร์ค ด้วยความที่ทำงานแบบไม่เต็มเวลา ทำให้ทางบ้านของ Joe ไม่ได้ชอบใจนักกับเส้นทางชีวิตที่เขาเลือก เพราะในหัวใจของเขาแท้จริงแล้วอยากเป็นนักเปียโนแจ๊ส ได้เล่นในสถานที่ซึ่งตัวเองไฝ่ฝัน ในที่สุดโอกาสก็เข้ามาหา Joe เขากำลังจะได้เล่นดนตรีในวงที่เขาต้องการ แต่เรื่องราวกลับพลิกผัน Joe กับต้องประสบกับอุบัติเหตุก่อนเวลาอันควร นั่นทำให้เขาต้องมาอยู่กึ่งกลางระหว่างโลกภายภาคหน้ากับโลกมนุษย์ แต่ดันถูกเข้าใจผิดว่าเป็นวิญญาณพี่เลี้ยง เขาถึงถูกจับมาให้ดูแลวิญญาณที่ต้องไปเกิดบนโลกมนุษย์อย่าง 22 (ให้เสียงโดย Tina Fey) แต่ดวงวิญญาณดวงนี้กลับไม่ได้อยากไปเกิดยังโลกมนุษย์ ทั้งคู่จึงวางแผนกัน ว่าให้ 22 หาเป้าหมายซึ่งเป็นสิ่งจุดประกายในการจะไปเกิดไม่สำเร็จ จะได้อยู่ที่นี่ต่อ แล้วทั้งสองก็จะช่วยกันหาทางให้ Joe กลับเข้าร่างตัวเองบนโลกให้ได้
หนังเรื่องนี้มีจุดที่น่าสนใจอยู่หลายเรื่อง อย่างแรกหนังเรื่องนี้ใช้ดนตรีแจ๊สเป็นธีมหลัก ดังนั้นดนตรีในเรื่องนี้จึงเป็นสิ่งที่ดีงามอย่างหนึ่งของเรื่อง ได้นักเปียโนแจ๊สอย่าง Jon Batiste มาเล่นเปียโนให้ ในฐานะเป็นตัวแทนของ Joe Gardner ซึ่งเป็นตัวละครหลัก ในส่วนของเรื่องราวการผจญภัยของ Joe และ 22 เรียกว่าไม่ได้แตกต่างจากหนัง Pixar หลาย ๆ เรื่อง แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ไม่ดี เพราะว่าไม่ว่าหนังจะเล่ามาแบบไหน เราจะเคยดูพล็อตแบบนี้หรือไม่ นั่นไม่สำคัญ สตูดิโอ Pixar ไม่เคยทำให้เราผิดหวังอยู่แล้ว มันสนุกในแบบของมันเสมอ แต่สิ่งที่ Pixar ให้เราคือสิ่งที่ซ่อนอยู่ในเรื่องต่างหาก ฉากในหนังเรื่องนี้จะเป็นการตัดสลับกันระหว่างโลกมนุษย์จริง ๆ กับโลกที่อยู่กึ่งกลางระหว่างโลกภายภาคหน้ากับโลกมนุษย์ ดังนั้นจึงมีทั้งความแฟนตาซี บวกกับความสมจริงอยู่ข้างในหนังเรื่องนี้ด้วย
ตัวละคร Joe Gardner ตัวเอกของเรื่อง ถึงจะอายุเข้าสู่ในช่วงวัยกลางคนแล้ว แต่สุดท้ายเขายังยืนยันถึงสิ่งที่เขารัก แม้ว่าชีวิตจะยากลำบาก คนรอบข้างที่ไม่ค่อยเห็นด้วย แต่ท้ายที่สุด Soul กำลังบอกกับเราว่า ครอบครัวก็คือครอบครัว ไม่ว่าจะไม่ชอบใจ หรือมีสิ่งใดผิดใจกันอยู่บ้าง แต่สุดท้าย ขอเพียงเราสื่อสารกัน พยายามเข้าใจซึ่งกันและกัน จนไปถึงการสนับสนุนความฝันซึ่งกันและกัน เพียงเท่านี้เราก็จะมีความสุข และชีวิตของเราจะมีความหมายด้วย ส่วนตัว 22 เอง วิญญาณที่ไม่ยอมไปเกิดเสียที เพราะเชื่อว่าโลกมนุษย์นั้นช่างแสนน่าเบื่อ อยากที่จะใช้ชีวิตอยู่ในโลกของตัวเอง แต่ในความเป็นจริงแล้วเธอแค่ยังไม่ได้ลองทำความรู้จัก ทำความรู้จักกับโลกที่เธอคิดว่าน่าเบื่อนั่นเลย การหาจุดมุ่งหมายหรือสิ่งจุดประกายนั้น Soul กำลังจะบอกเราว่า บางที สิ่งเหล่านี้อาจอยู่ใกล้แค่เอื้อมก็ได้ เพียงแต่เรากำลังละเลยมัน แล้วหันไปคว้าสิ่งอื่นที่อยู่นอกเหนือสิ่งใกล้ตัวนี้ หากคุณไม่มีความสุข เพราะคิดว่ามันหล่นหายไป Soul บอกให้เราลองหยุด แล้วมองสิ่งรอบข้าง สิ่งที่เรามีมันอยู่แล้ว แล้วลองซึมซับความสุขง่าย ๆ นั่นดู ไม่แน่คุณอาจมีความสุขกว่าที่เคยก็ได้
ไม่ว่าคุณจะกำลังอยู่ในอารมณ์แบบไหน รู้สึกไม่เข้าใจคนรอบข้างในบางครั้ง หรือทำความสุขหายไป ต้องการหาความสุขในชีวิต ไม่ว่าจะด้วยเหตุใดก็ตาม ผมขอแนะนำให้คุณดูหนังเรื่องนี้ เพราะมันจะทำงานกับหัวใจคุณอย่างแน่นอน ตอนนี้สามารถหาดูได้แล้วใน Disney+ ในบ้านเราอาจหาดูได้ยากหน่อย แต่ผมอยากให้ทุกคนได้ดูกันครับ เพราะเป็นหนังที่ควรค่าแก่การดูจริง ๆ คุณสามารถดูกับครอบครัว ดูคนเดียว หรือดูกับคนรักก็ได้ หากดูกับครอบครัวจะเป็นการดีมากครับ เป็นการสอนให้เด็ก ๆ เข้าใจในคุณค่าของตนเอง คุณค่าของชีวิต และรู้จักการเข้าอกเข้าใจผู้อื่น ไม่ว่ามีปัญหาใด ๆ ขอเพียงเราคุยกัน และพยายามทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน หากคุณดูคนเดียว คุณจะได้ซึมซับอารมณ์เต็ม ๆ ของหนังเรื่องนี้ แล้วผลึกบางอย่างที่หนังเรื่องนี้ได้ทิ้งไว้ มันจะเข้าไปอยู่ในตัว และหัวใจของคุณอีกนานแสนนานเลยครับ
