SPENSER CONFIDENTIAL (2020) เป็นภาพยนตร์แนวแอกชันปนฮาผสมความเฮงซวยของชีวิตและสามารถตั้งข้อสังเกตและตั้งคำถามกับศีลธรรมได้เป็นอย่างดี

เรื่องย่อ
SPENSER CONFIDENTIAL (2020) เสปนเซอร์ ลุย ล่า ปราบ ทรชน เป็นเรื่องราวของอดีตตำรวจที่เข้าคุกเพราะ “ไปยุ่งเรื่องของชาวบ้าน” อย่างที่แฟนสาวของเขาได้บอกกับเขาเสมอ ซึ่งคราวนี้อดีตตำรวจได้พบว่าคดีฆาตกรรมหญิงสาวที่ถูกปิดคดีไปมีบางอย่างไม่ชอบมาพากล เมื่อเขาได้กลิ่นไม่ดีจึงตามออกสืบและทำตามหลักความถูกต้องที่เขาคิดว่าควรจะทำโดยมีเพื่อนคู่หูอย่าง ฮอว์ก (รับบทโดยวินสตัน ดู๊ก) ชายหนุ่มผิวดำที่ฝึกอยู่ค่ายมวย โดยงานนี้เสปนเซอร์ต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับด้านมืดของตำรวจ แก๊งค้ายา และผู้มีอินธิพลที่สามารถปิดปากผู้คนได้

รีวิว
บอกตามตรงว่า SPENSER CONFIDENTIAL (2020) ไม่ใช่หนังที่มีฉากแคชั่นมันส์ ๆ ทั้งเรื่องอย่างที่คาดหวัง แถมตัวละครที่(ผู้เขียน)โดนตกมาจากในทีเซอร์ก็ไม่มีมีบทบาทเท่าไหร่ ทำให้ดูไปใจฝ่อไป แต่ถ้าใครที่เข้ามาดูโดยปราศจากอคติก็จะเป็นหนังที่มีทั้งแอกชัน สืบสวนสอบสวน รวมทั้งความฮาปนกับความตลกร้ายของชีวิต ซึ่งในส่วนของฉากแอกชัน การสืบสวนซึ่งเป็นประเด็นและความน่าสนใจหลักของเรื่องนั้นดูไม่ค่อยน่าติดตามและดูง่ายเกินไป รวมถึงฉาคแอกชันที่ดูธรรมดา (และอาจจะน้อยไปสำหรับหนังแอกชัน) แต่ถึงอย่างนั้นหนังก็ยังมีอะไรให้ติดตามอยู่เพราะคาแรคเตอร์ของตัวเอกที่ดูน่าสนใจและมีฉากบู้มาเป็นช่วง ซึ่งสามารถทำให้ดูได้จนจบ อารมณ์และโทนของหนังส่วนใหญ่จะค่อนข้างเครียด แม้ว่าตัวละครจะปล่อยมุกออกมาทั้งเรื่องแต่ก็ไม่ได้ลดความเครียดของหนังเลย หากใครที่ต้องการดู SPENSER CONFIDENTIAL (2020) เพื่อคลายเครียดในวันหยุดบอกได้เลยว่า คุณอาจจะต้องเครียดมากกว่าเดิม
โดยรวมแล้วภาพยนตร์เรื่อง SPENSER CONFIDENTIAL (2020) เสปนเซอร์ ลุย ล่า ปราบ ทรชน เป็นภาพยนตร์ที่ไม่ถึงกับไม่น่าดูแต่ก็ไม่ถึงกับต้องรีบดู เป็นเรื่องที่คิดว่าความสนุกอยู่ในระดับกลาง ๆ เพราะอารมณ์ของหนังที่ทำให้คนดูรู้สึกว่ามันยังไม่ถึงที่สุดทั้งในด้านของฉากแอกชันและการสืบสวน

(สปอยล์)
สิ่งหนึ่งที่ภาพยนตร์เรื่อง SPENSER CONFIDENTIAL (2020) ได้สื่อออกมาคือศีลธรรมในจิตใจมนุษย์และการตั้งคำถามกับการกระทำและศีลธรรมในจิตใจของมนุษย์ และตัวละครที่สะท้อนออกมาได้ดีที่สุดคือตัวเอกหรือ เสปนเซอร์ เพราะเขาทำในสิ่งที่คิดว่าถูกต้องโดยไม่ได้สนใจว่าผลลัพธ์ที่ออกมาจะเป็นอย่างไรหรือจะเกิดผลกระทบอะไรกับตัวเองบ้าง เขาเป็นตัวแทนของคนที่ไม่ยอมถูกกลืนกินด้วยระบบที่เขาเห็นว่ามันเน่าเหม็น เขาไม่ได้ปิดปาก ปิดหู ปิดการรับรู้ของตนเองและทำในสิ่งที่คนอื่นทำหรือการ “ตามน้ำไป” เพื่อให้ตนเองอยู่รอดในสังคมและเติบโตในที่ทำงาน ซึ่งเขาได้แสดงออกทางความคิดและการกระทำอย่างสุดโต่ง โดยผลที่ตามมาคือความไม่สงบสุขในชีวิตและผลกระทบที่สามารถส่งผลต่อชีวิตและชี้เป็นชี้ตายเขาได้เลย แต่ด้วยความที่เขาพระเอก เขาจึงสกิลความเทพและความตายยากโดยธรรมชาติ ซึ่งมันก็ทำให้ดูหนังได้สนุกขึ้นเพราะได้ร่วมลุ้นไปกับตัวเอกและเชื่อว่า “พระเอกเป็นตัวหลักคงไม่ตายแน่ ๆ ”
คำถามคือ ทำไมเสปนเซอร์ถึงไม่ก้มหน้าก้มตาทำงานเพื่อความก้าวกน้าในอาชีพ ทั้ง ๆ ที่เขาก็เป็นคนเก่งและมีความสามารถ โดยส่วนตัวแล้วมองว่าด้วยความเป็น “ตัวตน” ของเสปนเซอร์ เขาไม่สามารถละเลยสิ่งที่ไม่ถูกต้องได้ และหากเขาปล่อยละเลยสิ่งนี้ไปเขาก็จะรู้สึกว่าคุณค่าในชีวิตและความเป็นตัวตนของเขาได้หายไปเช่นกัน ตลอดทั้งเรื่องจะมีตัวละครที่พูดกับเขาอยู่เสมอว่าเสปนเซอร์ชอบหาเรื่องใส่ตัวหรือไม่ก็หยุดหาเรื่องใส่ตัวได้แล้ว แต่เขาก้ไม่หยุดและทำมันราวกับว่าการล้างบางสิ่งที่ไม่ถูกต้องเป็นอาชีพของเขา แม้ว่าเขาจะไม่ได้อะไรตอบแทน แต่การที่ทำสิ่งต่าง ๆ ให้ถูกต้องหรืออย่างน้อยก็ทำอะไรซักอย่างกับเหตุการณ์ที่เขาไม่เห็นว่าไม่เหมาะไม่ควรตรงหน้าก็เป็นสิ่งทำให้เขาได้สนองความต้องการของเขาเองด้วย เขาเป็นตัวละครที่ใกล้เคียงคำว่า “งอไม่ได้แต่หักได้”
อีกหนึ่งสิ่งที่อยากจะนำเสนอจากเรื่อง SPENSER CONFIDENTIAL (2020) คือเรื่องทางเลือกในชีวิต สิ่งที่ควรทำกับสิ่งที่ไม่ควรทำ ซึ่งจะเห็นได้ว่าตัวละครเสปนเซอร์นั้นมีทางเลือกและวิธีการของตนเอง ยึดมั่นในสิ่งที่คิดว่าถูกต้องอย่างที่แฟนสาวของเขาได้กล่าวไว้ว่า
“คุณน่ะชอบทำสิ่งที่ถูกต้องตามหลักจริยธรรมของตนเอง”
ซึ่งสามารถสรุปและอธิบายสิ่งที่เสปนเซอร์ทำได้ในประโยคเดียว
ทำให้เราได้กลับมาคิดว่าทางเลือกที่มีที่เราไม่รู้ว่าหากเลือกไปแล้วมันจะพาเราไปสู่ทิศทางไหน ดีขึ้นหรือแย่ลง ไม่มีใครรู้ได้ เพราะฉะนั้นเราก็ควรเลือกทางเดินของตัวเองด้วยตัวของตัวเองจะได้ไม่ต้องเสียใจและเสียดายในภายหลัง เหมือนเสปนเซอร์ที่เขาได้ตัดสินใจแล้วว่าจะฝ่าฝืนกฎหมายเพื่อทำในสิ่งที่เขาต้องการคือการทำร้ายร่างกายผู้กองจอห์น บอยแลน
คำถามคือ ถ้าเราอยู่ในสถานการณ์เดียวกับเสปนเซอร์เราจะเลือกทางไหน แน่นอนว่าคำตอบนั้นขึ้นอยู่กับตัวบุคคลและไม่มีถูกผิด คนทุกคนบนโลกมีวิธีคิดและความเชื่อของตนเอง มีเหตุจำเป็นของตนเอง เพราะก็ต้องยอมรับว่าวิธีคิดและการกระทำของเสปนเซอร์ค่อนข้างจะเป็นอุดมคติและถึงแม้จะเป็นเช่นนั้นเราก็ยังคิดว่าควรมีคนแบบนี้บนโลกเยอะ ๆ เพราะคนที่จะเต็มใจเสียสละตนเองเพื่อต่อสู้กับความอยุติธรรมนั้นไม่ได้มีเยอะนัก พวกเขามีความคิดที่ยิ่งใหญ่คือต้องการจะแก้ไขในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ถึงแม้ว่าการกระทำเหล่านั้นจะไม่ได้เปลี่ยนโลกและความจริงที่เป็นอยู่โดยทันที แต่อย่างน้อยความเสียสละนั้นก็เป็นสิ่งหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่ายังมีกลุ่มคนที่ยังไม่หมดหวังในการสร้างความเปลี่ยนแปลงไปในทางดี รวมทั้งจุดเริ่มต้นที่ดูเล็กน้อยที่พวกเขาทำก็อาจสร้างพลังและแรงกระเพื่อมที่ยิ่งใหญ่ได้ในอนาคต

(สปอยล์)
อีกหนึ่งตัวละครที่สร้างสีสันและเสน่ห์ให้กับภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นอย่างมากคือแฟนสาวของเสปนเซอร์ที่มีอารมณ์ที่รุนแรง วีนง่ายและเดาใจอะไรไม่ได้เลย แต่ก็พอเข้าใจในเรื่องนิสัยของนางเอก เพราะปกติก็อารมณ์ร้อนอยู่แล้ว แล้วแฟนตัวดีก็ดันต้องเข้าคุก 5 ปี เพราะไปยุ่งเรื่องชาวบ้านอีก ซึ่งก็ยิ่งเพิ่มความฮาร์ดคอร์ของนางเอกขึ้นไปอีก
สรุป
โดยรวมแล้ว SPENSER CONFIDENTIAL (2020) เสปนเซอร์ ลุย ล่า ปราบ ทรชน เป็นภาพยนตร์แอกชัน สืบสวนสอบสวน ที่ปนมุกตลกและความฮาแบบดาร์ก ๆ เข้ามาในเรื่อง ซึ่งภาพรวมของหนังก็ไม่ได้ทำให้ผิดหวังนัก หากคุณตัดสินใจดูแล้วก็ควรที่จะทำจิตใจให้สบายและสนุกไปกับสิ่งที่ภาพยนตร์มอบให้ โดย SPENSER CONFIDENTIAL (2020) มีความยาว 1 ชั่วโมง 51 นาที และสามารถรับชมได้ทาง NETFLIX ค่ะ