นี่คือรายละเอียดต่าง ๆ ที่ถูกเปิดเผยออกมาในตัวอย่างของหนัง Jurassic World: Dominion ตัวอย่างพิเศษ 5 นาที ที่ปล่อยมากับหนัง F9 ที่ฉายในระบบ IMAX

หนังเรื่อง Jurassic World: Dominion มีการเปิดเผยตัวอย่างออกมาให้เราได้เห็นกัน ปะหน้าการฉายหนังเรื่อง F9 ในระบบ IMAX เท่านั้น (ที่สหรัฐอเมริกา) จากตัวอย่างที่ถูกเปิดเผยออกมา เราจะได้เห็นรายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับหนังภาคนี้ รวมถึง Easter Egg ต่าง ๆ ด้วย ภาคต่อของหนัง Jurassic Park ของผู้กำกับ Steven Spielberg ที่ในตอนแรก เราเชื่อกันว่าจะไม่มีการสร้างภาคต่อแล้ว จากเรื่องราวตอนจบที่ค่อนข้างจะชัดเจน และดูเหมือนว่ามือเขียนบท Michael Crichton ยังไม่ได้มีการเขียนบทในเรื่องราวภาคต่อเลย แต่ถึงอย่างนั้น ด้วยความสำเร็จอันน่าทึ่งของหนังเรื่องนี้ ทำให้หนังในแฟรนไชส์ Jurassic ก็ได้มีการขยายภาคต่ออีก 2 ภาค คือ Jurassic Park: The Lost World ในปี 1997 และ Jurassic Park 3 ในปี 2001 ในอีก 14 ปีต่อมา ก็ได้มีการขยายจักรวาลนี้ขึ้นอีก กับหนังภาคต่อ Jurassic World ในปี 2015 และ Jurassic World: Fallen Kingdom ในปี 2018
ด้วยเหตุนี้เองทางสตูดิโออย่าง Universal Pictures ได้ปลุกกระแสความนิยมให้กับหนังและซีรี่ส์ทั้งหมดในแบรนด์ Jurassic ซึ่งรวมถึงหนังสั้นเรื่อง Battle at Big Rock และซีรี่ส์แอนิเมชันที่ฉายทาง Netflix เรื่อง Jurassic World: Camp Cretaceous ซึ่งทั้งสองเรื่องนี้มีการเชื่อมโยงเข้ากับเรื่องราวของหนังด้วย จนถึงตอนนี้ทั้งสองโปรเจกต์ที่ได้กล่าวมาได้ถูกสร้างขึ้นจากเหตุการณ์ในหนัง Jurassic World และ Jurassic World: Fallen Kingdom และท้ายที่สุด ซีรี่ส์ Jurassic World: Camp Cretaceous จะมีการเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ต่าง ๆ ของหนังในภาค Jurassic World: Dominion ยังไม่มีความชัดเจนถึงเรื่องราว ว่าจะเชื่อมโยงกันได้อย่างไร เรายังไม่มีข้อมูลในเรื่องนั้น ดังนั้นสำหรับตอนนี้ สิ่งที่เราพอจะสามารถเก็บข้อมูลได้ ก็คือตัวอย่างหนัง Jurassic World: Dominion ที่ปล่อยออกมาในโรงภาพยนตร์ IMAX นี่เอง
การฉายหนังเรื่อง F9 ในโรงภาพยนตร์ IMAX ได้มีการแนบตัวอย่างความยาวถึง 5 นาทีของหนังเรื่อง Jurassic World: Dominion ซึ่งแสดงให้เห็นเหตุการณ์ต่าง ๆ ในหนังเรื่องนี้ และยังได้มีฉากสั้น ๆ 3 ฉาก ที่แสดงให้เห็นถึงการที่ไดโนเสาร์ยึดครองโลก ฉากแรกจะเป็นฉากที่เกิดขึ้นในยุค Cretaceous ซึ่งต่อไปก็ได้มีการเปลี่ยนเป็นฉากของโลกปัจจุบัน และไดโนเสาร์ T-Rex และจบลงด้วยโลโก้ใหม่ของหนัง Jurassic World: Dominion สีเหลืองอำพัน แต่จริง ๆ แล้วมันมีรายละเอียดมากกว่านั้นมาก วันนี้ผมจะพาทุกคนมาเจาะลึกตัวอย่างใหม่ของหนัง Jurassic World: Dominion นี้กัน
ฝูงไดโนเสาร์แห่งยุค Cretaceous

Dr. Alan Grant and Dr. Ellie Sattler ได้มีแนวคิดที่ว่า ไดโนเสาร์นั้นออกหากิน และเคลื่อนที่กันเป็นฝูง ซึ่งแนวคิดนี้ถูกพิสูจน์ว่าเป็นความจริง เมื่อพวกเขาได้เดินทางมาที่ Jurassic Park เป็นครั้งแรกในหนังภาคต้นฉบับ ในตัวอย่างใหม่เวอร์ชัน IMAX ของหนังเรื่อง Jurassic World: Dominion ได้แสดงให้เห็นถึงไดโนเสาร์สายพันธุ์ต่าง ๆ ที่มีการเดินทางเป็นฝูง พวกมันรู้สึกสบายใจและผ่อนคลายเมื่อได้อยู่ด้วยกันในช่วงยุค Cretaceous ตัวอย่างนี้จะเปิดขึ้นพร้อมกับฝูง Dreadnoughtus และ Quetzalcoatulus ที่เดินไปมาอย่างอิสระในทะเลทราย เช่นเดียวกับตอนจบของหนัง Jurassic Park: The Lost World ที่ไดโนเสาร์ได้มีการสร้างระบบนิเวศของตัวเอง ไดโนเสาร์ในช่วงยุคนี้ส่วนใหญ่ จะมีการอยู่อาศัยกันอย่างสงบและไม่มีการรุกล้ำสายพันธุ์อื่น ๆ
ไดโนเสาร์สายพันธุ์ใหม่แห่งแฟรนไชส์ Jurassic

สตูดิโอ Universal Pictures ได้มีการเปิดเผยไดโนเสาร์ใหม่ 7 สายพันธุ์ในตัวอย่างหนัง Jurassic World: Dominion ซึ่งไดโนเสาร์เหล่านี้ยังไม่เคยพบเห็นในหนัง Jurassic เรื่องอื่น ๆ มาก่อน ได้แก่ Giganotosaurus, Dreadnoughtus, Quetzalcoatulus, Oviraptor, Nasutoceratops, Iguanodon และ Morus Intrepidus ในฉากเปิดของตัวอย่างนี้ ที่เราได้เห็นการเดินทางของฝูงไดโนเสาร์สายพันธุ์หนึ่งที่ดูเหมือนจะเป็นสายพันธุ์ Triceratops แต่ที่จริงแล้วเป็นสายพันธุ์ Nasutoceratops ซึ่งเป็นไดโนเสาร์สายพันธุ์ที่มีเอกลักษณ์และลักษณะคล้ายกับ Triceratops แต่มีเขาที่สั้นกว่า
หลังจากนั้นเราจะได้เห็นไดโนเสาร์ประเภทบินได้ Quetzalcoatulus ที่บินไปรอบ ๆ จากนั้นก็เป็นสายพันธุ์ Oviraptor ซึ่งเป็นไดโนเสาร์ที่มีขน และอาศัยอยู่ในถ้ำ กับไข่ไดโนเสาร์ที่มีขนาดใหญ่พอสมควร (ขนาดของไข่ไดโนเสาร์พันธุ์นี้มีความใกล้เคียงกับไข่ของ Velociraptor ที่เราได้เห็นกันในหนัง Jurassic Park 3) หลังจากนั้น เราจะได้เห็นไข่แตกออก และไดโนเสาร์พันธุ์นี้ก็ได้กินตัวอ่อนที่อยู่ข้างใน เราจะได้ยินเสียงคำรามด้วย แม้ว่าจะยังไม่ชัดเจนว่าเป็นไข่ไดโนเสาร์ประเภทใด จากภาพด้านบนคือไดโนเสาร์พันธุ์ Morus Intrepidus ไดโนเสาร์ตัวเล็กที่กินไดโนเสาร์ตัวใหญ่ที่หลับอยู่ นอกจากนี้ในฉากนี้เราจะได้เห็นไดโนเสาร์สายพันธุ์อื่น ๆ อีกด้วย รวมถึงไดโนเสาร์ตัวใหม่ที่ใหญ่กว่า และกำลังต่อสู้กับ T-Rex อยู่
T-Rex กับความพ่ายแพ้ในการต่อสู้ (อีกครั้ง)

กลายเป็นเรื่องธรรมดาของหนังแฟรนไชส์นี้ไปแล้ว กับการที่เราจะได้เห็นไดโนเสาร์ T-Rex กำลังต่อสู้กับไดโนเสาร์อีกตัว ซึ่งมักจะเป็นเซอไพรส์ใหม่ในหนังทุกภาค ในหนัง Jurassic Park 3 เราจะได้เห็นไดโนเสาร์ T-Rex สู้กับ Spinosaurus และในภาค Jurassic World ที่ T-Rex สู้กับ Indominus Rex การต่อสู้ตัวต่อตัวจะเกิดขึ้นอีกครั้ง จากที่เราได้เห็นในตัวอย่างหนัง Jurassic World: Fallen Kingdom ในยุค Cretaceous โดย T-Rex ได้ต่อสู้กับไดโนเสาร์พันธุ์ Giganotosaurus และนี่เป็นครั้งแรก ที่ไดโนเสาร์พันธุ์ Giganotosaurus ได้ปรากฏตัวในหนังแฟรนไชส์นี้ และคาดว่าจะมีบทบาทสำคัญมากขึ้นในยุคสมัยใหม่เช่นกัน ไม่ใช่แค่นั้น แม้ว่า T-Rex จะเป็นตัวเอกของหนังในแฟรนไชส์ Jurassic Park มาโดยตลอด แต่ส่วนใหญ่ที่เราเห็น คือมันมักจะแพ้ โดยที่ไม่มีใครมาช่วยเหลือมันเกือบทุกครั้ง รวมถึงในตัวอย่าง Jurassic World: Dominion ด้วย ที่เราจะได้เห็นไดโนเสาร์พันธุ์ Giganotosaurus กัดคอ T-Rex และฆ่ามันอย่างโหดเหี้ยม
จุดกำเนิดแฟรนไชส์หนัง Jurassic

การที่เราได้เห็นการต่อสู้ของไดโนเสาร์ T-Rex นั้น ให้ความรู้สึกเหมือนกับการย้อนกลับไปดูการต่อสู้ครั้งก่อน ๆ ในหนังหลายภาคที่ผ่านมา แต่ในครั้งนี้ที่เกิดขึ้น จะเป็นครั้งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในแฟรนไชส์หนังเรื่องนี้ ในหนังเรื่อง Jurassic Park ภาคแรก ผู้กำกับ Steven Spielberg ได้มีการอาศัยแอนิเมชันเพื่อถ่ายทอดออกมาได้เห็นถึงเรื่องราวแรกเริ่มของการได้รับ DNA ของไดโนเสาร์ ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร ซึ่งคำตอบที่ได้ คือการสกัดเลือดจากยุงที่เป็นฟอสซิล ซึ่งดูดเลือดของไดโนเสาร์เมื่อหลายล้านปีก่อน น่าเสียดายที่เทคโนโลยีของการสร้างหนังในสมัยนั้นยังไม่สามารถทำให้ฉากนี้เกิดขึ้นจริง ๆ ได้ แต่ในที่สุดในหนังภาคนี้ Colin Trevorrow ก็ทำให้แอนิเมชันในหนังภาคแรกนั้นมีชีวิตขึ้นมาจริง ๆ ได้ เมื่อไดโนเสาร์ T-Rex ตาย มียุงตัวหนึ่งมาดูดเลือดของมันและบินหนีไป ฉากนี้เป็นเพียงฉากเล็ก ๆ เท่านั้น แต่เรียกได้ว่ามีความสำคัญอย่างมากต่อแฟรนไชส์หนังทั้งหมด และเป็นสิ่งที่ผู้กำกับ Steven Spielberg ใฝ่ฝันที่จะทำให้ฉากนี้เกิดขึ้นในช่วงต้นทศวรรษที่ 1990 นอกจากนี้ผู้กำกับ Colin Trevorrow ยังได้มีการยืนยันว่า นี่คือไดโนเสาร์ T-Rex ที่ให้ DNA สำหรับการโคลน และเป็นจุดกำเนิดของแฟรนไชส์นี้ตั้งแต่แรกเริ่ม
65 ล้านปีต่อมา

หากเราดูจากตอนจบของหนัง Jurassic World: Fallen Kingdom ซึ่งเราจะเห็นว่าเหล่าไดโนเสาร์ได้หลบหนีออกจากคฤหาสน์ Lockwood และเริ่มมีการเดินทางอย่างอิสระในโลกจริง ๆ ในตัวอย่างนี้ได้มีการเผยให้เห็นข้อความที่ว่า “65 ล้านปีต่อมา” สิ่งนี้อาจทำให้คนดูเข้าใจผิดบางอย่างได้ ข้อความนี้ได้เกิดขึ้นเมื่อมีการเปลี่ยนฉากจากอดีตสู่ปัจจุบัน จากที่เราเห็นนั้นเหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นในยุค Cretaceous ถึงแม้ว่าหนังชุดนี้จะเป็นหนังที่เกี่ยวข้องกับไดโนเสาร์และใช้ชื่อว่า “Jurassic” แต่แนวคิดที่ว่าเราไดโนเสาร์สูญพันธุ์ในช่วงยุค Jurassic นั้นไม่ใช่เรื่องจริง ในความเป็นจริงแล้ว ไดโนเสาร์เหล่านี้ได้สูญพันธุ์ในช่วงยุค Cretaceous ซึ่งตรงกับช่วงเวลา “65 ล้านปีก่อน”
T-Rex แห่ง Fallen Kingdom กับการถูกตามล่า

ฉากหนึ่งในปัจจุบัน เราจะเห็นเฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่งกำลังบินอยู่เพื่อค้นหาไดโนเสาร์ T-Rex ซึ่งเป็นไดโนเสาร์ตัวเดียวกับที่หลุดมาจากเกาะ Isla Nublar ในหนังภาค Jurassic World: Fallen Kingdom ฉากและเหตุการณ์ต่าง ๆ ของหนังภาคนี้เกิดขึ้นหลังจากภาค Jurassic World: Fallen Kingdom ซึ่งเป็นช่วงเวลา 4 ปีที่แล้ว และเกิดขึ้นในปีเดียวกับช่วงเวลาที่ฉายหนังภาคก่อน และภาคใหม่นี้ที่จะฉายในปี 2022 จากฉากนี้ทำให้เราได้เห็นว่า ไดโนเสาร์เหล่านี้ยังคงอาศัยอยู่ในโลกของเรา และยังคงเป็นอิสระยังไม่ได้ถูกจับเป็นเวลา 4 ปี และอาศัยอยู่ใน Sierra Nevada หากรวมกับข้อมูลในหนังสั้นของ Jurassic World เรื่อง Battle at Big Rock ทำให้เราได้รับรู้ข้อมูลที่มากขึ้นพอสมควร แต่มันไม่ใช่แค่นั้น ไดโนเสาร์เหล่านี้ยังทำให้โลกกลับคืนสู่โลกที่ควรจะเป็นขึ้นมาทีละน้อยอีกด้วย
การอาละวาดของ T-Rex และ Easter Egg จากหนัง Jurassic Park

เราจะได้เห็นไดโนเสาร์ T-Rex ที่ถูกไล่ล่าโดยเฮลิคอปเตอร์ เข้ามาในโรงหนัง Drive-In ในฉากนี้อาจจะมีการนำเหตุการณ์ในปัจจุบันของเรามารวมในหนังก็ได้ อย่างเช่นการระบาดใหญ่ของโลกที่เรากำลังเผชิญอยู่ และอีกอย่างจากเหตุการณ์นี้ แสดงให้เราเห็นว่าไดโนเสาร์นั้นยังเป็นอันตรายต่อมนุษย์ ไดโนเสาร์สายพันธุ์ต่าง ๆ อย่าง Pterosaur, T-Rex หรือ Velociraptor สามารถปรากฏตัวออกมาได้ตลอดเวลา อย่างที่เราเห็นกับการปรากฏตัวของ T-Rex ในฉากนี้ การที่ผู้คนกรีดร้องและวิ่งหนี ไดโนเสาร์ที่พลิกรถโดยมีคนอยู่ข้างใน ซึ่งฉากนี้เอง มีการเชื่อมโยงกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวละคร Lex และ Timmy ในหนัง Jurassic Park ภาคแรก แม้แต่วิธีการที่ T-Rex ใช้ในการผลักรถคันนั้นก็ยังชวนให้นึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในหนังภาคแรกในปี 1993
ยังคงมีความขบขันในหนัง Jurassic World อยู่

อารมณ์ขันหรือมุกตลก ๆ ก็ทำให้หนังมีสีสันขึ้นได้ แม้ว่าในหนัง Jurassic Park ภาคแรก ๆ จะมีสิ่งเหล่านี้อยู่น้อย แต่กลับกันในหนังภาค Jurassic World กลับมีความชัดเจนในเรื่องของความตลกขบขันอยู่ โดยเฉพาะในหนัง Jurassic World ในปี 2015 สิ่งเหล่านี้ยังคงอยู่ และรวมอยู่ในตัวอย่างของหนัง Jurassic World: Dominion ในภาคนี้ด้วย ที่เราได้เห็นในฉากของคู่ชายหญิงจูบกัน และมีการแบ่งอาหารให้ไดโนเสาร์ T-Rex ด้วยมันเป็นฉากที่ดูตลก และคาดว่าจะมีอารมณ์ขันอยู่ในหนังภาคนี้ เพื่อสร้างสมดุลระหว่างความน่าตื่นเต้นกับความตลกนี้ด้วย
T-Rex คำราม ไอคอนสำคัญของหนัง Jurassic

ฉากที่ดีที่สุดฉากหนึ่ง และเป็นที่รู้จักที่สุดของแฟรนไชส์ Jurassic เรียกได้ว่าเป็นไอคอนสำคัญของหนังเลยก็ว่าได้ คือการได้เห็นไดโนเสาร์ T-Rex โก่งตัวและคำราม มีการแสดงให้เห็นฉากนี้ในหนังเกือบทุกภาค รวมถึงตอนจบของทั้งสองภาค Jurassic World และ Jurassic World: Fallen Kingdom และแน่นอน กลับมาอีกครั้งในตอนเริ่มต้นของหนัง Jurassic World: Dominion ด้วย หลังจากที่ไดโนเสาร์ T-Rex ได้เข้าไปในโรงหนัง Drive-In แล้ว มันก็เดินไปที่หน้าจอของโรงหนัง และคำรามออกมา อันเป็นสัญลักษณ์ของหนังแฟรนไชส์นี้ ขณะที่ผู้คนกำลังหนี ตอนนั้นเองที่เจ้าหน้าที่ในเฮลิคอปเตอร์พยายามโจมตี T-Rex ด้วยยาสลบ แต่ก็พลาด ไดโนเสาร์ T-Rex ค่อย ๆ เดินออกจากหน้าจอ และในที่สุดก็สิ้นสุดฉากนี้
โลกแห่งไดโนเสาร์ กับ Jurassic World: Dominion

การที่เราได้เห็นไดโนเสาร์ T-Rex โจมตีโรงหนัง Drive-In เป็นเพียงส่วนเล็ก ๆ ของการแสดงให้เห็นการครองโลกของไดโนเสาร์ในหนัง Jurassic World: Dominion อีกฉากหนึ่งเราจะได้เห็นฉากของวีดีโอที่ถ่ายจากโทรศัพท์มือถือ ที่มีการถ่ายติดไดโนเสาร์สายพันธุ์ Gallimimus บริเวณละแวกบ้านของเขา (Gallimimus เป็นไดโนเสาร์สายพันธุ์ที่ Alan, Timmy และ Lex เห็นอยู่กันเป็นฝูงในหนัง Jurassic Park ภาคแรก) จากตอนจบของหนังภาค Jurassic World: Fallen Kingdom เราจะได้เห็นไดโนเสาร์ Raptor ที่ชื่อว่า Blue (ซึ่งกลับมาในซีรี่ส์ Jurassic World: Camp Cretaceous ซีซั่น 3) แสดงให้เห็นว่า มีไดโนเสาร์จำนวนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นตามบริเวณที่อยู่อาศัยของผู้คน เช่นเดียวกับสัตว์อื่น ๆ จากฉากนี้แสดงให้เราเห็นว่าไดโนเสาร์มีอยู่ทั่วทุกที่ เนื่องจากฉากนี้เป็นฉากที่ถ่ายจากโทรศัพท์ของบุคคลคนหนึ่ง จึงเป็นไปได้ว่าในหนังจะมีการเผยให้เห็นว่าไดโนเสาร์ทำอะไรมาบ้างตั้งแต่ภาคก่อน เหมือนกับที่มีการถ่ายติดไดโนเสาร์ Mosasaurus ที่ชายหาด รวมถึงฉากอื่น ๆ ที่มีการถ่ายเป็นคลิป ในตอนจบของหนังภาค Jurassic World: Fallen Kingdom ด้วย
Jurassic World: Dominion กับ Battle at Big Rock

ฉากหนึ่งในหนังเรื่องนี้ กับการกลับมาของ Battle at Big Rock หนังสั้นของ Jurassic World ที่ออกฉายในปี 2019 ในหนังสั้นนั้นเราจะได้เห็นไดโนเสาร์ Allosaurus โจมตีกลุ่มคนตั้งแคมป์ และพลิกรถตู้ของพวกเขา ผู้กำกับ Colin Trevorrow ได้บอกเอาไว้ว่า ฉากนี้เป็นการแสดงจากมุมมองของคนอื่น ๆ ที่เห็นไดโนเสาร์พลิกคว่ำรถตู้ เรื่องราวของ Battle at Big Rock เกิดขึ้น 3 ปีก่อนเหตุการณ์ในหนัง Jurassic World: Dominion เราจึงจะไม่ได้เห็นเรื่องราวนี้ในหนัง แต่มันจะเป็นเพียงแค่ตัวอย่างหนึ่งของสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา
Mosasaurus จาก Jurassic World กับการกลับมาอีกครั้งใน Dominion

ฉากสุดท้ายในตัวอย่างนี้ เราจะได้เห็นการกลับมาของไดโนเสาร์ Mosasaurus ซึ่งเป็นหนึ่งในไดโนเสาร์ตัวใหม่ที่ได้มีการเปิดตัวในหนัง Jurassic World และมีการกลับมาในช่วงเวลาสั้น Jurassic World: Fallen Kingdom เพื่อแสดงให้เราคนดูเห็นว่า ในช่วงเวลานี้ได้มีไดโนเสาร์เกิดขึ้นทุกหนแห่งแล้ว ไม่ใช่แค่ใน Sierra Nevada เท่านั้น ไดโนเสาร์ Mosasaurus ว่ายแหวกน้ำและกัดแหอวนของเรือลากอวน ยังไม่แน่ชัดว่าไดโนเสาร์ Mosasaurus อยู่ที่ส่วนไหนของโลก แต่ก็อาจจะเป็นได้ที่ว่าน่าจะอยู่ที่ไหนสักแห่งมหาสมุทรแปซิฟิก เนื่องจากเกาะ Isla Nublar อยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิก เว้นแต่ไดโนเสาร์ Mosasaurus จะออกเดินทางไปทั่วโลกแล้ว
โลโก้ของ Jurassic World: Dominion

จากตัวอย่างของหนัง Jurassic World: Dominion จบลงด้วยโลโก้ใหม่ของหนังเรื่องนี้ โดยเราจะเห็นเป็นสีเหลืองอำพัน โลโก้นี้เป็นโลโก้อย่างเป็นทางการของหนัง Jurassic World: Dominion ที่ปล่อยออกมาเมื่อเดือนตุลาคมปี 2020 ทางสตูดิโอ Universal เลือกที่จะใช้โลโก้นี้แทนที่จะนำโลโก้ดั้งเดิมของหนังไตรภาค Jurassic World ที่เป็นสีน้ำเงิน-เทามาใช้ ดูเหมือนว่าทีมผู้สร้างต้องการจะบอกว่า นี่คือบทสรุปของหนังสือแฟรนไชส์นี้ แต่จากที่เราได้เห็นยุงดูดเลือดของ T-Rex ก่อนหน้านี้ในตัวอย่าง แสดงว่ามันอาจมีความหมายลึกซึ้งนอกเหนือจากนี้ก็เป็นได้ เราอาจจะได้เห็นความจริงในหนัง Jurassic World: Dominion ที่เล่าเรื่องต่าง ๆ ของหนัง Jurassic Park มากขึ้น และนี่เองก็อาจเป็นเหตุผลที่ว่ามีตัวละครหลายตัวจากหนังภาคก่อนกลับมาในหนังภาคใหม่นี้
นี่เป็นรายละเอียดของตัวอย่างหนังภาคสุดท้านของแฟรนไชส์ Jurassic กับ Jurassic World: Dominion ที่ปล่อยออกมาแนบกับหนัง F9 ในโรง IMAX หวังว่าจะปล่อยออกมาให้เราได้ดูกันโดยทั่วไปเร็ว ๆ นี้ ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเกินรออย่างแน่นอน