รักมาก ๆ กับซีรี่ส์หนึ่งเรื่องที่เพิ่งจะฉายทาง Netflix ดู ๆ จากโปสเตอร์แล้วก็น่าจะเป็นซีรี่ส์ที่มีความน่ารัก เล่าถึงเรื่องของหนูน้อยครึ่งคนครึ่งสัตว์ที่แสนตื่นเต้นและน่าประทับใจ แต่…อย่าให้ภาพน่ารัก ๆ นั้นหลอกคุณเชียว นี่เป็นซีรี่ส์ที่มีทั้งเรื่องราวและตัวละครที่น่ากลัว และแฝงไปด้วยประเด็นสังคมที่แสนหนักหน่วงอยู่ข้างในเต็มไปหมด

Sweet Tooth เป็นซีรี่ส์ที่ได้ถูกดัดแปลงมาจากหนังสือการ์ตูนในเครือของ DC Comics เขียนโดย Jeff Lemire เรื่องราวในซีรี่ส์ ว่าด้วยเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว การระบาดใหญ่ของเชื้อไวรัสปริศนาได้คร่าชีวิตผู้คนบนโลกไปมาก และนำไปสู่การกำเนิดขึ้นของเด็กทารกครึ่งสัตว์ที่ถูกเรียกว่า “ไฮบริด” ถึงจะยังไม่แน่ชัดว่าไฮบริดทำให้เกิดโรคระบาดใหญ่นี้หรือไม่ แต่หลายคนก็คิดแบบนั้น และตามล่าเหล่าเด็กไฮบริดมาตลอดสิบปีนี้ Gus (รับบทโดย Christian Convery) ลูกผสมกวาง อาศัยอยู่ในป่าลึกกับพ่อ เมื่อ Gus อายุได้เก้าขวบ พ่อของเขาก็ได้เสียชีวิตจากผู้บุกรุก เขาอาศัยอยู่ด้ยตนเองมาอีกสักพัก ก่อนที่จะค้นพบกล่องซึ่งพ่อของเขาฝังเอาไว้ ภายในมีเบาะแสเกี่ยวกับแม่ของเขา และ Colorado ในที่สุดการเดินทางของ Gus และเพื่อนร่วมทางใหม่ Tommy Jepperd (รับบทโดย Nonso Anozie) จึงเริ่มต้นขึ้น

ผมไปแอบส่องเนื้อเรื่องในหนังสือการ์ตูนมา ต้องบอกเลยว่าแตกต่างจากเนื้อเรื่องในซีรี่ส์อยู่มาก อาจเพราะในซีรี่ส์ต้องการนำเสนอถึงเรื่องของโรคระบาดใหญ่ น่าจะให้เข้ากับยุคสมัยปัจจุบันของเรา พร้อมกับสิ่งที่ควรทำเมื่อพบเจอกับสถานการณ์เหล่านี้ นี่เป็นเรื่องที่ดีและผมชอบมากอย่างหนึ่งกับซีรี่ส์เรื่องนี้ ไว้จะมาคุยกันในตอนท้าย
แพ้ทางมาก กับซีรี่ส์หรือหนังแนว Post-Apocalyptic หรือวิกฤติหลังวันสิ้นโลก อย่างพวก The 100, The Maze Runner, Mad Max อะไรพวกนั้น สำหรับเรื่องนี้ Sweet Tooth เป็นซีรี่ส์ที่ผมเรียกการดำเนินเรื่องแนวนี้ว่า “การดำเนินเรื่องแบบ Netflix” คือ มีการนำเสนอตัวละครหลัก ไม่ใช่เพียงแค่คนเดียว หรือกลุ่มเดียว ทั้งหมดเดินทาง และมีการพัฒนาบทไปพร้อม ๆ กัน และสุดท้าย หรืออาจมีสักตอนหนึ่ง ที่แต่ละตัวละคร หรือแต่ละกลุ่มหลักมีโอกาสได้เจอกัน ซึ่งนี่เองเป็นเหมือนท่าไม้ตายของซีรี่ส์ Netflix (รวมถึงซีรี่ส์ฝรั่งบางเรื่อง) ถึงบางเส้นเรื่องจะแป้ก แต่เส้นเรื่องอื่นก็อาจชุบชีวิตซีรี่ส์ได้ สำหรับ Sweet Tooth ไม่มีเส้นเรื่องไหนแป้กเลย ทั้งหมดดำเนินไปพร้อมกันอย่างดีเยี่ยม และลงตัวเป็นอย่างมาก เท่าที่จับสังเกตได้เนื้อเรื่องหลกน่าจะมี 3 เส้นเรื่อง คือเส้นเรื่องของ Gus เส้นเรื่องของ Aimee กับ Wendy และเส้นเรื่องของ Dr. Singh ทั้งสามมีแนวทางของตัวเอง ปมปัญหาและข้อขัดแย้งของตนเอง ซึ่งอีกไม่นานน่าจะมาซ้อนทับกัน นี่ก็เป็นเสน่ห์ของซีรี่ส์ที่ใช้ประเด็นใหญ่ ๆ แบบนี้ และตัวละครเยอะ ๆ แบบนี้ มันทำให้เราคนดูไม่เบื่อเอาง่าย ๆ คอยอยากดูต่ออยู่เรื่อย ๆ

ที่ผมสนใจที่สุด ก็เป็นเส้นเรื่องหลักนี่แหละ คือเส้นเรื่องของ Gus กับพี่เบิ้ม หรือ Jeppard ทั้งสองตัวละครมีความไม่เข้ากันอยู่ แต่ก็มีความเข้ากันอย่างน่าประหลาด ตลอดการเดินทางของทั้งสองที่ดูจะเป็นไปได้ยาก ในที่สุดมันก็ดูลงตัวและน่ารักแปลก ๆ การที่ให้เราได้ค่อย ๆ เดินทางไปพร้อมกับทั้งสอง ทำความรู้จักและเริ่มผูกพันกับตัวละคร Sweet Tooth ประสบความสำเร็จจริง ๆ ในบางครั้ง Gus ก็เป็นตัวละครที่เป็นตัวสร้างปัญหา นำปัญหาต่าง ๆ มาสู่กลุ่ม จนบางครั้งแอบหงุดหงิด แต่เราต้องอย่าลืม ว่านี่เป็นตัวละครเด็ก อีกอย่างการมีตัวละครแบบนี้ ก็ดีและสร้างเรื่องราวให้ซีรี่ส์ไม่น้อย แต่ละตัวละครมีคาแร็กเตอร์ชัดเจน มีปัญหาและเป็นตัวของตัวเอง หลายตัวมีบทบาทที่เด่น ไม่ได้ชูแต่เพียงตัวเอกเพียงตัวเดียว ซึ่งซีรี่ส์แบบนี้ล่ะผมแพ้ทุกทีเลย

หากให้กล่าวถึงประเด็นที่แฝงอยู่ในซีรี่ส์เรื่องนี้ เราน่าจะคุยกันได้ยาว ๆ ซีรี่ส์เรื่องนี้อย่างที่บอก ว่าได้รับการดัดแปลงมาจากหนังสือการ์ตูน เนื้อเรื่องจึงมีการเปลี่ยนแปลงไปอยู่เยอะ เริ่มจากในหนังสือการ์ตูน จะเป็นเรื่องราวของกลุ่มไฮบริดที่เกิดใหม่ กับเรื่องราวของศาสนา และการไม่ยอมรับหลุ่มนี้ แต่ในซีรี่ส์กลับเปลี่ยนให้มีความไซไฟ โดยเล่นในเรื่องประเด็นของโรคระบาดใหญ่ และเป็นช่วงเดียวกับที่โลกของเรากำลังเผชิญโรคระบาดใหญ่จริง ๆ ซีรี่ส์เรื่องนี้ชี้ให้เห็นถึงปัญหาที่เกิดขึ้น การดูและใส่ใจตนเอง และคนรอบข้าง นี่แหละ ซีรี่ส์ที่นำสังคม อีกประเด็นหนึ่ง คือประเด็นของความแตกต่าง เราฆ่ากันได้ โดยที่เรามีความแตกต่างกัน ถึงขั้นอยากจะฆ่ากันให้หมดทั้งรุ่น และใช้ประโยชน์จากคนกลุ่มอื่น และสร้างความชอบธรรมให้ตนเอง Sweet Tooth ยังได้สะท้อนเรื่องราวเหล่านี้ไว้อย่างครบถ้วน

นี่ไม่ใช่ซีรี่ส์ฟีลกู้ด แต่แฝงด้วยประเด็นหนักหน่วง และเนื้อเรื่องที่เข้มข้นไว้ อยากชวนมาดูเลยครับ เพราะดีงามจริง ๆ ตอนนี้กำลังดุเดือด ทาง Netflix และคาดว่าทำภาคต่ออย่างแน่นอน (เล่นจบค้างคาซะอย่างนั้น) หวังว่าเราจะได้ดูซีรี่ส์เรื่องนี้กันยาว ๆ นะครับ กับ Sweet Tooth