สองสามวันที่ผ่านมานี้ มีหนังใหม่ใน Netflix เรื่องหนึ่ง ที่ผมคิดว่าไอเดียค่อนข้างดีเลย คือเรื่อง Awake ดับฝันวันสิ้นโลก เป็นไอเดียของการหลับ เรื่องที่สุดแสนธรรมดา แต่นำมาเล่า แล้วใช้ไอเดียแบบ High Concept ซึ่งเป็นอะไรที่น่าติดตามนะครับ วันนี้ผมจะชวนทุกคนคุยกันถึงหนังเรื่องนี้กัน Awake

Awake เป็นหนังแนวไซไฟที่ชวนเราตั้งคำถามกับสิ่งปกติ การนอนหลับ หากเราทุกคนไม่หลับ จะเกิดอะไรขึ้นกับโลก และเกิดอะไรขึ้นกับเรา ผมว่าไอเดียดีมากเลยนะครับ เนื้อเรื่องเล่าถึง Jill (รับบทโดย Gina Rodriguez) หญิงสาวผู้เป็นแม่ ที่ไม่ได้สนิทกับ Noah (รับบทโดย Lucius Hoyos) ลูกชายวัยรุ่น มากนัก เธอยังมีลูกสาว Matilda (รับบทโดย Ariana Greenblatt) ระหว่างที่ทั้งหมดกำลังเดินทางไปข้างนอก จู่ ๆ ก็มีแสงประหลาดเกิดขึ้นบนท้องฟ้า วิทยุและรถยนต์ทุกคันดับลงกะทันหัน เกิดความโกลาหลขึ้น นั่นทำให้เธอกับลูก ๆ ประสบอุบัติเหตุ หลังจากนั้นดูเหมือนว่าจะไม่ใช่แค่เธอกับลูก ๆ ที่มีปัญหา แต่ทั้งโลกเกิดเหตุความโกลาหลเหมือนกัน และที่หนักกว่านั้น ทุกคนไม่สามารถที่จะหลับได้ นั่นเป็นเรื่องใหญ่ เพราะเมื่อคนเราไม่หลับ ร่างกายของเราจะไม่ได้รับการพักผ่อน ไม่นานก็จะตาย แต่มีเพียงแค่ Matilda ลูกสาว Jill เท่านั้นที่สามารถหลับได้ตามปกติ นั่นทำให้เธอต้องทำหน้าที่ปกป้องลูกสาว พร้อมทั้งหาทางรักษาและแก้ไขภัยพิบัตินี้ให้ได้

ก่อนอื่นอย่างที่ผมบอกเลยครับ Awake เป็นหนังไซไฟที่มีไอเดียดีอย่างเหลือเชื่อ นั่นทำให้ผมนึกถึงตอนหนึ่งของวรรณกรรมสุดคลาสสิกเรื่อง Cien años de soledad หนึ่งร้อยปีแห่งความโดดเดี่ยว ของ Gabriel Garcia Marquez ตอนที่ทั้งหมู่บ้านติดโรคจากเด็กสาวปริศนา ทำให้ทั้งหมู่บ้านนอนไม่หลับ Awake ใช้ไอเดียเดียวกันเป๊ะ แต่ก็อย่างว่า เรื่องนั้นเป็นงานวรรณกรรม ดังนั้นจึงเน้นไปในมุมของเรื่องราวภายใน และการสะท้อนสิ่งใด ๆ บางอย่าง แต่หนังเรื่อง Awake นี้ต่างออกไป มันเป็นหนังไซไฟ ที่ทำออกมาโดยเน้นเนื้อเรื่องเป็นสำคัญ ดังนั้นทั้งสองเรื่องจึงถือว่าเทียบกันไม่ได้

หนังเรื่อง Awake นี้ ดูไปก็แอบเหมือนหนังที่ใช้ทุนสร้างไม่ค่อยสูงนัก เรื่องนั้นไม่ใช่ปัญหา แต่ต้องมาดูกันที่การดำเนินเรื่อง การดำเนินเรื่องของ Awake ค่อนข้างไปเรื่อย ๆ ไม่ได้ช้าจนน่าเบื่อ หรือเร็วจนดูไม่รู้เรื่อง เรียกว่ากลาง ๆ ออกไปทางไม่มีอะไรให้น่าตื่นเต้น หรือผิดไปจากที่คิดมากนัก มีการพยายามใส่ปมปัญหา หรือข้อขัดแย้งไปข้างในนั้นเรื่อย ๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้ลุ้นตาม หรือทำให้ผมเอาใจช่วยตัวละครมากนัก แต่ถึงจะบอกแบบนั้น หนังเรื่องนี้ก็ไม่ได้แย่นะครับ ดูได้เรื่อย ๆ ไม่เหนื่อย แต่ในทางกลับกัน ก็ไม่ได้ชวนให้เราติดตามต่อได้เรื่อย ๆ เหมือนกัน

จากที่ผมได้มีโอกาสดูหนังที่เป็น Original Content ของ Netflix หลายเรื่อง ก็พอเข้าใจหลักการของเขานะ เนื้อเรื่องอาจจะไม่ได้หวือหวานัก เน้นขายไอเดียเป็นหลัก พร้อมกับตอนจบที่มีพลัง ตั้งคำถามกับประเด็นใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นทางสังคม หรือปรัชญาได้อย่างดี ไม่ได้มันส์ขนาดนั้น แต่จบสวย หากจะถามว่า Awake เป็นแบบนั้นมั้ย ผมว่าก็ยังไม่ค่อยนะครับ มันง่ายดาย ตั้งแต่ต้นจนจบ แต่ก็ไม่ได้แย่นะ อย่างที่ผมพยายามย้ำมาตลอด ดูเอาเพลินล่ะได้เลย แต่ถ้าคิดว่านี่เป็นไซไฟสุดล้ำ กับแอ็กชันมันส์ ๆ หากจะหาแบบนั้นดู ผมว่าข้าง Awake ไปได้เลย ถ้าให้ผมจัดหมวด (อันนี้ผมคิดเองนะ) ผมจะจัดให้ Awake อยู่ในหมวด “รีดผ้าไปดูไป”

มาคุยกันถึงเรื่องของตัวละครกันดีกว่า ตัวละคร Jill ผู้เป็นแม่ ดูแล้วไม่ได้มีอะไรผิดคาดนัก เป็นตัวหลักที่แอบจะให้โดดเด่น ก็ไม่เป็นแบบนั้นเสียทีเดียว ก็เป็นตัวหลักนะครับ แต่ไม่ได้เปล่งประกาย (คิดว่านะครับ) ตัวละครที่น่าพูดถึงและเป็นแกนของหนังเรื่องนี้น่าจะเป็นตัวลูกสาว Matilda ปกติแล้วตัวละครเด็ก ๆ แบบนี้ หนังส่วนใหญ่ชอบสร้างให้เป็นตัวปัญหา หรือตัวที่นำไปสู่ปัญหา หนังส่วนใหญ่มีตัวละครแบบนี้ แต่กับ Awake แล้ว Matilda ไม่ได้เป็นแบบนั้น หากปัญหาเยอะสักหน่อยอาจจะดีก็ได้ (555+) ตัวละครอื่น ๆ เรียกได้เลยว่าเป็นตัวประกอบจริง ๆ นอกเหนือจากตัวละครหลัก ๆ ไม่มีตัวละครไหนน่าจดจำเลย โดยเฉพาะที่น่าเคืองที่สุด ตัวละคร Dodge (รับบทโดย Shamier Anderson) ที่มาร่วมทีมตอนกลางเรื่อง คำถามของผมคือ เอาเขามาทำไม? น่าสงสาร เอามาแต่ไม่ได้ใช้ประโยชน์เลย แต่ก็ไม่เป็นไรครับ บันเทิงดี

หากถามว่าหนังเรื่องนี้ให้อะไรกับคนดูอย่างเรา…คิดยากเลยครับ อย่างเดียวที่คิดออกเลยคือ นอนให้พอ ไม่งั้นมันทรมาน ดูสิหมีแพนด้าทั้งเรื่องเลย
ยังไงก็ต้องไปลองดูเอาเองครับ นี่เป็นแค่ความเห็นของผู้เขียนเท่านั้น ผู้เขียนที่พอเห็นไอเดียก็แอบคาดหวังไปว่าจะแฝงไปด้วยพลังและปรัชญาล้ำลึก แต่หนัง Awake เรื่องนี้ไม่แย่ครับ ดูเพลินเลยนะ ยังไงก็อยากให้ลองดูกัน ถึงจะว่างั้นงี้ แต่ตอนนี้ก็ขึ้นเทรนด์ของ Netflix อยู่นะครับ ดูกันได้แล้ววันนี้ ทาง Netflix นะครับ