รีวิว Alice in borderland (2020) อลิสในแดนมรณะ เรื่องราวของผู้คนที่อยากมีชีวิตรอดด้วยการเล่นเกมที่ต้องเดิมพันด้วยชีวิต

Alice in borderland (2020) อลิสในแดนมรณะ ซีรีส์ญี่ปุ่นแนวเอาตัวรอดที่สามารถทำให้ใจคนดูหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่มโดยไร้เยื่อใย

เรื่องย่อ

Alice in borderland (2020) อลิสในแดนมรณะ สร้างจากต้นฉบับมังงะของ Haro Aso โดยเป็นเรื่องราวของอาริสุ (แสดงโดยเคนโตะ ยามาซากิ) ชายหนุ่มผู้ที่เล่นเกมไปวัน ๆ และไร้ซึ่งเป้าหมายในชีวิต แต่แล้วเขากับเพื่อนสนิทอีกสองคนคือคารุเบะ (แสดงโดยเคอิตะ มาจิดะ) กับโจตะ (แสดงโดยยูกิ โมรินากะ) ได้หลุดเข้าไปในอีกโลกที่ร้างไร้ผู้คน ราวกับว่าโตเกียวไม่มีใครเลยนอกจากพวกเขา จนกระทั่งข้อความเชิญให้เข้าร่วมเกมปรากฏขึ้น เพียงแต่ว่าเกมที่พวกเขาเล่นนั้นต้องเดิมพันด้วยชีวิตและผู้คนที่รัก

รีวิว

บอกตามตรงว่า Alice in borderland (2020) อลิสในแดนมรณะ เป็นหนึ่งในซีรีส์ที่ดองไว้นานมาก (ตั้งแต่ปีที่แล้ว) เพราะตอนนั้นชั่งใจอยู่พอสมควรว่าควรดูดีมั้ยเพราะรีวิวออกมาก็แตกต่างกันไป บางคนชอบ บางคนไม่ชอบ ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติ ซึ่งสิ่งที่ทำให้ตัดสินใจดูเพราะว่าซีรีส์เรื่องนี้ดึงดูดสายตาและความสนใจเป็นอย่างมาก ทั้งตัวละคร เนื้อเรื่อง แม้กระทั่งชื่อซีรีส์ที่ชวนให้นึกถึงหนังสือเรื่องอลิสผจญภัยในแดนมหัศจรรย์ (Alice’s Adventures in Wonderland) ท่แต่งโดย Lewis Carroll แต่เปลี่ยนจากแนวสดใสแฟนตาซีมาเป็นแนวดาร์กแทน จึงคิดว่านี่แหละ! คือซีรีส์ที่เหมาะกับเรา

เอาล่ะ จะเข้าสู่การรีวิวแบบจริง ๆ จัง ๆ ซักที ความรู้สึกตอนเปิดดูตอนแรกคือซีรีส์เรื่องนี้น่าสนใจ แม้ว่าอาจจะพอเดาทางลาง ๆ ได้ว่าจะเป็นอย่างไรต่อ แต่มันก็สนุกอยู่ดี คงไม่ต่างกับการอ่านนิยายหรือดูหนังบางเรื่องที่รู้อยู่แล้วว่ามันต้องลงเอยแบบนี้แน่ ๆ แต่เราก็ยังดูต่อด้วยความเพลิดเพลิน ด้วยความเนื้อเรื่องเป็นการให้เหล่าตัวเอกเล่นเกมเพื่อเอาตัวรอดต่อไปเรื่อย ๆ ทำให้ทุกตอนมีความระทึกและความตื่นเต้นว่าจะได้เจอเกมแบบไหนและลุ้นไปตลอดว่าตัวละครไหนจะตายตอนไหนหรือจะโชคดีไม่ตาย เรียกได้ว่าตอนนั่งดูนี่คือทฤษฎีต่าง ๆ วนอยู่ในหัวเต็มไปหมด จนบางครั้งทฤษฎีก็ผิดและทำให้มานั่งคิดว่า “จะเอาอย่างนี้เลยเหรอ” เมื่อถึงช่วงท้าย ๆ เรื่อง ซีรีส์ก็พาให้คนดูไปรู้จักกับตัวละครใหม่และตัวละครเก่าที่เคยโผล่มาในตอนก่อนหน้า พาไปรู้จักกับสถานที่ใหม่ ๆ รวมถึงปมหลักของเรื่องที่ว่าใครเป็นคนควบคุมเกมนี้ ส่วนตัวมองว่าเป็นการดำเนินเรื่องทั่วไปที่ตอนแรกให้ทำความรู้จักกับเนื้อเรื่องและเงื่อนไขต่าง ๆ รู้สึกอินกับมิตรภาพระหว่างเพื่อนที่ร่วมต่อสู้ไปด้วยกัน จากนั้นเนื้อเรื่องก็จะพาพระเอกไปสู่เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม จากนั้นก็พาปมหลักกับเหล่าตัวละครเอกมาให้เจอกันและสุดท้ายก็จบซีซันหนึ่ง (อย่างค้างคา) ถึงแม้การดำเนินช่วงกลาง ๆ ถึงช่วงท้ายอาจจะไม่สนุกเท่าตอนแรก แต่มันก็ยังมีอะไรที่น่าสนใจให้ติดตามดูจนจบ

โดยรวมแล้ว Alice in borderland (2020) อลิสในแดนมรณะ เป็นซีรีส์หนึ่งที่ควรดู เหมาะสำหรับคนที่กำลังเบื่อ ๆ หรือรู้สึกว่าชีวิตช่วงนี้ดีเกินไป (สามารถเติมความดาร์กกับซีรีส์เรื่องนี้ได้) ส่วนตัวคิดว่าเรื่องนี้ไม่ได้ดาร์กมากนัก ถึงแม้จะมีตัวละครตายมากมาย แต่ตัวละครที่ตายส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกผูกพัน ทำให้ค่อนข้างปลอดภัยสำหรับความดราม่า แต่ถ้าหากถามว่าความดราม่าในเรื่องมีมั้ยบอกเลยว่ามี แต่จะเป็นอย่างไรคงต้องไปติดตามดูกันเอง (หากอยากรู้สามารถดูในย่อหน้าสปอยล์ได้) ที่สำคัญคือการตายของตัวละครในเรื่องไม่สยอสยองและน่ากลัวเลย สามารถดูได้สบาย ๆ ตอนกินข้าวได้

(สปอยล์)

ตัวละครในเรื่องส่วนใหญ่เป็นตัวละครที่มีเสน่ห์ คาแรคเตอร์ชัดเจน อย่างเช่น คารุเบะที่มีคาแรคเตอร์ดูเป็นนักเลง แต่ก็เป็นคนรักเพื่อนและรักเดียวใจเดียว แถมคารุเบะยังช่วยซัพพอร์ต ดึงสติและให้กำลังใจอาริสุอยู่เสมอ เขาออกหน้าแทนคนอื่นอยู่บ่อยครั้ง เป็นคนที่เสียสละเพื่อผู้อื่นได้ เรียกได้ว่าถ้าไม่มีคารุเบะ อาริสุอาจจะตายไปแล้วก็ได้

โจตะ เป็นเพื่อนอีกคนหนึ่งของอาริสุ เขาเรียนจบมหาวิทยาลัยและทำงานในบริษัทด้านไอที โดยครอบครัวของเขาและมีแม่ที่ถูกลัทธิแปลกประหลาดหลอกลวงกับความศรัทธาของคนเพื่อเงิน ถึงแม้ว่าตอนโตโจตะจะรู้ว่ากำลังถูกหลอก แต่ท้ายที่สุดแล้วเมื่อเข้าไปอยู่ในอีกโลก เขาก็มีแหล่งพึ่งพึงใจเป็นคำสวดมนต์ของลัทธินั้นเพื่อเยียวยาจิตใจที่หมดหวังและท้อแท้ ในตอนแรกโจตะถูกล่อลวงให้เป็นพวกของชิบูกิสาวออฟฟิศผู้ทำทุกอย่างเพื่อการมีชีวิตรอด แต่สุดท้ายเขาก็เลือกที่จะอยู่ข้างเพื่อนของตนเอง โดยชิบูกินั้นก็เป็นตัวแทนของคนทั่วไปที่พยายามทุกวิถีทางที่จะมีชีวิตรอดอยู่ต่อไปโดยไม่สนใจวิธีการ

หากถามว่าชอบตัวละครไหนที่ชอบที่สุดในเรื่อง ก็คงจะเป็น ชิซิยะ ที่แทบจะคาดเดาอะไรกับพี่แกไม่ได้เลย ฉลาดเป็นกรด แถมยังไม่อยากมีใครเป็นศัตรูด้วยเพราะความเหลี่ยมจัด เก่งในการคาดการณ์สถานการณ์และสามารถเอาตัวรอดได้เสมอ อีกคนที่ชอบคือคุอินะ สาวมาดเท่ที่มีความน่ารักอย่างล้นเหลือ เธอโผล่มาในตอนท้าย ๆ แต่ก็เรียกได้ว่าแย่งซีนตัวละครหลายตัวเพราะคาแรคเตอร์ที่โดดเด่นทั้งทรงผมและชุด รวมถึงเรื่องที่เธอสามารถขุดเอาทักษะที่เคยเรียนการต่อสู้มาใช้กับลาสต์บอสได้

(สปอยล์)

ความขัดใจที่มีต่อการเล่าเรื่องของ Alice in borderland คือการที่เรื่องไม่ได้ทำให้อินกับเนื้อเรื่องในตอนท้ายที่ดูเหมือนจะเป็นปมสำคัญที่เชื่อมโยงหลาย ๆ เหตุการณ์ให้เกิดขึ้น เช่น เรื่องราวของคนขายหมวกกับเพื่อนซี้ที่เคยเป็นทหาร ขณะที่ดูบางครั้งก็ไม่เข้าใจความคิดและตรรกะของตัวละคร เพราะเวลาที่เรารู้จักตัวละครน้อยไปรวมถึงเรื่องราวในอดีตที่เราไม่รู้มาก่อนว่าทำไมตัวละครจึงมีความคิดแบบนี้และเลือกทำเช่นนี้ หรือลูกน้องของกองกำลังแต่ละคนที่มีคาแรคเตอร์โดดเด่นและดูมีส่วนสำคัญแต่ก็เหมือนไม่ได้สำคัญเท่าไหร่ เรียกว่าในส่วนของเนื้อเรื่องตอนท้ายไม่ได้ทำให้อินมากนัก แต่ถ้าหากมองข้ามไปได้และไม่ได้คิดอะไรมาก ก็สามารถทำให้ดูต่ออย่างสนุกได้ ส่วนตัวมองว่าเกมเจ็ดโพแดงโหดและทำให้คนดูมีอารมณ์ร่วมมากกว่าสิบโพแดงเพราะคนที่ตายเป็นคนที่มีความสำคัญต่อความรู้สึกและการมีชีวิตอยู่ของอาริสุและเจ็ดโพแดงก็ดึงอารมณ์คนดูมากกว่าด้วย ขนาดตอนแรกที่เห็นเจ็ดโพในหน้าจอ ยังตกใจเลยว่าสามอีพีเองนะมีเจ็ดโพแดงโผล่มาแล้วเหรอ

(สปอยล์)

การตายของเพื่อนสนิทของคนของอาริสุคือความดราม่าบีบหัวใจในตอนต้นของ Alice in borderland ทั้ง ๆ ที่ดำเนินเรื่องได้แค่สามอีพีแต่เพื่อนก็มาด่วนจากไปแบบซึ่ง ๆ หน้า แถมการตายในครั้งนี้เหมือนว่าอาริสุจะเป็นต้นเหตุแม้ไม่ได้ตั้งใจก็ตาม สิ่งแรกที่คิดหลังจากฉากเพื่อนของอาริสุตายคืออาริสุจะฆ่าตัวตายตามไหม หรือจะรอจนวีซ่าหมดแล้วรอให้โดนยิงตาย (แต่ก็คิดว่าอาริสุน่าจะอยู่ต่อ เพราะเดี๋ยวเรื่องราวดำเนินต่อไม่ได้) แต่ท้ายที่สุดแล้วนางเอกซึ่งเป็นสาวนักปีนเขาก็เข้ามาช่วยไว้ทำให้อาริสุมีเป้าหมายใหม่และเป็นคนที่เข้มแข็งกว่าเดิมเพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายนั้น

(สปอยล์)

โดยส่วนตัวแล้วฉากที่ประทับใจที่สุดก็คงเป็นฉากที่คารุเบะได้เล่าย้อนความหลังเกี่ยวกับมิตรภาพของพวกเขา และทั้งโจตะกับคารุเบะก็ต่างเสียสละให้คาริสุมีชีวิตอยู่ต่อ ส่วนตัวคิดว่าการตายอาจจะไม่น่ากลัวเท่าการที่มีชีวิตอยู่ต่อกับความเจ็บปวด คารุเบะที่ตอนแรกเริ่มโวยวายว่าอาริสุจะเอาตัวรอดคนเดียวและเริ่มไม่ไว้ใจกันจึงตัดสินใจที่จะตาย ถึงแม้ว่ายังไม่ได้ให้แหวนกับคนรักก็ตาม ซึ่งจะเห็นได้ว่าคารุเบะให้ความสำคัญกับแหวนและคนรักมาก มันเหมือนเป็นความฝันในชีวิตเลยก็ว่าได้ ทางด้านของอาริสุเองที่ตอนแรกมุ่งมั่นว่าจะหาทางแก้เกมให้ได้ แต่เมื่อเขารู้ว่าเกมนี้ทำเช่นนั้นไม่ได้ เขาจึงถอดใจและสติแตกอยู่พักหนึ่ง เขาไม่ต้องการทั้งให้ตัวเองและเพื่อนต้องตาย เมื่อเวลาเริ่มหมดเขาจึงตัดสินใจวิ่งหาเพื่อนและพยายามที่จะให้เพื่อนตนเองซักคนเป็นหมาป่าเพื่อมีชีวิตรอดต่อไป แต่ท้ายที่สุดแล้วเขาก็พบว่าทุกคนตายและเจตนารมณ์สุดท้ายของพวกเขาคือต้องการให้อาริสุมีชีวิตต่อไป โดยคำพูดสุดท้ายของคารุเบะคือ

“มีชีวิตอยู่ต่อไปนะ” แล้วหลังจากนั้นระเบิดที่คอก็ทำงานตามด้วยเสียงกรีดร้องของอาริสุ

ส่วนตัวคิดว่าซีรีส์เล่าเรื่องราวมิตรภาพของพระเอกและเพื่อนได้ดีมาก ๆ ทำให้รู้สึกอินไปด้วยและคิดว่าอาริสุโชคดีมากที่มีเพื่อนคอยสนับสนุนเสมอ จนแอบคิดไม่ได้ว่าถ้าให้เพื่อนตายประมาณอีพีกลาง ๆ เรื่องอาจจะสนุกและน่าตื่นเต้นกว่านี้ก็ได้

อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า Alice in borderland สร้างมาจากมังงะ ซึ่งหากอยากติดตามภาคต่อของเรื่องก็สามารถไปอ่านมังงะก่อนได้ ซึ่งในมังงะภาคต่อก็ได้เปิดเผยเนื้อเรื่องเกี่ยวกับที่มาของโลกนี้ที่เป็นปมหลักของเรื่องราวทั้งหมด ซึ่งถ้าสังเกตดี ๆ ในซีรีส์มีฉากหนึ่งในเรื่องที่ชิบูกิเห็นบางอย่างที่หน้าต่าง ( แต่ในเรื่องเบลอภาพไว้และให้เห็นแค่แวบเดียว มีความเป็นไปได้ว่าฉากนี้อาจจะมาอีกทีตอนซีซั่นสอง ) แต่เธอไม่ยอมบอกใคร เดาว่าอาจเป็นเรื่องสำคัญที่อาจเชื่อมโยงเกี่ยวกับโลกนี้หรือไม่ก็มีผลต่อความอยู่รอดของเธอ อีกฉากหนึ่งที่เป็นจุดสังเกตคือฉากที่มีการจุดพลุขึ้นท้องฟ้าในตอนแรกและในตอนสุดท้ายของซีรีส์ก็มีการจุดพลุเพื่อฉลองที่เก็บไพ่ได้ครบ ในส่วนนี้อาจจะมีการเชื่อมโยงกันหรืออาจะไม่มีการเชื่อมโยงกันเลยก็ได้

สรุปแล้ว Alice in borderland เป็นซีรีส์ที่เนื้อเรื่องไม่ได้เข้มข้นถึงขั้นที่จะบีบคั้นอารมณ์และลุ้นระทึก แต่ก็ถือว่าเข้มข้นและมีความน่าสนใจพอที่จะอยากให้ดูจนจบ ส่วนตัวคิดว่าเป็นซีรีส์เรื่องหนึ่งที่ควรดูแต่อาจจะไม่ต้องรีบดูก็ได้  เพราะด้วยเวลาที่ใช้ดูไม่นาน (มี 8 ตอน ตอนละไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง) บวกกับเนื้อเรื่องในช่วงท้าย ๆ ที่อาจจะทำให้รู้สึกผิดหวังเล็กน้อยเพราะไม่สามารถเข้าถึงตัวละครได้ แต่หากพูดในเรื่องของภาพและการถ่ายทำก็พูดได้เต็มปากว่าภาพสวยและดูสมจริงมาก ส่วนตัวแล้วประทับใจในหลาย ๆ ซีน อย่างเช่นซีนที่อาริสุและเพื่อนกำลังวิ่งเล่น (อย่างบ้าคลั่ง) ที่ถนนในชิบุย่า

สุดท้ายนี้ทุกคนสามารถดูและติดตาม Alice in borderland (2020) อลิสในแดนมรณะ ได้ทาง Netflix และมีการประกาศออกมาแล้วว่าซีซั่นสองจะมาภายในปี 2021 – 2022 และอาจจะต้องติดตามกันต่อไปว่าจะได้ดูในปลายปีนี้หรือไม่