สด  ๆ ร้อน ๆ กันเลยครับกับหนังผีสัญชาติไทยแท้ ที่รังสรรค์โดยเจ้าเก่าเจ้าเดิมอย่าง GDH ให้เราได้ดูกันแล้วใน Netflix ซึ่งนาน ๆ เราจะได้เห็นหนังไทยลง Netflix กันสักที สารภาพก่อนสองข้อ ข้อแรกคือ หนังไทยนั้นผมดูน้อยมาก ที่ชอบยิ่งน้อยใหญ่เลย อาจจะด้วยอคติส่วนตัวก็ได้ครับ (แต่หนัง GDH, GTH ส่วนใหญ่จะถูกใจนะครับ) อย่างที่สองคือ งานหนังผี หรือหนังสยองขวัญ ก็ไม่ถนัดเช่นกัน แต่เอาล่ะ เขาเคลมมาเลยว่า เป็นงานของ GDH แล้วยังได้ลง Netflix อีก เอาล่ะ ลองดูสักตั้งก็แล้วกัน

Thanapob Leeratanakachorn and Paris Intarakomalyasut in Ghost Lab ฉีกกฎทดลองผี

Ghost Lab ฉีกกฎทดลองผี เป็นผลงานของผู้กำกับ ปวีณ ภูริจิตปัญญา ผู้ที่เคยมีผลงานเอาไว้มากมาย บอดี้ ศพ19, สี่แพร่ง ตอน “ยันต์สั่งตาย” และ ห้าแพร่ง ตอน “หลาวชะโอน” หลายเรื่องเรียกได้ว่าเป็นผลงานที่ดีเลย อย่าง หลาวชะโอนเนี่ย ของดีเลยนะครับ เลยเรียกได้ว่าคาดหวังนิดหน่อยกับเรื่องนี้ มาถึง Ghost Lab ฉีกกฎทดลองผี ว่าด้วยเรื่องของหมอกล้า นายแพทย์อาจอง (รับบทโดย ไอซ์ พาริช อินทรโกมาลย์สุต) ศัลยแพทย์มือดี ที่คลั่งไคล้ในเรื่องของผี และโลกหลังความตาย จึงได้ทำการวิจัยในเรื่องนี้อย่างจริงจัง หมอกล้ามีเพื่อนสนิทชื่อ หมอวี (รับบทโดย  ต่อ ธนภพ ลีรัตนขจร) จากเหตุการณ์ประหลาดเหตุการณ์หนึ่ง ทำให้หมอกล้าชวนหมอวีมาร่วมทดลองผีในครั้งนี้ เพื่อหวังว่าจะสามารถคว้ารางวัลระดับโลกมาได้

Nuttanicha Dungwattanawanich and Paris Intarakomalyasut in Ghost Lab

นับว่าเป็นอะไรที่แหวกแนวจากเดิมมากนะครับ กับงานของ GDH ส่วนใหญ่เราจะเห็นเขาในรูปแบบของหนังรักสดใส หรือเรื่องราวโรแมนติกคอมเมดี้ ซึ่งแน่นอนว่า GDH ทำออกมาได้ดี หรือบางเรื่องที่เรียกได้ว่าดีมาก ตามแบบฉบับของหนังไทย มาคราวนี้กับหนังสยองขวัญไซไฟ ที่พยายามจะจับเรื่องลี้ลับเหนือธรรมชาติ และเป็นเรื่องที่ผูกติดกับความเป็นไทยของเราอย่างเอาออกไม่ได้ กับเรื่อง “ผี” มาอธิบาย (พยายามอธิบาย) ตามหลักของวิทยาศาสตร์ ซึ่งผมมองว่า ไอเดียนี้นับว่าเป็นไอเดียที่ยอดเยี่ยม ที่จะนำไปต่อยอดได้มากเลยทีเดียว

Thanapob Leeratanakachorn in Ghost Lab

คำถามต่อมาก็คือ Ghost Lab ฉีกกฎทดลองผี ประสบความสำเร็จกับการนำเรื่องนี้มาเล่าไหม สำหรับผมแล้ว หนังเรื่องนี้ไม่ค่อยถูกใจเท่าไหร่ครับ มาว่ากันด้วยเรื่องของเนื้อเรื่องกันก่อน โอเคครับว่าการเป็นงานไซไฟนั้น ไม่จำเป็นต้องยึดหรืออาศัยหลักการที่ถูกต้องก็ได้ แต่การดำเนินเรื่องนี้ ถ้าตามคอนเซปต์ชื่อเรื่องเลย คือการทดลองผี เรื่องนี้เหมือนจะหลุดกรอบไปสักนิด การพยายามตบให้อยู่ในกรอบ และบอกคนดูตลอดว่า นี่คือยังเป็นการทดลองอยู่ แต่การกระทำกลับไม่ใช่สักเท่าไหร่ ไม่มีเรื่องราวอะไรใหม่เลย เหมือนเป็นการจับหนังเก่า ๆ หลาย ๆ เรื่องมาผสมกัน ข้างในผสมอะไรเยอะแยะไปหมด และปิดท้ายด้วยแง่คิดเท่ ๆ ที่ดูจะไถ ๆ ไปได้บ้าง

Paris Intarakomalyasut in Ghost Lab

มาถึงเรื่องของการแสดงและตัวละคร มันจะมีหนังไทยพวกหนึ่ง ที่นักแสดงจะพูดประโยคอะไรที่มันไม่ใช่ ภาษาที่ใช้ดูไม่ได้เข้ากับบริบทในเรื่องสักเท่าไหร่ Ghost Lab ฉีกกฎทดลองผีเป็นแบบนี้เลยครับ บวกกับความที่ทุกตัวละครทำอะไรไม่สมเหตุสมผลตลอดทั้งเรื่อง เหตุผลของตัวละครสำหรับผมมันไม่หนักแน่นพอที่จะคิดได้ว่า แต่ละตัวละครจะตัดสินใจอย่างนั้นได้ มันไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย ที่พอจะให้คะแนนได้ ก็จะเป็นตัวละครคุณแม่ของหมอกล้า กับฉากเรียกน้ำตาช่วงกลางเรื่อง นี่เป็นหนึ่งในสองฉากที่ผมถือว่าโอเคเลยครับ

Paris Intarakomalyasut in Ghost Lab ฉีกกฎทดลองผี

อีกฉากที่พอจะชอบได้บ้าง (No Spoil) คือฉากของตัวละครหมอวีตอนท้ายเรื่อง ที่ยังมีความตื่นเต้นอยู่บ้าง ตามแบบที่หนังสยองขวัญ ระทึกขวัญควรจะมี ส่วนฉากตกใจในหนังเรื่องนี้ก็ยังพอมีอยู่นะครับ แต่ไม่ถึงกับหลอน ใครไม่สันทัดหนังผี น่าจะพอดูได้นะครับ หนังหลายเรื่องใช้พลังดาราเรียกคนมาดูกัน ผมว่าเรื่องนี้ก็เป็นแบบนั้นครับ ใช้พลังดาราในการเรียกคนดู

ไหน ๆ ก็ได้ดูหนังเรื่องนี้แล้ว ซึ่งเป็นหนังที่มีความยาวอยู่ที่ประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่ง เรียกได้ว่าไม่ยาวจนเกินไป ผมจะมาขอพูดถึงสิ่งที่หนังเรื่องนี้พอจะให้อยู่บ้าง หากจะหาสาระจากหนังเรื่องนี้ ก็คงเป็นเรื่องของชีวิต คนที่ตายไปแล้วไม่มีสิทธิ์ที่จะได้ใช้ชีวิต ดังนั้นเราที่ยังเป็นคนที่อยู่ตรงนี้ จงเป็นคนอย่างที่เราอยากเป็น และทำในสิ่งที่เราอยากทำ หากมีเวลาอีกสักนิด การทำเพื่อคนที่ไม่ได้อยู่ตรงนี้บ้าง ก็อาจช่วยให้จิตใจของคนที่ยังอยู่พองโตขึ้นมาบ้างก็ได้ ทั้งหมดนี้ก็เพื่อที่จะได้ไม่เสียใจมากนัก หากวาระสุดท้ายของเรามาถึง

Thanapob Leeratanakachorn and Paris Intarakomalyasut in Ghost Lab ฉีกกฎทดลองผี The Ladder

โดยสรุปแล้ว Ghost Lab ฉีกกฎทดลองผี เป็นหนังที่ผมไม่ค่อยชอบสักเท่าไหร่ หรืออาจไม่สันทัดหนังแนวนี้ก็ได้ครับ แต่อย่างไรก็ดี อยากให้คุณได้ลองดูด้วยตาตนเอง และใช้วิจารณญาณตัดสินเอาเองดีกว่าครับ อาจจะมีความเห็นที่แตกต่างกันก็ได้ ตอนนี้ขึ้นเทรนด์อันดับ 1 เป็นที่เรียบร้อยแล้วใน Netflix สามารถหาดูกันได้แล้วนะครับ แล้วมาแลกเปลี่ยนกันครับ