งานอีกหนึ่งชิ้นที่สำหรับผมจัดเป็นงานขึ้นหิ้งของอาจารย์ Makoto Shinkai คืองานเรื่องสั้น 3 เรื่อง ที่ร้อยเรียงมารวมกันเป็นหนังยาวหนึ่งเรื่อง เป็นงานเก่าตั้งแต่ปี 2007 เรื่อง 5 Centimeters Per Second หรือในชื่อภาษาไทย “ยามซากุระร่วงโรย” นับว่าเป็นไม่กี่เรื่องที่ผมมองว่าใช้ชื่อภาษาไทยได้ดีเลยทีเดียว ทั้งเรื่องจะพาคุณไปพบรูปแบบความรักไม่กี่รูปแบบ ที่ดูเหมือนจะเห็นได้ทั่วไป แต่ในความธรรมดาทั่วไปนั้นเอง แฝงไปด้วยอารมณ์และความรู้สึกอย่างครบถ้วน

5 Centimeters Per Second หรือในชื่อภาษาไทย “ยามซากุระร่วงโรย” เป็นผลงานการกำกับลำดับที่ 6 ของอาจารย์ Makoto Shinkai อีกทั้งแกยังเขียนเรื่องเองด้วย เหมือนกับเรื่อง The Garden of Worlds ที่ผมเคยเขียนไป หนังมีความยาวอยู่ที่ 1 ชั่วโมงนิด ๆ ซึ่งแบ่งเป็นเรื่องสั้นทั้งหมด 3 เรื่อง ทั้งหมดเป็นเรื่องราวความรักที่ดูเหมือนจะเป็นเรื่องเดียวกัน แต่พอมองอีกทีก็ทำให้เห็นเป็นเรื่องอื่น เรื่องราวทั้งหมดดำเนินโดยเด็กหนุ่ม Takaki Tohno กับเด็กสาว Akari Shinohara ในวัยสิบสอง ทั้งสองเป็นเพื่อนกันตั้งแต่ยังเด็ก และคิดอยู่ตลอดว่าทั้งสองคงจะได้อยู่ด้วยกันตลอดไป แต่ไม่ทันไร Akari ก็จำเป็นต้องย้ายบ้านไปอยู่ไกลแสนไกล เรื่องราวทั้งหมดจะเต็มไปด้วยอารมณ์และความรู้สึก ผ่านกาลเวลาที่ไหลผ่านทั้งสองคน และเราคนดูด้วย คุณจะได้ซึมซับอารมณ์และความรู้สึกทั้งหมดของตัวละคร รวมถึงได้เห็นเรื่องราวชีวิตที่ดูจริงเสียยิ่งกว่าจริงนี้
หากถามผมว่ายกให้หนังเรื่องไหนเป็นหนังในดวงใจ 5 Centimeters Per Second เป็นชื่อที่ผมจะบอกกับผู้คนทุกครั้ง มันเปรียบเสมือนคุณกำลังเปิดหนังสือวรรณกรรมญี่ปุ่นเก่า ๆ เป็นหนังสือเล่มที่มีเพียงเล่มเดียวบนโลก ดังนั้นคุณจะต้องเปิดมันอย่างประณีต และอ่านข้อความที่ร้อยเรียงนั้นอย่างตั้งใจ และลองซึมซับความรู้สึกนั้นดู มันช่างอบอุ่น ชวนให้นึกถึงอ้อมกอดของโลก ที่คอยโอบอุ้มตัวตนและจิตวิญญาณของคุณ ในทางกลับกัน มันช่างเจ็บปวด อย่างกับมีใครเอาเข็มเล็ก ๆ มาทิ่มตรงอก ความรู้สึกของตัวละครไหลผ่านตัวตนและจิตวิญญาณของผมไป ถึงมันจะเป็นแบบนั้น แต่มันก็งดงาม ตามแบบที่ชีวิตควรจะเป็น

5 Centimeters Per Second เล่าเรื่องโดยผ่านการบรรยายของตัวละครเป็นหลัก นี่เองที่เป็นสิ่งที่ทำให้งานนี้งดงาม การใช้คำและให้เราได้ซึมซับสิ่งนี้มันได้ผล กับงานที่มีความโรแมนติกและดรามาไปพร้อมกัน ตัวละครหลักของเราทำหน้าที่ออกมาได้อย่างสมบูรณ์ เราเข้าใจหัวใจของพวกเขาอย่างถ่องแท้ ความรัก ความโหยหา และความอาวรณ์ เหล่านั้นสื่อสารออกมาผ่านดวงตา สีหน้า และการกระทำของตัวละครได้ครบถ้วน งานเรื่องนี้เป็นงานอนิเมะ แต่ถึงอย่างนั้น ตัวละครกลับมีความเป็นมนุษย์เสียยิ่งกว่ามนุษย์ พวกเขามีรัก พวกเขาเจ็บปวด สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ทำให้มนุษย์อย่างเราเป็นมนุษย์เต็มตัว
ในส่วนของงานภาพ เช่นเคยกับสตูดิโอ CoMix Wave ซึ่งเป็นผลงานชิ้นที่ 3 ที่ได้ทำงานร่วมกับอาจารย์ Makoto Shinkai ถึงงานนี้จะไม่ฉูดฉาดเหมือนเรื่อง The Garden of Worlds แต่ก็เรียกได้ว่ามีความเป็นตัวของตัวเอง และสวยงามใช้ได้ตามแบบของอนิเมะปี 2007 การสร้างดาวดวงใหม่ขึ้นมา การเล่าเรื่องผ่านภาพ ที่ชอบที่สุด และดูเหมือนจะเป็นบทสรุปของงานหนังเรื่องนี้ คือการใช้เทคนิค montage ในตอนท้าย ประกอบกับเพลง One More Time, One More Chance ของศิลปิน Masayoshi Yamazaki ที่เป็นเพลงเก่า นับว่าเป็นการสรุปเรื่อง และเป็นการเล่าเรื่องส่วนที่หายไปในตัวด้วย มันเป็นความเจ็บปวดที่งดงามจริง ๆ

หากจะบอกว่า งาน 5 Centimeters Per Second เป็นงานดรามาที่จบแบบ Bad Ending ก็ได้ แต่หากใครจะมองว่า งานชิ้นนี้จบแบบ Happy Ending ก็ได้เช่นกัน แต่สำหรับผมแล้ว ผมบอกไม่ได้เลยครับ ว่ามันจบแบบไหน แต่ที่บอกได้แน่นอนคือ งานชิ้นนี้เป็นงานที่ตีแผ่ชีวิต มันคือชีวิตจริง ๆ เรามีความสุขกับความรัก เราสับสนกับความรัก เราเศร้าและเจ็บปวดกับความรัก ท้ายที่สุดชีวิตเราจะดำเนินไปทางไหน ไม่มีใครตอบได้ งานชิ้นนี้นำเสนอให้เราเห็นถึงเพียงอีกรูปแบบชีวิต และอีกรูปแบบรักที่อาจจะเกิดขึ้นได้กับคนคนหนึ่ง ไม่แน่ว่า เรื่องราวความรักนี้อาจเป็นเรื่องของคุณก็ได้ และจะเป็นคุณเท่านั้น ที่บอกได้ว่า 5 Centimeters Per Second นั้นมีจุดจบแบบ Happy Ending หรือ Bad Ending
งานอีกหลายชิ้นของอาจารย์ Makoto Shinkai อย่างที่บอกว่าส่วนใหญ่จะสะท้อนเรื่องราวความรักเช่นนี้ อย่างงานที่ค่อนข้างแมสหน่อยก็จะเป็น Your Name หรือในชื่อหนังสือภาษาไทย “เธอคือ…” และกับผลงานล่าสุด Weathering With You หรือในชื่อภาษาไทย “ฤดูฝัน ฉันมีเธอ” แต่สำหรับผมแล้ว ผมมองว่างานเรื่อง 5 Centimeters Per Second ยังไงก็เยี่ยมยอดที่สุดครับ แต่หากใครรู้สึกว่ามันหนักไป ลองหาเรื่องอื่น ๆ ที่ว่ามาดูก่อนได้ครับ เพราะถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีเลยครับ

สุดท้ายนี้ อยากให้ทุกคนได้มีโอกาสดูหนังเรื่องนี้ครับ เป็นหนังที่สะท้อนอะไรหลาย ๆ สิ่งในหัวใจของเรา มันควรค่าแก่การดูแน่นอนครับ หากใครมีความรัก ให้ดู 5 Centimeters Per Second หากใครอกหัก ให้ดู 5 Centimeters Per Second หากใครกำลังตามหารัก ให้ดู 5 Centimeters Per Second ครับ แล้วคุณจะพบกับแง่งามในความเจ็บปวดนั้นแน่นอน