ไม่นานนี้เองที่หนังเรื่องนี้เข้ามาใน Netflix ส่วนตัวผมตั้งตารอดูมาตั้งนาน เห็นว่าเลื่อนแล้วเลื่อนอีก ในที่สุด หนังเรื่อง Love and Monsters ก็ตัดสินใจลงสตรีมมิงเสียที หลังจากเลื่อนไปเลื่อนมาอยู่หลายต่อหลายรอบ ในตอนแรกหนังเรื่องนี้มีแผนจะฉายวันที่ 6 มีนาคม 2020 แต่เพราะได้รับผลกระทบจากปัญหาโควิด 19 จึงต้องขอเลื่อนไปฉายวันที่ 17 เมษายน 2020 แต่ดูเหมือนเหตุการณ์จะไม่ดีขึ้นเลย จึงเหมือนกับหนังหลาย ๆ เรื่อง เลื่อนฉายยาว ๆ ไปเลยหนึ่งปี จนได้เป็นวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2021 แต่สุดท้ายแล้วในบ้านเราก็ไม่ได้ฉาย โชคดีที่หนังตัดสินใจลงในสตรีมมิงเจ้าดังอย่าง Netflix เสียที ทำให้เราได้ดูหนังเรื่องนี้กันเสียที

L&M Joel

เรื่องราวในหนังไม่ได้มีอะไรใหม่ เล่าเรื่องราวของโลกหลังจากที่อุกกาบาตปริศนาตกลงมาอย่างน่าประหลาด ทุกประเทศทั่วโลกจึงร่วมมือกันเพื่อทำลายอุกกาบาตได้สำเร็จ แต่มันไม่จบแค่นั้น สิ่งที่อุกกาบาตปริศนานี้พามาด้วย คือเชื้อโรคที่สุดแสนอันตราย เป็นเชื้อโรคที่ทำให้เหล่าแมลงทั้งหลาย รวมถึงสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ และสัตว์เลื้อยคลานกลายพันธุ์เป็นสัตว์ประหลาดน่ารังเกียจ แถมตัวใหญ่ขึ้นเสียด้วย สุดท้ายพวกมันจึงขึ้นไปอยู่บนจุดสูงสุดของห่วงโซ่อาหารแทนที่มนุษย์อย่างเรา ไม่นานนักประชากรมนุษย์ทั้งหลายก็เกือบจะสูญสิ้นเผ่าพันธุ์ เหลือประชากรมนุษย์ในโลกเพียงแค่ 5% ต้องคอยหลบซ่อนอยู่ในบังเกอร์ใต้ดิน หนังเรื่องนี้ดำเนินเรื่องโดย Joel (รับบทโดย Dylan O’Brien) เด็กหนุ่มวัยรุ่นสุดแสนธรรมดา ที่วัน ๆ เอาแต่นั่งจดบันทึกข้อมูลปีศาจ หลังจากอยู่ในบังเกอร์นานถึง 7 ปี สุดท้ายเขาก็ได้ตัดสินใจที่จะออกเดินทางระยะทางกว่า 85 ไมล์ เพื่อไปพบกับ Aimee (รับบทโดย Jessica Henwick) หญิงสาวผู้เป็นที่รัก หลังจากขาดการติดต่อทางวิทยุ และนี่คือเรื่องราวการผจญภัย ของวัยรุ่นสุดแสนธรรมดา เพื่อออกเดินทางไปหารักแท้ของเขา หลังจากไม่ได้เจอกันถึง 7 ปี กับการต้องฝ่าฟันกับเหล่าสัตว์ประหลาดสุดแสนน่ากลัวนี่เอง

L&M Joel Amiee

Love and Monsters ได้ผู้กำกับ Michael Matthew มากำกับ ดูเหมือนจะเป็นผู้กำกับที่ใหม่ ยังไม่ค่อยมีผลงานมากนัก แต่ยังไงก็อยากลองดูเรื่องนี้ ในช่วงที่หนังเพิ่งปล่อยตัวอย่างมา ให้ความรู้สึกเหมือนอารมณ์โดยรวม (จากตัวอย่างหนัง) ดูเหมือนจะเป็นหนังแนวดูเอาเพลิน ต่างจากผลงานเก่า ๆ ของ Dylan ที่ดัง ๆ อย่าง The Maze Runner ดังนั้นจึงไม่ได้คิดอะไรมากนักขณะนั่งดูหนังเรื่องนี้ (ถึงอย่างนั้น พอดูตัวอย่างก็อยากดูอยู่ดี) ด้วยความที่พล็อตหนังแบบนี้เราได้ดูกันอยู่บ่อย ๆ แล้ว จึงเป็นเรื่องที่ยากและค่อนข้างน่ากลัว หากทำออกมาดีก็เป็นเรื่องที่ดีเลย แต่หากทำออกมาซ้ำซาก ผมมองว่าเป็นหายนะของผู้สร้างได้เหมือนกัน แต่หนังเรื่องนี้ ส่วนตัวผมว่า รอดครับ ตัวผมเองรู้สึกว่า Love and Monsters มีความเป็นตัวของเค้าเอง ไม่ได้เหมือนหนังสัตว์ประหลาดเรื่องอื่นเสียทีเดียว แต่ก็ไม่ได้ผิดแผกไปขนาดนั้น น่าจะเพราะว่าบวกกับเรื่องราวความรักของหนุ่มสาวด้วย ทำให้ฉีกไปจากเรื่องอื่นสักหน่อย และทำให้หนังเรื่องนี้ไม่ค่อยน่าเบื่อมากนัก

L&M Joel Boy

ถึงจะบอกว่าไม่ค่อยน่าเบื่อมากนัก แต่ตรงกลาง ๆ เรื่อง ช่วงผจญภัย ผมเองยังมองว่าอาจจะดูช้าไปสักนิด ทุกอย่างมันดูเรื่อย ๆ ไปเสียหมด แต่หนังก็ได้เอาตัวละครลับมาดักทางคนดู นั่นคือน้องหมาชื่อ Boy (ซึ่งเป็นตัวละครหลักอีกตัวของเรื่องนี้) เพียงแค่มีเจ้า Boy อยู่ เท่านี้ก็ไม่น่าเบื่อนักแล้ว แต่ถึงจะบอกแบบนั้น ก็ขอบอกไว้ว่ามันก็ไม่ได้ไม่ดีเสียทีเดียวนะครับ เพียงแต่ช้าไปสักนิดเท่านั้นเอง ในเรื่องของปมปัญหาหรือข้อขัดแย้งของเรื่องนี้ก็เป็นไปตามขนบของหนังผจญภัยบวกกับหนังรักทั่วไป ไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่มากนัก จึงต้องขอบอกว่า หนังเรื่องนี้ดูได้ ดูสนุก เหมาะกับการดูกันเป็นครอบครัวก็ได้ ดูคนเดียวก็ได้

L&M Boy

ถึงจะเป็นแบบนี้ แต่หนังเรื่องนี้ก็แฝงแง่คิดที่ดีไว้มากมาย สารที่ต้องการสื่อดูเหมือนจะเป็นสารที่ธรรมดา แต่มันเป็นสิ่งธรรมดาที่เราอาจหลงลืม ต้องบอกเลยว่า มันสร้างผลกระทบกับตัวผมเองอยู่เหมือนกัน ตามขนบของหนังผจญภัย นั่นคือเรื่องราวของความกล้าหาญ กล้าที่จะก้าวออกากจุดปลอดภัย ไปสู่การผจญภัยที่เราไม่คุ้นเคย อาจจะลำบากอยู่มาก แต่ต้องยอมรับ ว่าเราจะได้สิ่งที่มีค่ากับเรามาในชีวิตอย่างแน่นอน การกล้าลองสิ่งใหม่ สิ่งนี้เองจะเป็นสิ่งที่ทำให้เราปลดปล่อยตัวเองจากหลาย ๆ อย่าง และที่สำคัญ การลองสิ่งใหม่มันสนุก เรื่องราวเหล่านี้ ตัวละครหลักอย่าง Joel ได้บอกพวกเราไว้หมดแล้ว

L&M Joel Robot

โดยรวมแล้ว ผมก็ยังอยากชวนทุกคนดูหนังเรื่องนี้อยู่ดี คุณสามารถหาดูเพื่อความเพลิดเพลินก็ได้ หรือจะดูเอาสาระหรือเอาสารที่หนังต้องการจะสื่อก็ได้ ดูคนเดียว หรือดูกับครอบครัวก็ได้ อย่างที่บอกว่าหนังเรื่องนี้มีสารที่ต้องการจะสื่ออยู่ ดังนั้นการนั่งดูกับเด็ก ๆ ก็เป็นตัวเลือกที่ดีเหมือนกัน ถือเป็นกิจกรรมครอบครัว และได้สอนถึงสิ่งที่อยู่ในหนังให้กับเด็ก ๆ ด้วยครับ สรุปแล้ว ผมคิดว่าหนังเรื่องนี้ ควรค่าแก่การดูอยู่ครับ