เปลี่ยนตาย ไม่ให้ตาย BUTTERFLY EFFECT (2004) เป็นภาพยนตร์ที่ฉายครั้งแรกเมื่อปี 2004 จนถึงตอนนี้ก็เป็นเวลา 17 ปีแล้ว แต่ก็ยังคงเป็นภาพยนตร์ที่มีพล็อตเรื่องน่าสนใจ โดยเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับชายหนุ่มคนหนึ่งที่สามารถย้อนอดีตไปแก้ไขเรื่องราวและเปลี่ยนอนาคตได้ แต่ยิ่งย้อนไปแก้ไขอดีตเท่าไหร่ ชีวิตเขาก็ยิ่งยุ่งเหยิงมากยิ่งขึ้น เรียกได้ว่าเป็นภาพยนตร์ที่ในชีวิตนี้ต้องได้ดูซักครั้ง

เรื่องย่อ

BUTTERFLY EFFECT (2004) เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตของ อีแวน ทรีบอร์น ชายหนุ่มที่มีอาการวูบหมดสติในตอนเด็ก แต่หลังจาก 7 ปีหลังจากเหตุการณ์หมดสติครั้งสุดท้าย เขาก็ไม่มีอาการนี้อีกเลย หลังจากนั้นอีแวนก็พบว่าตนเองมีความสามารถเปลี่ยนแปลงอนาคตได้จากการย้อนไปแก้ไขอดีต แต่ยิ่งเขาเปลี่ยนอดีตเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้ผลเสียตามมามากยิ่งขึ้น เนื่องจากเขาไม่สามารถเปลี่ยนให้ทุกอย่างเป็นไปตามที่เขาต้องการได้ทั้งหมด ยิ่งย้อนอดีตทั้งชีวิตของเขาและคนรอบข้างก็ยิ่งซับซ้อนและอาจจะแย่ลง

ทฤษฎีผีเสื้อกระพือปีก

ทฤษฎีผีเสื้อกระพือปีกหรือ CHAOS THEORY ซึ่งเป็นทฤษฎีที่สื่อถึงการกระทำเล็ก ๆ ที่สามารถส่งผลที่ยิ่งใหญ่ได้ ที่มาของทฤษฎีนี้มาจาก Edward Lorenz ผู้ซึ่งเป็นนักอุตุนิยมวิทยาและนักคณิตศาสตร์ชาวอเมริกันที่ศึกษาเกี่ยวกับเรื่องของสภาพอากาศ ซึ่งเขารู้สึกขี้เกียจที่จะกรอกตัวเลขทศนิยมเยอะ ๆ ในสมการคณิตศาสตร์ของเขา เขาจึงปัดตัวเลขทศนิยมให้เหลือสี่หลัก และเขาก็ค้นพบว่าผลลัพธ์ที่เขาได้นั้นต่างกันอย่างสิ้นเชิงหากเขาหรอกตัวเลขทศนิยมครบทุกหลัก เขาจึงคิดว่า ถ้าผีเสื้อกระพือปีกที่บราซิล จะสามารถทำให้เกิดทอร์นาโดที่เท็กซัส (ประเทศสหรัฐอเมริกา) ได้หรือไม่ ซึ่งคำถามนี้เป็นการเปรียบเปรยถึงเรื่องเล็ก ๆ ที่สามารถส่งผลให้เกิดผลกระทบในเสกลใหญ่ได้

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดจากทฤษฎีนี้คือ หากเรานำ 1.01 คูณกับ 365 และนำ 0.99 คูณกับ 365 จะพบว่าผลลัพธ์ที่ได้นั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงแม้ว่าตัวเลขทั้งเลขห่างกันเพียง 0.02 เท่านั้น

1.01* 365 = 37.8

0.99 * 365 = 0.03

(อ้างอิง : บทความวิชาการจาก Pinyo Rattanaphanวารสารวิทยาลัยบัณฑิตศึกษาการจัดการ มข. , https://www.livescience.com)

ซึ่งจะสามารถสื่อได้ว่าการกระทำเล็ก ๆ สามารถส่งผลที่ยิ่งใหญ่กับชีวิตของเราได้ในอนาคต

รีวิว

มีเพื่อนคนหนึ่งแนะนำให้ดูภาพยนตร์เรื่องนี้ ซึ่งเพื่อนบอกว่าสนุกและดีมาก ๆ ไม่กี่วันที่ผ่านมาเลยได้ฤกษ์เปิดดู แล้วก็พบว่าดีตามที่บอกจริง ๆ แต่ก่อนที่จะมาดูนั้นไม่ได้คาดหวังพล็อตเรื่องที่หนักหน่วง ในส่วนของที่มาตัวละคร การใช้ชีวิต เนื้อเรื่องส่วนใหญ่จะค่อนข้างดาร์ก (ถึงแม้จะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในสังคมอยู่แล้ว) โดยตัวละครหลักซึ่งก็คืออีแวน เพื่อนของอีแวน ซึ่งทุกครั้งที่อีแวนเดินทางไปในอดีตเพื่อเปลี่ยนแปลงมัน เรื่องราวในอดีตที่เปลี่ยนแปลงก็จะส่งผลมายังอนาคตซึ่งก็คือปัจจุบันที่อีแวนอาศัยอยู่ ซึ่งเป็นสิ่งที่คาดเดาได้ยากมากว่าเรื่องราวจะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางไหน เหตุการณ์ในอดีตที่อีแวนเดินทางไปเปลี่ยนแปลงอาจเป็นแค่เหตุการณ์เล็ก ๆ แต่มันก็เพียงพอที่จะสามารถทำลายชีวิตของคนรอบข้างอีแวนรวมถึงตัวเขาเองได้ ซึ่งนี่ก็อาจจะเป็นที่มาของชื่อเรื่อง

ภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกจัดให้อยู่ในหมวดหมู่ภาพยนตร์แนวระทึกขวัญและ sci-fi การส่วนตัวคิดว่าเป็นแนวผจญภัยระทึกขวัญ เนื่องจากการที่อีแวนย้อนเวลากลับไปแต่ละครั้งนั้นล้วนนำมาซึ่งเหตุการณ์ที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ทำให้ลุ้นตามว่าสุดท้ายแล้วชีวิตของอีแวนและคนรอบข้างจะลงเอยแบบใด

(สปอยล์)

สภาพแวดล้อมและการเลี้ยงดู

สภาพแวดล้อมที่อีแวนและเพื่อนโตมานั้นเป็นสภาพแวดล้อมที่ไม่ค่อยดีนัก (เรียกว่าแย่เลยก็ได้) จึงทำให้เพื่อนของเขาโดยเฉพาะทอมมี่และเคลีย์ที่มีวัยเด็กที่ไม่ค่อยดีนัก และนั่นก็ส่งผลต่อเหตุการณ์ทั้งหมดในเรื่อง ซึ่งต้นเหตุส่วนใหญ่ก็มาจากทอมมี่ที่สภาพจิตใจและความคิดในวัยเด็กของเขาค่อนข้างบิดเบี้ยว เขาจึงชักชวนเพื่อนในทางที่ไม่ดี (ซึ่งเพื่อนก็คล้อยตามเสียด้วย) อาจจะเป็นเรื่องความคึกคะนองด้วย จนทำให้ตัดสินใจและทำอะไรที่ผิดพลาด จากภาพยนตร์เรื่องนี้จะเห็นได้ว่าสภาพแวดล้อมส่งผลและการเลี้ยงดูส่งผลต่อเด็กมากจริง ๆ

การตัดสินใจที่นำมาซึ่งผลลัพธ์ที่ต่างกันราวฟ้ากับเหว

สิ่งหนึ่งที่ประทับใจในภาพยนตร์คือเรื่องพล็อตที่นำเสนอเรื่อง “เราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงโชคชะตาและชีวิตของใครได้” ซึ่งในเรื่องสามารถสื่อข้อความในเรื่องนี้ได้ดีมาก ๆ เพราะทุกครั้งที่อีแวนย้อนอดีตไปเปลี่ยนแปลงเหตุการณ์บางอย่าง มันจะนำมาซึ่งอนาคตที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เขาสามารถทำลายทั้งชีวิตของตนเองและผู้อื่น สิ่งหนึ่งที่รู้สึกสงสัยว่าสาเหตุที่พ่อของอีแวนต้องบีบคออีแวนในวัยเด็ก อาจเนื่องมาจากพ่อของเขาต้องการให้อีแวนเลิกหมกมุ่นกับเรื่องเปลี่ยนแปลงอดีต (ซึ่งตอนนั้นอีแวนก็ไม่เข้าใจและยังคงมุ่งมั่นเปลี่ยนแปลงอดีตต่อไป)

เมื่ออีแวนย้อนทางไปเปลี่ยนเหตุการณ์หนึ่งในอดีต เขาก็ต้องย้อนไปในอดีตเพื่อเปลี่ยนแปลงอดีตเรื่อย ๆ เนื่องจากอนาคตมันแย่ลงกว่าเดิม เขาได้ทำร้ายคนรอบข้างอย่างไม่ได้ตั้งใจ เช่น เคลีย์ที่ไม่ได้เรียนต่อและต้องทำงานเป็นหญิงให้บริการ, อีแวนที่ต้องเข้าคุกเพราะต่อสู้กับทอมมี่, แม่ของอีแวนที่เป็นมะเร็งเนื่องจากเครียดเพราะอีแวนแขนพิการ เป็นต้น ทำให้เราสามารถเข้าใจว่า ถึงจะสามารถย้อนเวลาได้ แต่ใช่ว่าทุกอย่างจะดีขึ้น  เพราะในชีวิตจริง หากเรารู้สึกเสียใจและเสียดายเกี่ยวกับเรื่องในชีวิต เรามักจะคิดว่า “ถ้าย้อนเวลาได้ก็คงจะดี จะได้กลับไปทำให้ทุกอย่างดีขึ้น” ซึ่งจริง ๆ แล้วมันอาจจะแย่ลงกว่าเดิมก็ได้ เพราะฉะนั้นการอยู่กับปัจจุบันเป็นเรื่องที่ดีที่สุด

จุดเด่นจริง ๆ ไม่ได้อยู่ที่ความสามารถของอีแวน แต่เป็นไอเดียในเรื่องของ “เราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงให้ทุกอย่างเป็นไปตามที่เราหวังได้” เนื่องจากชีวิตจริงมีปัจจัยหลายอย่าง เราจึงไม่สามารถควบคุมทุกสิ่งได้ เพราะบางอย่างก็อยู่เหนือการควบคุม เราจึงควรต้องปล่อยวางและยอมรับว่าเราไม่สามารถแก้ไขสิ่งที่ผ่านไปแล้วได้ สิ่งที่ดีที่สุดคือการอยู่กับปัจจุบัน ทำปัจจุบันในดีที่สุดแล้วอนาคตก็จะดีเอง

สรุป

เปลี่ยนตาย ไม่ให้ตาย BUTTERFLY EFFECT (2004) เป็นภาพยนตร์ที่ไม่ควรพลาด แม้ว่าจะเป็นภาพยนตร์ที่เก่าแล้ว แต่ไอเดียไม่ได้เก่าตาม พล็อตยังสามารถทำให้ตื่นเต้นได้ตลอดเวลา แม้ว่าจะดูในปี 2021 ก็ตาม โดยสามารถรับภาพยนตร์ได้ทาง Netflix โดยใช้เวลารับชมประมาณ 1 ชั่วโมง 53 นาที