ชนชั้นขยะปฏิวัติจักรวาล SPACE SWEEPERS 2021 เป็นภาพยนตร์ไซไฟฟอร์มยักษ์จากเกาหลี เป็น NETFLIX ORIGINAL CONTENT ที่เข้าเมื่อต้นปี ซีจีอลังการสมการรอคอย พร้อมกับพล็อตโลกอนาคตที่น่าตื่นเต้น นักแสดงนำที่ดึงความสนใจได้อยู่หมัด มีความแน่นเรื่องปมดราม่าและชีวิตของตัวละคร การดำเนินเรื่องน่าตื่นเต้น เป็นภาพยนตร์ที่ครบเครื่องเรื่องอารมณ์และเสียดสีสังคมเรื่องชนชั้น

เรื่องย่อ
ชนชั้นขยะปฏิวัติจักรวาล 2021 เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับโลกอนาคตในปี 2092 ที่เต็มไปด้วยมลพิษ ไม่มีแม้กระทั่งอากาศบริสุทธิ์และจำเป็นต้องสวมหน้ากากตลอดเวลา ทำให้มีการคิดค้นการย้ายถิ่นฐานไปอยู่บนอวกาศซึ่งก็คือสถานที่ที่เรียกว่า UTS เป็นโลกใบใหม่ที่โคจรรอบวงโคจรดาวเทียม โดยมีเพียงแต่ผู้ที่ถูกคัดเลือกเท่านั้นที่สามารถขึ้นไปอยู่บน UTS ได้ ประชากรส่วนใหญ่ยังคงอาศัยอยู่ที่โลก แต่ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีก็ต้องแลกมาด้วยขยะอวกาศที่สามารถเป็นอันตรายต่อทั้งดาวโลกและ UTS จึงมีอาชีพหนึ่งที่ที่ทำหน้าที่เก็บขยะอวกาศเพื่อนำมาแลกเงิน โดยกลุ่มที่ขึ้นชื่อเรื่องความเก่งกาจทั้งเรื่องยานและการเก็บขยะนั้นคือยาน VICTORY ที่มีสมาชิกประกอบไปด้วย คิมแทโฮ (ซงจุงกิ), กัปตันจาง (คิมแทรี), ไทเกอร์ พัค (ชินซอนกยู), และ บั๊บส์ (หุ่นยนต์) แม้ว่าพวกเขาจะขึ้นชื่อเรื่องการเก็บขยะแค่ไหน แต่พวกเขาก็ต้องนำเงินค่าจ้างที่ได้เพียงน้อยนิดไปจ่ายค่าซ่อมบำรุงยาน ซึ่งแต่ละคนล้วนต้องการหาเงินและมีจุดมุ่งหมายในชีวิตแตกต่างกันไป
แต่แล้วพวกเขาก็ได้เข้าไปข้องเกี่ยวกับเหตุหารณ์สำคัญที่ส่งผลต่อชีวิตของมนุษยชาติ เมื่อพวกเขาเจอตัว “โดโรธี” เด็กผู้หญิงซึ่งเป็นหุ่นยนต์ทำลายล้างโดยบังเอิญ แต่แล้วเรื่องราวกลับซับซ้อนมากยิ่งขึ้น เมื่อเรื่องราวกลับไม่เป็นอย่างที่คิดและพวกเขาก็ได้พบเบื้องหลังอันดำมืดของ UTS

รีวิว
จริง ๆ แล้วภาพยนตร์เรื่องนี้มีกระแสเมื่อช่วงต้นปี เพราะนอกจากภาพยนตร์จะน่าดูแล้ว ยังมี ซงจุงกิ เป็นหนึ่งในนักแสดงนำ ซึ่งเรียกได้ว่าในช่วงปี 2019-2021 เป็นช่วงปีทองของซงจุงกิเลยก็ว่าได้ เนื่องจากมีผลงานออกมามากมาย เช่น อาธดัล สงครามสยบบัลลังก์ (Arthdal Chronicles) 2019, วินเชนโซ่ (VINZENZO) 2021 และ ชนชั้นขยะปฏิวัติจักรวาล 2021
โดยรวมแล้วค่อนข้างชอบภาพรวมของภาพยนตร์เรื่องนี้พอสมควรเนื่องจากเป็นภาพยนตร์ sci-fi ที่พล็อตแปลกใหม่และซีจีสวยมาก รู้สึกไม่ผิดหวังสำหรับเรื่องของคุณภาพและพล็อต แต่รู้สึกเสียดายนิดหน่อยที่ไม่ได้รู้สึกอินกับปมของตัวร้าย อาจจะเป็นเพราะว่าต้องปูเรื่องเยอะเลยทำให้มีพื้นที่ให้นำเสนอเรื่องราวของตัวร้ายน้อยลง เพราะเรื่องนี้มีอธิบายละเอียดยิบเกี่ยวกับเทคโนโลยีที่ส่งผลสำคัญในเรื่อง อย่างเช่น nonobot ซึ่งหากไม่ตั้งฟัง (หรืออ่านซับไตเติล) ก็อาจจะทำให้งงได้
ในช่วงต้นเรื่องรู้สึกว่าตื่นเต้นกับการนำเสนอของภาพยนตร์ เพราะด้วยมาตรฐานของเกาหลีแล้วทำให้เกิดความคาดหวังว่า “หนังเรื่องนี้จะต้องดีแน่ ๆ ” ซึ่งก็ดีตามคาด ซึ่งในช่วงแรกภาพยนตร์ก็ปูพื้นเรื่องราวให้เข้าใจวิถีชีวิตของกลุ่มตัวละคร แล้วจากนั้นก็ค่อย ๆ เล่าเรื่องราวเบื้องหลังของตัวละครแต่ละตัวแบบไม่มากแต่ก็สามารถทำให้อินและเข้าใจตัวละครนั้น ๆ ได้มากขึ้น แต่จุดทมี่เสียดายก็คือการเล่าเรื่องของตัวร้ายที่มาน้อยไปหน่อย และไม่ค่อยอินกับตัวร้ายนัก
ส่วนตัวแล้วประทับใจในฉากแอ็กชันมาก ๆ เนื่องจากการต่อสู้บนอวกาศระหว่างยานฝ่ายตัวเอกและตัวร้ายนั้นมีความน่าตื่นเต้นและทำให้ลุ้นอยู่พอสมควร แม้ว่าจะแอบเสียดายที่บางฉาก อย่างเช่น ฉากแอ็กชันเร็วมาก แบบรายละเอียดดี ภาพสวย แต่เห็นแค่แวบ ๆ ทำให้ต้องย้อนกลับไปดูใหม่ ในส่วนของเนื้อเรื่องก็จะมีความ cliché คือเป็นเส้นเรื่องแบบคล้าย ๆ เดิม ทำให้สามารถคาดเดาได้ แต่ก็ยังคงความสนุกไว้ได้อยู่
(สปอยล์)

โดโรธี เด็กหญิงตัวน้อยผู้เป็นเดอะแบก
โดโรธีเป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ หน้าตาน่ารักน่าชังที่ถูกใส่ร้ายป้ายสีว่าเป็นหุ่นยนต์ทำลายล้างของกลุ่มขบถ แต่จริง ๆ แล้ว น้องนี่แหละคือเดอะแบกที่สามารถเปลี่ยนโลกของมนุษยชาติได้ ด้วยความกระหายอำนาจและความอยากเปลี่ยนแปลงสังคมมนุษย์ให้เป็นไปตามจุดประสงค์ของตัวเอง ตัวร้ายจึงวางแผนกำจัดโดโรธี (หลังจากที่ใช้ประโยชน์จากน้องในการเปลี่ยนดาวอังคารให้สามารถอยู่อาศัยได้แล้ว) ทำให้รู้สึกว่าโดโรธีเป็นตัวละครที่น่าสงสารที่สุดในเรื่อง (รองจากลูกของพระเอก) เนื่องจากโดนใช้งานตลอดแถมยังต้องสูญเสียครอบครัวและถูกวางแผนฆ่าด้วย แลพการมีอยู่ของโดโรธีทำให้ทุกอย่างที่เป็นไปไม่ได้สามารถเป็นไปได้ (ตัวโกงของเรื่องชัด ๆ)
ความสะเทือนใจของคิมแทโฮ ทหารอากาศผู้เสียสละทุกอย่างเพื่อลูก
ปมในอดีตของคิมแทโฮ (พระเอก) ทำให้เขาเป็นตัวละครที่มีความน่าสนใจ เนื่องจากมีความย้อนแย้งในตัวเองและไม่ได้เป็นคนดีตามทึควรจะเป็น เน้นเป้าหมายตัวเองเป็นหลัก ซึ่งจุดเริ่มต้นของเขาก็ไม่ได้ดีนักเนื่องจากเขาเป็นทหารเด็กที่ต้องเข่นฆ่าผู้คนมากมายตามคำสั่ง ทั้ง ๆ ที่คนเหล่านั้นอาจไม่สมควรที่จะตาย และคิมแทโฮที่ตอนนั้นมีตำแหน่งระดับหัวหน้า ได้เก็บเด็กผู้หญิงคนหนึ่งมาเลี้ยงและมีความผูกพันจนกลายเป็นลูกสาว หลังจากนั้นเขาก็ไม่สามารถทำตามคำสั่งได้อีกต่อไปและถูกปลดในที่สุด ซึ่งขณะนั้นเองคิมแทโฮก็อายุเพียง 20 ปี ทำให้เขาเสียคนและมีเป้าหมายอย่างเดียวคือหาเงินเพื่อให้มีข้าวกินไปวัน ๆ โดยไม่สนใจวิธีการ ทำให้เขาใส่ใจลูกสาวน้อยลงและในที่สุดเขาก็เสียลูกสาวไป จากเรื่องราวของคิมแทโฮทำให้ได้มานั่งคิดว่าบางครั้งคนเราก็ลืมให้ความสำคัญกับสิ่งที่สำคัญที่สุด จากในเรื่องก็คือ เขาให้ความสำคัญกับเงินเพื่อนำมาใช้เลี้ยงปากเลี้ยงท้องของเขาและลูกสาว จนทำให้เขาลืมว่าสิ่งที่สำคัญมากที่สุดคือความรู้สึกของลูกสาว
ความประทับใจ
สิ่งที่ประทับใจมาก ๆ ก็คือเรื่องก็คือความพลิกแพลงของพล็อตกลุ่มขบถที่แท้จริงแล้วเป็นกลุ่มที่ต่อต้านความชั่วร้ายของตัวร้าย (และสุดท้ายก็ตายเรียบ) และประทับใจในฉากแอ็กชันที่บางครั้งก็คาดไม่ถึง
ความน่ารักของกนนิมหรือโดโรธีที่ทำให้ภาพยนตร์มีความสดใสเป็นเท่าตัว ซึ่งด้วยความที่กนนิมเป็นเด็กที่มีความสดใส (มากๆ) ทำให้สมาชิกในยานที่ใจแข็งและมีความป่าเถื่อนพอสมควร ต้องใจอ่อนยวบกับความน่ารักของเด็กน้อยคนนี้ ซึ่งตัวละครกนนิมเป็นตัวละครที่น่ารักและมีเสน่ห์มาก ๆ
การปฏิวัติของคนเก็บขยะอวกาศ ฉากหนึ่งที่รู้สึกว่าประทับใจมาก ๆ คือการที่ทุกคนร่วมกันต่อสู้กับตัวร้ายเนื่องจากต้องการจะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เป็นอยู่ ทำให้ได้มองย้อนกลับมาที่ชีวิตจริงว่า ถ้าอยากเปลี่ยนแปลงอะไรที่เป็นเสกลใหญ่ ๆ ไม่ขึ้นไปอยู่บนจุดสูงสุดแล้วเปลี่ยนมัน (แบบตัวร้าย) ก็ต้องเป็นการเปลี่ยนแปลงที่คนหมู่มากต้องเห็นด้วยและช่วยกันเปลี่ยน

สรุป
ชนชั้นขยะปฏิวัติจักรวาล SPACE SWEEPERS 2021 เป็นภาพยนตร์ที่ทำได้ดีตามมาตรฐานเกาหลีและหนัง sci-fi ซีจีและภาพสวย พล็อตเรื่องดีแต่มีกลิ่นอายความ cliché มีความน่าตื่นเต้นและฉากแอ็กชันที่สนุกพอสมควร เป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่ไม่ควรพลาดในปีนี้ และจัดให้อยู่ในหมวดภาพยนตร์ที่เนื้องเรื่องเข้มข้นแต่ไม่ดาร์ก สามารถดูได้ทั้งครอบครัว โดยสามารถดูได้ใน Netflix ใช้เวลาในการรับชมประมาณ 2 ชั่วโมง 17 นาที