โลกทุกวันนี้เต็มไปด้วยสิ่งที่ต้องทำ งาน ความกดดันและความเครียด ไม่ว่าจะเป็นวัยเรียน วัยทำงาน ก็ล้วนประสบปัญหาเดียวกันทั้งสิ้น การใช้ชีวิตให้อยู่รอดในแต่ละวันจึงเป็นเรื่องที่ทั้งท้าทายและน่าเบื่อหน่ายในบางครั้ง หากมีสิ่งที่ช่วยเยียวยาจิตใจให้พ้นจากความรู้สึกด้านลบเหล่านี้ได้ก็คงจะดีไม่น้อย ในวันนี้เราจึงมาแนะนำ 5 อนิเมะ คอมเมดี้ที่คุณไม่ควรพลาด!

1. The Disastrous Life Of Saiki K. ไซคิหนุ่มพลังจิตอลเวง

แนว : Comedy

เวลา :   ซีซัน 1 : 24 ตอน ตอนละ 23 นาที (9 ชั่วโมง 22 นาที)

          ซีซัน 2 : 24 ตอน ตอนละ 23 นาที (9 ชั่วโมง 22 นาที)

          ซีซัน 3 :  2 ตอน ตอนละ 23 นาที (46 นาที)

          ไซคิหนุ่มพลังจิตอลเวง อนิเมะชื่อดังด้านปั่นป่วนกวนประสาท ที่มีความฮาแบบเรื่อย ๆ โดยมีต้นฉบับมังงะโดยชูอิจิ อาโซ (Shuichi Aso) โดยหากใครต้องการอนิเมะที่เยียวยาจิตใจให้กลับมาสดใสอีกครั้ง อนิเมะเรื่องนี้อาจช่วยคุณได้ (ให้เครียดกว่าเดิม!)

เรื่องย่อ : เมื่อ “ไซคิ” เด็กหนุ่มผมชมพูผู้มีพลังพิเศษที่แทบจะเหมารวมพลังทุกอย่างบนโลกใบนี้ ซึ่งความพิเศษนี้ส่งผลให้เขาไม่ใช่บุคคลธรรมดา ส่งผลให้ไซคิค่อนข้างเย็นชากับสิ่งรอบข้าง แต่เขาก็อยากใช้ชีวิตเฉกเช่นนักเรียนวัยมัธยมและคนปกติทั่วไป แน่นอนว่าทุกอย่างไม่ได้เป็นตามที่เขาคิดหรือหวังไว้ เนื่องจากคนรอบข้างของไซคิ ทั้งครอบครัวและเพื่อน ๆ ที่ตระหนักรู้ว่าเขามีพลังพิเศษ นำเหตุการณ์วุ่น ๆ มาให้เขาเสมอ ส่วนเรื่องที่ว่านั้นมีอะไรบ้าง คงต้องไปติดตามชมกันเอง โดยทั้งสามซีซันมีใน Netflix

2. Cells At Work! เซลล์ขยันพันธุ์เดือด

แนว : Black comedy, Drama

เวลา :  Cells At Work! – 2 ซีซัน (ซีซันแรก 13 ตอน, ซีซันที่สอง 8 ตอน) ตอนละ 23 นาที

          เวลาดูภาคแรก : 4 ชั่วโมง 59 นาที

          เวลาดูภาคสอง : 2 ชั่วโมง 4 นาที

         Cell At Work! CODE BLACK – 1 ซีซัน (13 ตอน)

          เวลาดู : 4 ชั่วโมง 59 นาที

อนิเมะเรื่องนี้สร้างจากต้นฉบับมังงะ วาดโดย อาจารย์อากาเนะ ชิมิซึ (Akane Shimizu) โดย Cells At Work! จะมีเรื่องราวสองภาค (ไม่ต่อกัน) ภาคแรกคือ Cells At Work! ซึ่งจะเป็นการทำงานทั่วไปของเหล่าเม็ดเลือดและเซลล์ต่าง ๆ มีทั้งหมด 6 เล่ม ซึ่งในเล่มที่ 6 จะเป็นตอนพิเศษเกี่ยวกับโควิด 19

ภาคสองคือ Cells at Work! CODE BLACK เป็นเรื่องราว spin-off ซึ่งจะมาในรูปแบบที่ดาร์กกว่า มืดมนและดราม่ากว่าภาคแรก เนื่องจากเป็นเรื่องราวของเหล่าเซลล์ในร่างกายของคนสุขภาพไม่ดี ฉบับมังงะมีทั้งหมด 8 เล่ม ซึ่งปัจจุบันมังงะเรื่องนี้ได้จบแล้วในเล่มที่แปดซึ่งเผยแพร่ไปเมื่อเดือนมกราคม ปี 2021 นอกจากนี้ยังมีเล่มพิเศษออกมาสองเล่มชื่อว่า “Get a Breast Cancer Screening!” ซึ่งเผยแพร่เมื่อเดือนมีนาคม ปี 2020 และ “Cancer, Screening, Prevention” ซึ่งเผยแพร่เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2021

เรื่องย่อ : Cells At Work! หรือ เซลล์ขยันพันธุ์ เป็นอนิเมะแอ็กชั่นเลือดสาด! (เพราะเป็นการทำงานของเม็ดเลือดยังไงก็ต้องมีเลือดเข้ามาเกี่ยวอยู่แล้ว) ซึ่งเล่าเรื่องราวของการทำงานของเม็ดเลือดในรูปแบบของตัวละครที่น่ารัก (และหล่อเหลา!) มาก ๆ  โดยมีตัวละครหลัก เช่น เหล่าเม็ดเลือดขาว (พราวเสน่ห์) ที่มีบุคลิกที่ดูเท่และป่าเถื่อนในขณะเดียวกัน เพราะต้องเป็นสายบู๊ คอยต่อสู้ไม่ให้ไวรัสเข้าร่างกายได้, เหล่าเม็ดเลือดแดงที่ดูใจดี เป็นมิตรและขยันทำงาน, เหล่าเกล็ดเลือดที่เป็นเด็กน้อยน่ารัก เป็นต้น เรียกได้ว่าเป็นอนิเมะที่นำเรื่องวิทยาศาสตร์ใกล้ตัวมาปรับเปลี่ยนให้เป็นเรื่องราวที่สร้างความบันเทิงแถมดูไปดูมาอาจจะได้ความรู้ด้วย เนื่องจากมีการอธิบายศัพท์ทางวิทยาศาสตร์และการทำงานของเซลล์ได้อย่างเข้าใจง่าย อาจจะฟังดูเวอร์ไปซักนิด แต่ถ้าใครยังอยู่ในวัยเรียน อนิเมะเรื่องนี้อาจจะช่วยเตรียมสอบให้น้อง ๆ วัยเรียนได้!

3. The way of house husband พ่อบ้านสุดเก๋า

แนว : Comedy, Feel-Good

เวลา : ซีซัน 1 – 10 ตอน ตอนละประมาณ 19 นาที สามารถดูจบได้ภายใน 3 ชั่วโมง

The way of house husband หรือพ่อบ้านสุดเก๋า เขียนโดย โอโนะ โคสุเกะ (Kousuke Oono) เป็นเรื่องราวที่ได้รับความนิยมตั้งแต่เป็นมังงะ เมื่อถูกนำมาทำเป็นอนิเมะก็ได้รับความนิยมอย่างมาก ซึ่งกระแสความนิยมก็เนื่องจากเรื่องราวที่ฮาเป็นทุนเดิมบวกกับความคาดหวังว่า “มันต้องฮาแน่ ๆ เลย” ซึ่งก็ไม่ได้ผิดคาดนักเพราะมันก็ฮา ๆ จริง ๆ แต่เรื่องของอนิเมชันไม่ได้เป็นตามที่คิดเท่าไหร่ (ส่วนนี้ต้องแล้วแต่ความชอบของแต่ละคนด้วย ต้องไปลองดูกันเอง)

เรื่องย่อ : เมื่อ “ทัตสึ” อดีตยากูซ่าที่โค่นล้มศัตรูมาแล้วนักต่อนักตัดสินใจวางมือจากวงการและผันตัวมาเป็นพ่อบ้านเพื่อดูแลภรรยา โดยสารพัดงานบ้านทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการทำกับข้าว ซื้อของ ทำข้าวกล่อง เขาสามารถทำมันได้หมดอย่างไม่มีข้อบกพร่อง แต่ประเด็นก็คือเขาจริงจังกับงานบ้านมาก (มากไป) ในการทำงานบ้านแต่ละอย่างเรียกได้ว่าถึงขั้นพิถีพิถันและเป๊ะทุกระเบียดนิ้ว เชิญพบกับความฮาแบบไม่กั๊กฉบับพ่อบ้านมืออาชีพ ได้ที่ Netflix โดยซีซันสองจะมาในเร็ว ๆ นี้ บอกเลยว่าห้ามพลาด!

 4. Back Street Girls GOKUDOLS ไอดอลสุดซ่า ป๊ะป๋าสั่งลุย

แนว : Comedy

เวลา : ซีซัน 1 – 10 ตอน, ตอนละ 23 นาที, สามารถดูจบภายใน 3 ชั่วโมง 50 นาที

Back Street Girls GOKUDOLS เป็นอีกหนึ่งอนิเมะที่สร้างมาจากมังงะที่ได้รับความนิยม โดยต้นฉบับมังงะกับอนิเมะนั้นไม่มีความแตกต่างกันเท่าไหร่ เรียกได้ว่าถอดแบบมาเป๊ะ ๆ การเคลื่อนไหวในอนิเมะอาจจะไม่ได้มากนัก (ส่วนนี้แล้วแต่คนชอบ) แต่ความน่าสนใจของอนิเมะเรื่องนี้คือพล็อตที่ดูแปลก แหวกแนวและหลุดโลก พร้อมกับความฮาแบบล้น ๆ แต่ถ้าหากลองคิดดูในมุมที่เกิดขึ้นจริง ๆ ก็น่าจะฮาไม่ลงแน่ ๆ

เรื่องย่อ : เมื่อสามหนุ่มยากูซ่าแห่งแก๊งอินูงาเนะทำความผิดร้ายแรงที่ไม่สามารถให้อภัยได้ บอสใหญ่จึงสั่งการให้พวกเขาทั้งสามคนผ่าตัดแปลงเพศเพื่อมาเป็นไอดอลใต้ดิน! (แถมผ่าตัดที่ไทยด้วย) ด้วยเหตุนี้ทั้งสามคนที่จำใจต้องทำตามคำสั่งและมาเป็นไอดอลที่สุดแสนจะน่ารักและสดใส ซึ่งขัดกับภาพลักษณ์ของพวกเขาอย่างสิ้นเชิง โดยหากใครสนใจฉบับ live-action ของอนิเมะเรื่องนี้ซึ่งมีชื่อไทยว่า “ไอดอลสุดซ่า ป๊ะป๋าสั่งลุย” สามารถดูได้ใน Netflix

5. HI SCORE GIRL เซียนสาวกำราบเกมรัก

แนว : Comedy

เวลา :   ซีซัน 1 : 15 ตอน, ตอนละประมาณ 25 นาที (6 ชั่วโมง 14 นาที)

          ซีซัน 2 :  9 ตอน, ตอนละประมาณ 24 นาที (3 ชั่วโมง 16 นาที)

HI SCORE GIRL เซียนสาวกำราบเกมรัก อนิเมะเรื่องนี้อาจชื่อไม่คุ้นหูเท่าไหร่นัก แต่แค่ลายเส้นกับภาพปกก็ดูฮาเบาสมอง แต่เรื่องนี้จะมีพล็อตที่ไม่หนักบ้าง (อาจดูไม่เป็นการ์ตูนแก๊กเหมือนสองเรื่องก่อนหน้า) ซึ่งเรื่องราวหลัก ๆ จะเกี่ยวกับเกมตู้ที่ใครเกิดทันยุค 90 อาจจะรู้จักกันดี โดยจะมีเรื่องราวโรแมนติกเข้ามาแทรกบ้าง เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในอนิเมะที่ไม่ค่อยมีคนรู้จัก แต่คุณภาพดีเกินคาด!

เรื่องย่อ : “ฮารุโอะ” เด็กชายผู้ชอบเล่มเกมตู้หยอดเหรียญ (อาจถึงขั้นคลั่งไคล้) ซึ่งเขาเล่นเกมตู้ทุกวันและมีความมั่นใจในฝีมือพอควร เนื่องจากชนะคนอื่นมาหลายตารวด แต่เหนือฟ้ายังมีฟ้าเพราะเขาได้พ่ายแพ้ให้กับ “อากิระ” เพื่อนร่วมชั้นเรียนที่แสนจะร่ำรวย ความสัมพันธ์ของทั้งสองจึงเริ่มต้นขึ้น เนื่องจากฮารุโอะจะต้องพยายามอย่างมากเพื่อเอาชนะอากิระให้ได้

หวังว่าอนิเมะคอมเมดี้ที่เลือกมาแนะนำวันนี้จะถูกใจทุกคนไม่มากก็น้อย เพราะเซนส์ของความตลกของแต่ละคนไม่เหมือน ความคอมเมดี้เองก็มีหลายแบบ ทั้งดาร์กคอมเมดี้ หรือคอมเมดี้แบบไม่ค่อยมีสาระ คอมเมดี้แบบมีพล็อตจริงจัง เป็นต้น ในบทความหน้าอาจจะมาแนะนำอนิเมะคอเมดี้สายไหน สามารถรอติดตามกันได้ค่ะ