Stranger Things Season 4 จะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการเดินทางข้ามเวลา มีเบาะแสบางอย่างที่ชี้ไปในทิศทางนั้น วันนี้เราจะชวนมาดูกัน

Stranger Things Season 4 Hopper

ในตัวอย่างที่ถูกปล่อยออกมาของซีรี่ส์ชื่อดังเรื่อง Stranger Things Season 4 เราได้เห็นการกลับมาของตัวละคร Dr. Brenner ตัวละครผู้ให้กำเนิด Eleven ในห้องแลป Hawkins Lab เราเห็น Eleven ถูกขังอยู่ในห้องห้องหนึ่ง และเราได้เห็นบ้านที่เกิดการฆาตกรรมลึกลับที่มีความเชื่อมโยงกับโลก Upside Down สิ่งเหล่านี้ที่เราได้เห็นมีการบอกใบ้ถึงเรื่องราวของการเดินทางข้ามเวลาอยู่ ซีรี่ส์เรื่อง Stranger Things สร้างความประหลาดใจให้กับโลกนี้ เมื่อเปิดตัวครั้งแรกในปี 2016 และทันใดนั้นเองก็ได้กลายมาเป็นซีรี่ส์เรื่องดัง ที่เรียกได้ว่ายิ่งใหญ่ที่สุดของ Netflix อย่างรวดเร็ว กับการผสมผสานระหว่างความเป็นไซไฟ ความสยองขวัญ และความดราม่าอย่างลงตัว อีกทั้งยังมีการอ้างอิงถึงช่วงเวลาในทศวรรษที่ 1980 ดังนั้นการมาถึงของ Stranger Things Season 4 นี้ก็ทำให้แฟน ๆ ทั่วโลกต่างรอคอย แต่เนื่องจากการระบาดใหญ่ในครั้งนี้ทำให้โปรเจกต์นี้ต้องหยุดชะงักลงอยู่ตลอด แต่ถึงอย่างนั้นแฟน ๆ ก็ยังคงตั้งตารออย่างใจจดใจจ่อ เนื่องจากใน Season 3 จบลงด้วยความตื่นเต้นและการเสียสละครั้งใหญ่ แต่แล้วความหวังก็เกิดขึ้น เมื่อทาง Netflix ได้เผยแพร่วีดีโอตัวอย่างเล็ก ๆ ในช่วงวันวาเลนไทน์ปี 2020 ที่ผ่านมา และเป็นการยืนยันว่า ตัวละคร Jim Hopper (David Harbour) ยังมีชีวิตอยู่

ใน Stranger Things Season แรก ว่าด้วยเรื่องราวของการหายตัวไปของ Will Byers (Noah Schnapp) และเรื่องราวของ Eleven’s (Millie Bobby Brown) ที่หลบหนีออกจาก Hawkins Lab นำมาซึ่งเหตุการณ์อันแปลกประหลาดและอันตรายมากมายในเมือง Hawkins, Indiana ใน Season 2 เนื้อเรื่องจะว่าด้วยเรื่องของผลลัพธ์ที่ตามมาของการกลับมาของ Will และผลกระทบเกี่ยวกับเวลาของเขาในโลก Upside Down รวมถึงการกลับมาของ Eleven ด้วย Season 3 ได้นำซีรี่ส์เรื่องนี้ไปสู่แนวทางที่แตกต่างออกไป โดยนำชาวรัสเซียมาสู่เมือง Hawkins และได้ทำการสร้างห้องทดลองใต้ดิน ที่อยู่ใต้ห้างสรรพสินค้าแห่งใหม่ Starcourt Mall ทั้งนี้ก็เพื่อพยายามที่จะเปิดประตูสู่โลก Upside Down ในตอนท้ายของ Stranger Things Season 3 เราได้เห็น Eleven, Will และครอบครัวของเขาออกจากเมือง Hawkins, Eleven ได้สูญเสียพลังของเธอ และทุกคนเชื่อกันว่า Hopper ตายแล้ว แต่ในช่วงท้ายเครดิต ก็ยังมีการบอกใบ้ว่า แท้จริงแล้วตัวละครนี้ยังไม่ได้ตายจากเราไป

รายละเอียดเกี่ยวกับ Stranger Things Season 4 ส่วนใหญ่ในขณะนี้ยังถูกปกปิดไว้ แต่ก่อนหน้านี้ทาง Netflix ได้มีการปล่อยทีเซอร์มาให้เราดูกันบ้างแล้วตั้งแต่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2020 โดยเริ่มจากในช่วงวันวาเลนไทน์ดังที่กล่าวไว้ ที่ได้มีการเปิดเผยว่า Hopper ยังไม่ตาย และถูกคุมขังอยู่ในรัสเซีย ทีเซอร์อื่น ๆ ยังมีการเผยให้เห็นถึงการกลับมาของ Dr. Brenner (Matthew Modine) และการมีอยู่ของเด็กทดลองอีกมากมาย และเราได้เห็น Eleven ถูกขังอยู่ในห้องห้องหนึ่ง อีกตัวอย่างหนึ่งเป็นตัวอย่างที่ถูกปล่อยออกมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เราจะได้เห็นกลุ่มของเด็ก ๆ กำลังเดินทางเข้าไปหาเบาะแสบางอย่างในบ้านผีสิงที่รู้จักกันในชื่อ “Creel House” อย่างไรก็ตาม มีรายละเอียดหนึ่งที่หลาย ๆ ตัวอย่างนี้มีเหมือนกัน และเป็นการบอกใบ้อย่างมีความน่าสงสัยเกี่ยวกับนาฬิกา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กับนาฬิกาเจ้าคุณปู่ที่เราได้เห็นในวีดีโอประกาศการเปิดตัว Season 4 อย่างเป็นทางการ อีกตัวอย่างหนึ่ง คือในตัวอย่างของ “Creel House” และวันนี้เราจะพาแฟน ๆ ของ Stranger Things ไปดูถึงความเป็นไปได้ใน Stranger Things Season 4 เกี่ยวกับการเดินทางข้ามเวลา ซึ่งเป็นสิ่งที่แปลกใหม่และค่อนข้างจะเข้ากับเนื้อเรื่องใน Stranger Things Season 4 นี้เป็นอย่างมาก

การโปรโมทของ Stranger Things Season 4 ทั้งหมดบอกใบ้ถึงการเดินทางข้ามเวลา

Stranger Things Season 4 Announce

การโปรโมทซีรี่เรื่อง Stranger Things Season 4 เริ่มต้นขึ้นในช่วงเดือนกันยายน 2019 โดย เป็นการประกาศว่า จะทำซีซั่นต่อคือใน Season 4 นี้ ซึ่งทาง Netflix เองได้มีการปล่อยทีเซอร์สั้น ๆ มีโลโก้ของซีรี่ส์ปรากฏขึ้น พร้อมกับเลข 4 ตัวใหญ่ และภาพก็ตัดให้เราได้เห็นโลก Upside Down และโลโก้ทั้งหมดก็ถูกเถาวัลย์พันอย่างช้า ๆ หากลองสังเกต เราจะได้ยินเสียงนาฬิกา ซึ่งตั้งอยู่บริเวณบนต้นไม้ทางด้านซ้ายของหน้าจอ ทีเซอร์แรกนี้จบลงด้วยคำอธิบายที่ว่า “we’re not in Hawkins anymore” หรือ “เราไม่ได้อยู่ใน Hawkins อีกต่อไปแล้ว” โดยในทีเซอร์นี้อาจชี้ให้เราเห็นว่า เนื้อเรื่องใน Stranger Things Season 4 จะพาเราไปในโลก Upside Down ที่อยู่ในรัสเซีย หรืออาจเป็นที่อื่นก็เป็นได้เช่นกัน

การที่เราได้เห็นนาฬิกาในโลก Upside Down ที่ได้ปรากฏในทีเซอร์แรกของ Stranger Things Season 4 นี้ทำให้เกิดทฤษฎีต่างๆมากมาย หนึ่งทฤษฎีที่ว่านั้นคือ ทฤษฎีการเดินทางข้ามเวลา หากเราลองสังเกตดูใน Season 3 เคยมีการอ้างอิงถึงหนังเรื่อง Black to the Future อย่างที่เรารู้กันว่าเรื่องราวใน Stranger Things Season 3 เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในปี 1985 และหนังเรื่อง Black to the Future ก็เป็นหนังที่เรียกได้ว่าฮิตอย่างมากในช่วงเวลานั้น ในซีรี่ส์ยังได้มีการแฝงเรื่องของ หนัง Black to the Future ซ่อนอยู่ข้างใน ไม่ว่าจะเป็น ฉากในโรงหนังท้องถิ่นของเมือง Hawkins ที่ Steve กับ Robin ทำงานอยู่ มีตารางการฉายหนังเรื่องนี้อยู่ รวมไปถึงฉากการต่อสู้สุดท้ายในซีรี่ส์อีกด้วย

คำใบ้เกี่ยวกับการเดินทางข้ามเวลาใน Stranger Things Season 4 ยังไม่หมดแค่นั้น ในทีเซอร์ที่สองของ Stranger Things Season 4 ได้นำผู้ชมกลับไปที่เมือง Hawkins ใน Hawkins Lab เราได้เห็นนาฬิกาบอกเวลา 3:00 น. และเราได้ยินเสียงของนาฬิกาดังตลอดกว่าครึ่งหนึ่งของทีเซอร์นี้ เรายังได้เห็นตัวละคร Dr. Brenner ในห้องแลป และเด็กทดลองอื่น ๆ รวมไปถึง Eleven ที่ถูกขังอยู่ในห้องของเธอ นี่คือเหตุการณ์ที่ควรจะเกิดขึ้นเมื่อหลายปีก่อน จากนั้น เราก็ได้ดูทีเซอร์ Creel House ซึ่งมีคำใบ้เกี่ยวกับการเดินทางข้ามเวลาอยู่ในทีเซอร์นี้มากเลยทีเดียว เราได้เห็นการย้อนกลับไปในปี 1950 เพื่อแสดงถึงเหตุการณ์ลึกลับที่เกิดขึ้นที่นั่น และตัดกลับมาในช่วงปี 1980 กับกลุ่มเด็ก ๆ ซึ่งเป็นตัวละครหลัก และอีกครั้งที่เราได้เห็นนาฬิกาปรากฏขึ้น และยังคงบอกเวลา 3:00 น. ในตอนท้ายของทีเซอร์นี้ ผู้ชมจะได้เห็นฉากห้องใต้หลังคาซึ่งมีนาฬิกาเจ้าคุณปู่ตั้งอยู่ ก่อนที่ฉากทั้งหมดจะเปลี่ยนเป็นโลก Upside Down และเมื่อเข้าใกล้นาฬิกามากขึ้น กระจกข้างหน้านาฬิกาก็ได้แตกออก บ่งบอกถึงช่วงเวลาที่อาจจะแตกหัก เรื่องทั้งหมดนี้กำลังบ่งชี้ว่าใน Stranger Things Season 4 จะว่าด้วยเรื่องของการเดินทางข้ามเวลา และนาฬิกาที่ Creel House นี่เอง อาจเป็นกุญแจสำคัญ กับการเชื่อมโยงโลก Upside Down ในตอนนี้ก็เป็นได้

แหล่งอ้างอิงจากหนังเดินทางข้ามเวลาที่ใช้ใน Stranger Things

Arnold Schwarzenegger in The Terminator reference in Stranger Things Season 4

หนังเรื่อง Black to the Future ไม่ใช่แหล่งอ้างอิงเดียว ที่ว่าด้วยเรื่องของการเดินทางข้ามเวลาที่ทางทีมงานใช้ใน Stranger Things ยังมีแหล่งอ้างอิงอื่น ๆ ที่เป็นหนังในยุค Pop Culture และโด่งดังในช่วงยุค 80 ใช้อ้างอิงในซีรี่ส์เรื่อง Stranger Things อีกมาก ตัวอย่างเช่น หนังเรื่อง Terminator ซึ่งใช้อ้างอิงใน Season 3 มากพอสมควร ที่ชัดเจนที่สุดคงจะเป็นตัวละคร Grigori (Andrey Ivchenko) กับการล้อเลียนถึงตัวละครนักเดินทางข้ามเวลาของ Arnold Schwarzenegger อีกเบาะแสหนึ่งก็คือ ผู้เขียนบทของ Stranger Things มักจะมีการพูดคุยกับแฟน ๆ บน Twitter ย้อนกลับไปในช่วงเดือนพฤษภาคม 2020 ได้มีการแชร์รูปภาพของหนังหลายต่อหลายเรื่องที่เหล่าทีมนักเขียนใช้เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างซีรี่ส์ Stranger Things นี้ขึ้นมา จะสังเกตได้ว่า หนังที่ใช้อ้างอิงไม่ใช่หนังจะยุคช่วง 1980 ทั้งหมด บางเรื่องมีความสมัยใหม่กว่านั้นเสียด้วยซ้ำ ตัวอย่างหนังที่เราได้เห็นเช่น Bill and Ted’s Bogus Journey หนังเดินทางข้ามเวลาสุดโด่งดังในปี 1991 ที่มีความตลกอยู่มากเลยทีเดียว หรือหนังเรื่อง 12 Monkeys ซึ่งว่าด้วยเรื่องของการส่งคนกลับไปในอดีตเพื่อจัดการกับไวรัสที่กวาดล้างมนุษยชาติไปเกือบทั้งหมด และช่วยให้นักวิทยาศาสตร์พัฒนาวิธีรักษา หรือแม้แต่หนังเรื่อง Terminator 2: Judgment Day และ Terminator: Dark Fate ก็ถูกนำมาอ้างอิงด้วยเช่นกัน ดังนั้นหากจะกล่าวว่า การจะนำเรื่องของการเดินทางข้ามเวลามาใช้เป็นคอนเซปต์ใน Season 4 นี้ ก็เป็นอะไรที่เข้ากับโทนหรือสไตล์ของซีรี่ส์ทั้งหมดได้อย่างเป็นธรรมชาติ อีกอย่างหากใช้คอนเซปต์ของการเดินทางข้ามเวลา นั่นก็เป็นเหมือนกันให้ความเคารพหนังเดินทางข้ามเวลาที่เกิดขึ้นในช่วงปี 1980 ซึ่งหนังเหล่านั้นก็เป็นเรื่องเป็นแรงบันดาลใจ และได้กลายมาเป็นหนังที่เกิดขึ้นในปี 1990 ซีรี่ส์เรื่อง Stranger Things Season 4 นี้จะใช้เรื่องราวของหนังในหลายยุคมาเป็นแหล่งอ้างอิง ดังนั้นนี่จึงมีความเป็นไปได้มากเลยทีเดียว

ทำไม Stranger Things Season 4 ถึงว่าด้วยเรื่องของการเดินทางข้ามเวลา

Stranger Things Season 4 Clock

มีหลายประเด็นที่ใน Stranger Things Season 4 จะต้องตอบให้ได้ หลังจากเรื่องราวที่เกิดขึ้นมากมายใน Season 3 และคอนเซปต์การเดินทางข้ามเวลานี้เอง ก็จะเป็นประโยชน์กับการตอบคำถามหลาย ๆ อย่าง ยกตัวอย่างเช่น คำถามที่ว่า Hopper รอดชีวิตจากการระเบิดได้อย่างไร และเหตุใดเขาถึงจะไปอยู่ในคุกที่รัสเซีย แฟน ๆ ได้ตั้งทฤษฎีว่า Hopper อาจจะกระโดดเข้าไป (หรือถูกดึงเข้าไป) ในประตูมิติ แล้วไปโผล่ยังห้องทดลองที่รัสเซีย ประตูมิติที่ว่านั้นทำหน้าที่เป็นอุโมงค์เดินทางข้ามเวลา ทำให้เขาไปอยู่ในโลกที่เป็นอดีต หรืออาจเป็นอนาคตที่รัสเซียก็เป็นได้ อีกทฤษฎีที่ยิ่งใหญ่ทฤษฎีหนึ่งบอกไว้ว่า แท้จริงแล้วโลก Upside Down คือเมือง Hawkins ในอนาคต (โลกหลังวันสิ้นโลก) ซึ่งหากทฤษฎีนี้เป็นจริงนั่นหมายความว่า ตัวละครทั้งหมดได้เดินทางข้ามเวลาไปแล้วตั้งแต่ในซีซั่นแรก

ในทีเซอร์ที่ 2 ที่พาเราเข้าไปใน Hawkins Lab อาจจะเป็นการเปิดเผยเนื้อเรื่องเกี่ยวกับการเดินทางข้ามเวลา ที่ใช้เป็นคอนเซปต์หลักใน Stranger Things Season 4 ไว้แล้วก็เป็นได้ อย่างที่เราได้เห็นในทีเซอร์แรกนี้ เราได้เห็นตัวละคร Dr. Brenner เดินเข้าไปใน Hawkins Lab และเข้าไปหาเด็กทดลองคนอื่น ในขณะที่ Eleven ถูกขังในห้องขังเดี่ยวของเธอ เหตุการณ์นี้เป็นเหตุการณ์ที่ควรจะเกิดขึ้นเมื่อหลายปีก่อน ได้มีทฤษฎีนึงบอกไว้ว่า ไม่แน่ในเหตุการณ์นั้น Eleven อาจจะเดินทางย้อนเวลากลับไป อาจจะด้วยเหตุผลว่าเธออาจจะอยากได้พลังของเธอกลับคืน หรืออาจจะไขปริศนาในอดีตของตัวเธอเอง หรือโดยไม่ได้ตั้งใจก็ตามแต่ สุดท้าย มีความเชื่อมโยงระหว่าง Creel House นาฬิกา และโลก Upside Down อยู่ ซึ่งทั้งหมดอาจบ่งชี้ไปถึงการเดินทางข้ามเวลา ในหลาย ๆ ตัวอย่างชี้เราได้เห็นช่วงเวลา 3:00 น. ที่ปรากฏบนหน้าปัดนาฬิกา มันจะต้องมีความเกี่ยวข้องกับอะไรบางอย่างอย่างแน่นอน กระจกของนาฬิกาเจ้าคุณปู่ที่ได้มีการแตกหักอาจจะเป็นเบาะแสสำคัญบางอย่าง ประตูมิติที่ถูกเปิดขึ้นโดย Dr. Brenner และชาวรัสเซียก็ต้องมีความเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้แม่ ทั้งหมดที่กล่าวมานี้มีความเกี่ยวข้องกับโลก Upside Down อย่างแน่นอน แม้ว่าคอนเซปต์ของการเดินทางข้ามเวลานั้นจะถูกนำมาใช้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าในหนังหรือซีรี่ส์ต่าง ๆ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ (อันที่จริงต้องบอกว่า คอนเซปต์นี้ถูกนำมาใช้ตลอดการเล่าเรื่องเลยจะถูกกว่า) แต่ดูเหมือนว่า ไม่ว่ายังไงคอนเซปต์ที่ว่านี้ก็ดูเข้ากันกับเรื่องราวของ Stranger Things Season 4 นี้เป็นอย่างมาก ดังนั้นหากจะใช้เรื่องราวของการเดินทางข้ามเวลามาเป็นเรื่องหลักใน Stranger Things Season 4 ก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไร อีกไม่นานเราจะได้ดูกันใน Netflix ถึงจะยังไม่มีกำหนดวันเข้าฉายอย่างเป็นทางการ แต่เราก็จะได้ดูกันในปี 2022 หรือในอีกไม่ช้านี้อย่างแน่นอน