Jason Kilar, CEO ของ WarnerMedia เปิดเผยว่า เขายังคงมั่นใจกับกลยุทธ์การฉายหนังในสตรีมมิงพร้อมกับในโรงหนัง และกำลังเตรียมการสำหรับฉายหนังเรื่องอื่น ๆ ต่อไป

Gal Gadot in HBO Wonder Woman 1984

Jason Kilar, CEO ของ WarnerMedia เปิดเผยว่า เขายังคงมั่นใจและดำเนินการตามแผนการสำหรับกลยุทธการเปิดตัวหนังพร้อมกันทั้งในโรงหนังและใน HBO Max ทางสตูดิโอได้ปรับตารางการฉายหนังเรื่องต่าง ๆ เพื่อฉายหนังท่ามกลางความไม่แน่นอนกับวิกฤตการณ์ระบาดใหญ่ในครั้งนี้ และกลยุทธ์ที่ว่านี้พวกเขาก็ประกาศว่าจะใช้สำหรับหนังตลอดทั้งปี 2021 และรวมถึงหนังที่จะเข้าฉายในปี 2022 ด้วย

ทาง WarnerMedia ได้ใช้แผนการที่ชื่อว่า HBO Max day-and-date ซึ่งเป็นการฉายหนังพร้อมกันทั้งในสตรีมมิงและในโรงหนัง ถึงแม้ว่าจะอยู่ในช่วงที่โรงหนังปิด แต่หนังที่ยังคงอยู่ในตารางฉาย พวกเขาก็เลือกที่จะใช้วิธีฉายหนังในบริการสตรีมมิง HBO Max ทันที กลยุทธ์นี้เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เดือนธันวาคม 2020 และเนื่องจากการปิดตัวของโรงหนังตลอดหลายเดือนเนื่องจากวิกฤตการระบาดใหญ่ ทำให้กลยุทธ์นี้ยังคงใช้อยู่จนถึงปัจจุบันนี้ ก่อนหน้านี้ไม่ว่าจะเป็นหนังเรื่อง Wonder Woman 1984 ของผู้กำกับ Patty Jenkins ก็ได้ทำการเปิดตัวหนังในสตรีมมิง HBO Max พร้อมกับในโรง หลังจากประสบความสำเร็จด้วยการที่มีผู้เข้าสตรีมมิงมากกว่า 41 ล้านคนหลังจากการเปิดตัว นั่นทำให้ Warner Bros. ได้เปิดตัวหนังบล็อกบัสเตอร์หลายต่อหลายเรื่องโดยใช้กลยุทธ์แบบเดียวกัน เช่น Godzilla VS Kong, Mortal Kombat รวมไปถึง The Suicide Squad อีกทั้งหนังเรื่องที่มีกำหนดจะเข้าฉายต่อไป เช่น Dune และ The Matrix Resurrections ก็จะใช้กลยุทธ์นี้ด้วยเช่นกัน แม้ว่าการที่จะนำหนังของสตูดิโอ Warner Bros. มาฉายลงบนสตรีมมิง HBO Max พร้อมกับในโรงหนังจะเป็นกลยุทธ์ที่ทาง CEO ของ WarnerMedia คิดว่ามันเหมาะสมแล้ว แต่กลยุทธ์ดังกล่าวก็ได้กลายมาเป็นประเด็นร้อนแรงในหมู่ผู้ที่อยู่ในอุตสาหกรรมหนัง

จากข้อมูลของ THR, Jason Kilar CEO คนปัจจุบันของ WarnerMedia ได้พูดคุยกับ Code Conference ของ Vox Media เกี่ยวกับสถานะปัจจุบันโดยรวมของกลยุทธ์ที่ว่านี้ Jason Kilar ยอมรับว่า สตูดิโอเร่งรีบเกินไปที่จะใช้กลยุทธ์นี้กับหนังที่เพิ่งเปิดตัวใหม่ และหลายคนก็กำลังถกเถียงกันว่ากลยุทธ์นี้ถูกต้องหรือไม่ เขาได้ให้ความคิดเห็นไว้ว่า เขาหวังว่าทางสตูดิโอจะได้สื่อสารกับผู้ชมภาพยนตร์ได้จริง ๆ และเขาเชื่อจริง ๆ ว่ากลยุทธ์นี้สามารถทำให้เขาสื่อสารกับผู้ชมของเขาได้จริง ๆ อย่างไรก็ตามพวกเขารู้สึกว่ากลยุทธนี้ใช้ได้ผล โดยกล่าวว่าในขณะนี้บริษัทอยู่ในตำแหน่งที่ดีเนื่องจากกลยุทธ์นี้ ดูคำพูดของ Jason ได้ด้านล่างนี้

“ผมจะเป็นคนแรกที่พูด ความรับผิดชอบทั้งหมดอยู่บนไหล่ของผม เราพยายามทำมันอย่างเต็มที่ในช่วงเวลาที่เร่งรีบน้อยกว่า 1 สัปดาห์ ทุกคนต่างตั้งคำถามกับการกระทำของเรา ว่าการที่เราทำเช่นนี้ถูกหรือไม่ เราบอกได้เลยว่า เราเริ่มต้นจากการปฏิบัติต่อหนังทุกเรื่องเหมือนกับหนังบล็อกบัสเตอร์ จากมุมมองทางเศรษฐกิจ มันเป็นกลยุทธ์ที่ยุติธรรมดี เราจะทำสิ่งที่ถูกต้อง ข่าวดีคือเราทำได้แล้ว และเราก็พยายามทำอย่างเต็มที่ และในตอนนี้เราอยู่ในสถานการณ์ที่ดีมาก”

Rebecca Ferguson and Timothée Chalamet in HBO Dune

กลยุทธ์นี้ของทาง WarnerMedia ได้รับคำวิพากษ์วิจารณ์จากผู้สร้างหนังหลายคนแล้ว ทั้งนี้รวมถึงผู้กำกับ Patty Jenkins ที่รู้สึกว่าวิธีการนี้ส่งผลเสียต่อหนังและผู้สร้างหนัง และทำให้เธอรู้สึกเหมือนโดนหักอก นอกจากนี้ยังมีผู้สร้างหนังคนอื่นแสดงความคิดเห็นไม่พอใจเกี่ยวกับกลยุทธ์นี้เช่น Denis Villeneuve รวมถึง Christopher Nolan โดยผู้สร้างหนังแต่ละคนรู้สึกว่า กลยุทธ์ดังกล่าวนี้ไม่สามารถที่จะทำให้หนังถ่ายทอดจิตวิญญาณของตนเองออกมาได้สูงสุดอย่างแท้จริง และทำให้ประสบการณ์การดูหนังในโรงหนังลดลงในที่สุด ทาง Warner Bros. จำเป็นที่จะต้องชดเชยให้ผู้ที่ไม่พอใจกับการเปลี่ยนแปลงในกลยุทธ์ครั้งนี้ โดยชดเชยเป็นเงินหลายล้านเพื่อบรรเทาความทุกข์และความเดือดร้อนให้กับผู้สร้างหนังเหล่านี้

กลยุทธ์ HBO Max day-and-date นี้ตลอดจนหลายกลยุทธ์ที่มีความคล้ายคลึงกัน เช่นระบบ Premier Access ของ Disney+ แท้จริงแล้วถูกวางไว้ให้เป็นจุดเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมหนังในอนาคต โดยทั้ง WarnerMedia และ Walt Disney Company ในที่สุดก็มีการปรับปรุงกลยุทธ์ดังกล่าว โดยจะทำการเปิดตัวหนังในบริการสตรีมมิงเป็นเวลา 45 วันหลังจากที่หนังฉายในโรงหนัง ถึงแม้จะมีข้อเรียกร้องจากผู้สร้างหนังหลายคนให้เลิกกลยุทธ์นี้ก็ตาม นอกจากนี้ทางสตูดิโอต่าง ๆ ยังคงนำตัวเลขในบริการสตรีมมิงมาเปรียบเทียบเพื่อตัดสินความสำเร็จของหนังแต่ละเรื่อง อย่างที่เห็นได้ชัดเจนคือหนังเรื่อง Dune ที่กำลังจะเข้าฉาย ทางสตูดิโอต้องการเปรียบเทียบประสิทธิภาพของหนังเรื่องนี้จากตัวเลขการสตรีมมิงใน HBO Max เพื่อที่จะได้ตัดสินใจว่าหนังเรื่องนี้จะได้ไปต่อในภาคสองหรือไม่ ถึงจะยังเป็นข้อถกเถียงว่าการฉายหนังในเฉพาะโรงหนังนั้นได้ตายลงไปแล้วหรือไม่ แต่ก็ยังมีข้อพิสูจน์ให้เห็นว่า มันไม่เป็นเช่นนั้น ตัวอย่างที่เห็นอย่างชัดเจนคือหนังเรื่อง Shang-Chi and the Legend of the Ten Rings ที่แม้จะยังไม่เข้าฉายในบริการสตรีมมิง แต่ตัวเลขใน Box Office ค่อนข้างออกมาดี ดังนั้นหลายต่อหลายสตูดิโอต้องทบทวนกลยุทธ์นี้ใหม่หรือไม่ นี่คือสิ่งที่เราจะต้องติดตามกันต่อไป