ต้องบอกว่าซีรี่ส์หรือหนังแนวหนึ่งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก คือแนวที่จับคนมาเล่นเกมบางอย่าง โดยจุดประสงค์บางอย่าง กับเหตุผลบางอย่าง ผมพึ่งดูจบไปหมาด ๆ เลยครับ กับซีรี่ส์ที่ฉายทาง Netflix เรื่องที่โปรโมทมานานแสนนาน แล้วดูเหมือนซีรี่ส์แนวนี้จะเป็นแนวที่ผมชอบและพลาดไม่ได้เสียทุกครั้งไป มาครั้งนี้กับซีรี่ส์เกาหลีเรื่อง Squid Game ที่ตัวอย่างออกมาน่าดูเลยทีเดียว สีสันสดใสแปลกใหม่ตามสไตล์เกาหลี บวกกับเป็นซีรี่ส์ที่ฉายทาง Netflix ด้วย นั่นทำให้ผมอยากดูซีรี่ส์เรื่องนี้มากครับ วันนี้จะมารีวิวซีรี่ส์เรื่องนี้ให้ ทกคนได้ดูกัน พร้อมประกอบการตัดสินใจ ว่าคุณควรจะดูซีรี่ส์เรื่องนี้หรือไม่ แต่ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่า นี่เป็นเหตุผลส่วนตัวของผมนะครับ

Jung-jae Lee in game in Squid Game

Squid Game เป็นซีรี่ส์แอ็กชัน-ดรามาแนวเอาตัวรอด เป็นการจับคนกว่า 456 คนมาเล่นเกมการละเล่นแบบเด็ก ๆ ของเกาหลี เพื่อเงินรางวัลถึง 40 กว่าล้านวอน โดยผู้ที่ถูกคัดออกจะต้องได้รับจุดจบคือความตาย เนื่องจากผู้เข้าแข่งขันแต่ละคน เรียกได้ว่าหลังชนฝา ต่างเป็นหนี้ท่วมหัว ดังนั้นจึงจำใจเล่นเกมนี้ ตัวเอกของเราคือ Seong Gi-Hun (รับบทโดย Lee Jung-jae) หนุ่มวัยกลางคนที่ติดการพนัน นั่นทำให้ชีวิตครอบครัวของเขาต้องจบลง เมื่อผู้เป็นภรรยาและลูกสาวไปมีครอบครัวใหม่ ทำให้เขาต้องอยู่กับแม่ตามลำพังสองคน นอกจากนั้นยังมีอีกหลายต่อหลายตัวละครในซีรี่ส์เรื่องนี้

Hae-soo Park in Squid Game

อย่างที่บอกไปครับ ซีรี่ส์หรือหนังแนวจับคนมาเล่นเกมอะไรสักอย่าง เป็นซีรี่ส์ที่ผมชอบ และดูเหมือนว่าในช่วง 10 กว่าปีมานี้เราก็ได้เห็นซีรี่ส์หรือหนังแนวนี้กันเยอะ และของหลาย ๆ ชาติด้วยซ้ำไป ต้องบอกว่าซีรี่ส์หรือหนังของเกาหลีเรื่อง Squid Game นี้เป็นเรื่องแรกเลยที่ผมได้ดูเขาทำแนวนี้ ด้วยการโปรโมทและสีสันอันชุดชั้นในซีรี่ส์เรื่องนี้ บวกกับไอเดียที่ผมว่าค่อนข้างดีนะ ทำให้ผมพลาดไม่ได้ ต้องหามาดูอย่างไว แล้ววันนี้ผมได้ดูแล้วครับ บอกเลยว่า…บอกไม่ถูกเหมือนกัน

Game 2 in Squid Game

อย่างแรกคือเรื่องของการดำเนินเนื้อเรื่อง โดยปกติแล้ว ซีรี่ส์หรือหนังแนวนี้ จะมีการดำเนินเรื่องเป็นเส้นตรง และให้ผู้ชมได้จดจ่ออยู่กับเกมโดยเฉพาะ แทบจะทุกเรื่องทำแบบนั้น และถูกพิสูจน์มาแล้วว่ามันเวิร์ค แต่ซีรี่ส์เรื่อง Squid Game นี้ต่างออกไป โอเคครับว่าเขาอยากจะแตกต่าง งั้นเรามาลองดูกัน ผมยังไม่ตัดสิน มันเหนื่อยเสียเหลือเกิน อย่างช่วงแรก การแนะนำตัวละครหลัก ผมว่าค่อนข้างเหนื่อยและช้าเลยทีเดียว ถ้าจะให้บอกผมว่าคล้ายกับเรื่อง Alice in Borderland ที่ในตอนแรกนั้นค่อนข้างเป็นไปอย่างช้า ๆ ต้องใช้พลังอย่างมากในการดู เพราะเขาอารัมภบทเยอะไปหน่อย แต่จากที่ได้ดูใน Alice in Borderland มันก็ช้าแค่ตอนแรก ที่เหลือเขาก็ดำเนินเรื่องไปแบบที่มันควรจะเป็น แต่ Squid Game ไม่ใช่แบบนั้น มาช้าตอนแรกไม่เป็นไร แต่มันช้าไปเสียทั้งเรื่อง จะว่าแย่ก็ไม่ใช่ แต่มันไม่ใช่ซีรี่ส์ที่สามารถดูได้ยาว ๆ ในทีเดียว เหมือนกับซีรี่ส์เรื่องอื่น ๆ ใน Netflix จำเป็นที่จะต้องหยุดพักหรือเก็บไว้ดูหลาย ๆ รอบ หรือมันอาจเป็นรสใหม่สำหรับผมก็ได้

Hoyeon Jung in Squid Game

ด้านอารมณ์ อันนี้แปลกใหม่สำหรับผมจริง ๆ ปกติผมดูซีรี่ส์แนวนี้ ส่วนใหญ่จะให้อารมณ์ระทึกตื่นเต้น ปกติที่มันต้องมีเรื่องความอึดอัดเข้ามาปน Squid Game อึดอัดจริงครับ ดูแล้วเครียดเลย ผมว่าประเด็นข้างในไม่ใช่เบา ๆ เลย ต่างจากเรื่องอื่น ๆ โดยสิ้นเชิง แต่ก็ไม่ได้แย่นะ แค่มันใหม่ (สำหรับผม) การฆ่าตัวละครทิ้งเป็นเรื่องปกติ ยิ่งโดยเฉพาะในซีรี่ส์แนวนี้ แต่ผมเชื่อว่า การฆ่าแต่ละตัวละครทุกครั้งจะต้องมีเหตุผล หรือเรียกได้ว่าคุ้มค่าที่จะฆ่าตัวละครไหนทิ้ง แต่ซีรี่ส์เรื่อง Squid Game นี้ผมกลับไม่รู้สึกแบบนั้น อยากฆ่าก็ฆ่า โดยที่ไม่รู้สึกเสียดายกันเลย อีกความรู้สึกที่แว๊บออกมา ก็เหมือนกับซีรี่ส์หลาย ๆ เรื่อง คือเราอยากจะรู้ตอนจบ ซีรี่ส์หลาย ๆ เรื่องผมลุ้นกับทุก ๆ ตอน และอยากจะให้มันค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไปและจบลงในที่สุด แต่เรื่อง Squid Game นี้แตกต่างออกไป ผมอยากรู้ตอนจบ แต่สามารถข้ามไปดูตอนท้ายได้เลย ไม่ใช่ไม่ลุ้นกับเขา แต่รู้สึกว่าข้ามได้ อย่างว่าครับ มันเป็นรสที่ใหม่สำหรับผมมากเลยทีเดียว หรืออาจจะเป็นมวลความอึดอัดทั้งหมดที่อยู่ใน Squid Game นี้ก็ได้ที่ทำให้เป็นแบบนั้น

Jung-jae Lee in Squid Game

(No Spoil) มาถึงตอนจบนี่หนักหน่อย เมื่อปมทุกอย่างถูกเฉลยออกมา คุณจะรู้สึกว่า คุณจะเอาแบบนี้จริง ๆ เหรอ คือการเคลียร์แบบไม่เคลียร์แบบนี้ผมว่ามันไม่เวิร์คมาก ๆ มันไม่ใช่การจบแบบ cliff-hanging เพื่อให้เราตั้งคำถามต่อ แต่มันเป็นการจบแบบอะไรก็ได้มากกว่า ผมว่าเหตุผลมันดูตื้นเขินเกินไป เสียดายเรื่องราวทั้งหมดที่อุตส่าห์ปูมายืดยาว กลับมาจบแบบนี้ ใครสายสมเหตุสมผลต้องมีหงุดหงิดบ้างล่ะ แต่ใครจะเอาสะใจตายเกลื่อนก็อีกเรื่อง 

ทั้งหมดนี้ล้วนแล้วแต่เป็นความเห็นส่วนตัวของผมเพียงผู้เดียว ก็แล้วแต่คนจะชอบไม่ชอบนะครับ ช่วงหลายปีมานี้ซีรี่ส์แนวนี้ค่อนข้างเยอะ นี่ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ให้ทุกคนได้ดูกัน หากใครชอบแนวนี้อยากให้ลองหามาดูกันนะครับ กับ Squid Game แล้วชอบไม่ชอบ คุณเป็นคนตัดสินใจเอง วันนี้ฉายแล้วที่ Netflix