รอคอยมานานแสนนานกับซีรี่ส์ยอดนิยมทาง Netflix เรื่อง Sex Education ซีซั่น 3 ซีรี่ส์เรื่องหนึ่งที่ผมมองว่าอยากให้คนทุกเพศทุกวัยได้ดูจริง ๆ มาในซีซั่นนี้เรื่องราวยังคงเข้มข้น หลังจากในซีซั่น 2 ที่ได้ทิ้งปมไว้เยอะพอสมควร ในซีซั่นนี้เราได้เห็นอะไรบ้าง อยากชวนทุกคนมาดูกันครับ

Sex Education ซีซั่น 3 ว่าด้วยเรื่องของหลาย ๆ ตัวละคร มันได้ถูกพัฒนาไปจากซีซั่นก่อนอยู่มาก เนื่องจากเรื่องราวหลักนั้นกลายเป็นเรื่องของตัวละครทุกตัวละครไปเสียแล้ว แต่หากจะให้กล่าวถึงเรื่องราวที่โดดเด่น น่าจะเป็นเรื่องของการครูใหญ่คนเก่าอย่าง Michael Groff (Alistair Petrie) ถูกไล่ออก นั่นทำให้เกิดการมาถึงของครูใหญ่คนใหม่อย่าง Hope Haddon (Jemima Kirke) ผู้ที่ต้องการจากปฏิวัติโรงเรียน Moordale นี้ในแบบที่เธอต้องการ นั่นทำให้เด็กนักเรียนในโรงเรียนนี้เกิดการปฏิวัติขึ้น บวกกับเรื่องราวที่แสนวุ่นวายของหลาย ๆ ตัวละคร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ Otis กับ Maeve เรื่องของ Eric กับ Adam และอีกหลาย ๆ คู่มากมาย

ซีรี่ส์เรื่อง Sex Education นี้เป็นซีรี่ส์ที่ผมรักมากเรื่องหนึ่งเลย นอกเหนือไปจากจุดประสงค์ของซีรี่ส์ที่เป็นการสอนเกี่ยวกับ Sex Education จริง ๆ ยังมีเรื่องราวที่เข้มข้นน่าติดตาม และน่ารักไปพร้อม ๆ กัน ในส่วนของเรื่องราวอย่างที่ผมบอก มันไม่ได้มีเพียงหนึ่งเรื่องแต่มันเป็นเรื่องของหลาย ๆ ตัวละคร ที่แยกออกไปเป็นเรื่องราวของตัวเองได้มากมาย ไม่เหมือนกับในซีซั่นที่แล้วที่เป็นเรื่องของ Otis และ Maeve กับการแอบเปิดคลินิกให้คำปรึกษาเรื่องเพศ ในซีซั่นนี้อย่างที่เรารู้ว่าคลินิกถูกยุบ นั่นทำให้เรื่องราวต่าง ๆ เกี่ยวข้องกับหลาย ๆ ตัวละคร และแต่ละตัวละครก็มีเรื่องราวเป็นของตัวเองอย่างชัดเจน

ที่น่าสนใจก็คือ ใน Sex Education ซีซั่น 3 นี้ มีเรื่องราวของแต่ละคน และแต่ละคู่ ให้เราได้คอยลุ้นคอยจิ้นกันมากมาย ใครอยากจิ้นใครคู่ไหนเลือกเอาเลย และแต่ละคนในซีรี่ส์ก็เป็นตัวแทนของคนแต่ละแบบในสังคมนี้ เพื่อให้เราได้เข้าใจคนเหล่านั้นมากขึ้น จริงอยู่ว่าอาจจะไม่สามารถเป็นตัวแทนของคนใดคนหนึ่งได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่อย่างน้อยสิ่งที่ซีรี่ส์เรื่องนี้นำเสนอ คือแนวทางการแก้ไขปัญหา และการทำให้เราหลายคนที่มีความแตกต่างกันในหลาย ๆ ด้านสามารถเข้าใจกันได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวของชายจริงหญิงแท้ หรือ LGBTQIA+ ต่าง ๆ และไม่ใช่แค่วัยรุ่นด้วย ยังรวมไปถึงวัยผู้ใหญ่ หรือการทำความเข้าใจในชีวิตคู่ อย่างเช่นตัวละคร Jean และ Jakob นี่เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้ Sex Education เหมาะมากกับการให้คนทุกเพศทุกวัยได้ดู

สิ่งที่น่าสนใจของ Sex Education คือการทลายกรอบมาตรฐานสังคมปัจจุบัน เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผมอยากให้ผู้ใหญ่หลาย ๆ คนในบ้านเรามีโอกาสได้ดูเลยครับ นอกจากความรักของกลุ่มชายหญิงแล้ว Sex Education ยังเสนอมุมมองความรัก ในกลุ่ม LGBTQIA+ และนอกเหนือไปกว่านั้น ไม่ใช่เพียงความรักแบบเกย์หรือเลสเบี้ยน (ซึ่งเป็นมาตรฐานสังคม โดยเฉพาะสังคมไทยปัจจุบัน) แต่มันกว้างไปกว่านั้นมาก ๆ มันยังรวมไปถึงกลุ่มอื่น ๆ ข้อความที่ชัดเจนที่ผมได้เห็นจาก Sex Education คือเขาต้องการบอกเราว่า “ไม่ว่าคนคนนั้นจะเป็นใคร เพศอะไร อายุเท่าไหร่ คุณสามารถรักกันได้ และคุณสามารถมีความรักที่ดีได้” เพราะกรอบมุมมองเรื่องเพศมันได้พังทลายลงไปแล้ว อีกอันที่ผมชอบและอยากจะขีดเส้นใต้สักร้อยรอบ คือเรื่องของ Beauty Standard นอกเหนือจากความรัก Sex Education ยังนำเสนอถึงเรื่องของ Beauty Standard หรือมาตรฐานของความสวย ความหล่อในตัวคน เห็นได้ชัดว่าในซีรี่ส์เรื่องนี้มาตรฐานนี้กว้างมาก ต้องยอมรับว่าต่างจากบ้านเราโดยสิ้นเชิง เพราะ Beauty Standard ของบ้านเราช่างแคบเสียเหลือเกิน เรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าสนใจ แล้วอยากจะให้หลายคนหันมาให้ความสำคัญกันครับ ไม่ว่าจะเป็นคนรุ่นเราหรือคนรุ่นที่โตกว่าเรา

ที่กล่าวมานี้เป็นเพียงตัวอย่างความดีงามของซีรี่ส์เรื่อง Sex Education ซีซั่น 3 สำหรับใครที่ยังรู้สึกว่า ซีรี่ส์เรื่องนี้ไม่เหมาะกับคนใดคนหนึ่งหรือคนบางกลุ่ม อยากให้ลองเปิดใจครับ อาจจะเขินไปสักนิด แต่การมานั่งดูซีรี่ส์เรื่องนี้กับครอบครัวก็เป็นอะไรที่ดีเหมือนกันนะครับ อาจจะทำให้ช่องว่างระหว่างวัยของเราแคบลงมากขึ้น และนำมาสู่การเข้าใจกันมากขึ้นก็เป็นได้ เพราะมันดีจริงๆ ใน Netflix ครับไปดูเลย ดูเลยนะ เดี๋ยวนี้เลย
