Jumper (2008) ฅนโดดกระชากมิติ ภาพยนตร์แอคชั่นไซไฟที่จะพาคุณกระโดดทะลุมิติตามตัวละครไปยังที่ต่างๆภายในพริบตา แม้หนังจะออกฉายมานานหลายปีแล้วแต่ก็สามารถทำให้คนดูสนุกไปกับเนื้อเรื่องได้ หากใครที่ชอบภาพยนตร์ว่าด้วยเรื่องหายตัวไปทุกที่คงต้องบอกว่าจะพลาดเรื่องนี้ไม่ได้

เรื่องย่อ

Jumper (2008) ฅนโดดกระชากมิติ เป็นเรื่องราวของ เดวิด ไรซ์ (รับบทโดย เฮย์เดน คริสเตนเซน) ชายหนุ่มผู้ค้นพบความสามารถพิเศษในการส่งตัวเองไปยังที่ไหนบนโลกก็ได้ตามแต่ใจนึก ด้วยเหตุนี้เขาจึงตัดสินใจจากบ้านไปตอนอายุสิบห้าและใช้ความพิเศษของตัวเองเข้าไปขโมยเงินในธนาคารจนมีความเป็นอยู่ที่สุขสบาย แปดปีต่อมาเขาได้พบกับ โรแลนด์ (รับบทโดย ซามูเอล แอล. แจ็กสัน) ผู้ที่ต้องการจะเอาชีวิตเขาตั้งแต่พบหน้า เดวิดจึงตัดสินใจหนีกลับบ้านเกิดและได้ไปหา มิลลี่ (รับบทโดย เรเชล บิลสัน) เพื่อนสมัยเรียนที่เขาแอบชอบมาตลอดโดยที่เขายังไม่รู้ว่าตัวเองไม่ได้เป็นคนเดียวที่มีความสามารถพิเศษนี้ และยังไม่ได้รู้ถึงอันตรายของพาลาดิน พวกคนที่คอยตามฆ่าเหล่าจัมพ์เปอร์มาโดยตลอด 

รีวิว

ความสนุกของภาพยนตร์เรื่องนี้โดยส่วนตัวแล้วมองว่าเป็นการดำเนินเรื่องที่คาดเดาได้ยาก เป็นความสนุกแบบที่ไม่ได้ทำให้ตื่นเต้นจนถึงขั้นสุดแต่ก็ต้องตามดูกันไปจนจบเรื่อง เส้นเรื่องส่วนใหญ่คือการตามล่าและหลบหลีกระหว่างโรแลนด์และเดวิด เรียกได้ว่าวาร์ปไปนู่นมานี่ภายในพริบตาเดียวจนคนดูตามไม่ทัน (วาร์ปกันเป็นวักเป็นเวนจริงๆ) ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องที่รวมสถานที่ต่างๆบนโลกมาไว้ในเรื่องเดียวไม่ว่าจะเป็นนิวยอร์ก ลอนดอน โตเกียว โรมและสถานที่อื่นๆอีก คนดูจะได้เห็นการตัดต่อคุณภาพ มีความสมจริงเพราะเสื้อผ้าหน้าผม (แม้กระทั่งรอยแผล) ของนักแสดงนั้นเหมือนเดิมอยู่ตลอดไม่ว่าจะวาร์ปจากไหนไปไหน ซึ่งต้องยอมรับว่าตัวหนังทำออกมาได้ดีมาก

สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งในเรื่องคือการที่ภาพยนตร์ค่อยๆเล่าถึงความสามารถและข้อจำกัดของผู้เป็นจัมพ์เปอร์ออกมาทีละนิด เป็นการตอบข้อสงสัยต่างๆนานาที่อาจเกิดขึ้นกับคนดูได้ตลอดทั้งเรื่อง นอกจากนี้ตัวหนังยังจุดประเด็นในครอบครัวเกี่ยวกับแม่ของเดวิดพาให้คนดูต้องรอติดตามจนจบเพราะเรื่องจะเฉลยในตอนท้าย (แบบงงๆนิดหน่อย) ว่าแม่ของเดวิดเป็นใคร อย่างไรก็ตามโดยส่วนตัวแล้วอยากให้หนังทำภาคต่อ เพราะใครหลายคนที่ดูเรื่องนี้คงจะอยากรู้ที่มาที่ไปของจัมพ์เปอร์และพวกพาลาดินมากขึ้น ทั้งนี้ภาพโดยรวมสำหรับ Jumper (2008) ฅนโดดกระชากมิติ เป็นหนังที่สนุกและพล็อตเรื่องมีความน่าสนใจแบบที่สามารถหยิบมาดูได้ตลอดไม่มีเบื่อ รับรองว่าถ้าได้ดูจะต้องรู้สึกอิจฉาพระเอกสุดๆที่มีความสามารถในการหายตัวไปไหนต่อไหนได้ทุกที่ทุกเวลา

(สปอยล์)

ทำความรู้จักกับจัมพ์เปอร์

จัมพ์เปอร์คือกลุ่มคนที่มีความสามารถพิเศษในการพาตัวเองและสิ่งที่เคลื่อนย้ายได้ (เช่น คน กระเป๋าเงิน รถคันเล็กคันใหญ่ เป็นต้น) ไปที่ไหนก็ได้ตามที่นึกไว้ในใจ แต่จะนึกไว้ในใจได้ก็ต้องเคยไปสถานที่นั้นหรือว่าต้องเคยเห็น (เช่น เห็นจากรูปถ่าย หนังสือ โทรทัศน์ เป็นต้น) มาก่อน ตอนต้นของเรื่องหลังจากที่เดวิดออกจากบ้านมาใช้ชีวิตคนเดียวเขาก็ได้ทำทีไปเข้าห้องน้ำในธนาคารและในคืนเดียวกันเงินในนั้นได้หายไป ตัวหนังถ่ายทอดความคิดของพระเอกที่ว่าแค่ขอยืมแล้วจะเอามาคืนทีหลัง แต่ดูจนจบก็ไม่เห็นฉากคืนเงินสักฉาก (คงเพราะมัวแต่หลบหนีต่อสู้กับพาลาดินอยู่)

เดวิดได้พบกับโรแลนด์หลังจากออกจากบ้านมาแปดปี นักล่าจัมพ์เปอร์คนนี้ทำให้เดวิดรู้ข้อจำกัดของตัวเองว่าเขาจะไม่สามารถวาร์ปไปไหนได้ง่ายๆเมื่อถูกช็อต ตัวโดนกระแสไฟฟ้าหรือถูกมัดยึดติดไว้กับพื้น ต่อมาเมื่อเขาได้พบกับเพื่อนจัมพ์เปอร์อีกคนหนึ่งเขาจึงได้รู้ข้อจำกัดอีกข้อว่าจัมพ์เปอร์ไม่สามารถพาสถานที่ (เช่น ตึก) วาร์ปไปไหนด้วยได้ ซึ่งหนังได้ทำให้คนดูอึ้งในตอนหลังเมื่อพระเอกสามารถวาร์ปตัวเองพร้อมกับห้องทั้งห้องของนางเอกไปจมอยู่ในน้ำและยังวาร์ปต่อมากลางห้องสมุด ตัวหนังแสดงให้เห็นว่าพระเอกพยายามปกป้องนางเอก เนื่องด้วยโรแลนด์นั้นพร้อมที่จะทำร้ายคนรอบกายของพระเอกอยู่ตลอด (และคิดที่จะฆ่าพระเอกท่าเดียวด้วย)

ทำความรู้จักกับพาลาดิน

พาลาดินคือกลุ่มคนที่ตามฆ่าเหล่าจัมพ์เปอร์ พวกเขามีความเชื่อว่าพวกโดดล่องหนเป็นภัยคุกคาม สร้างความปั่นป่วนและมีอำนาจมากเกินกว่าจะอยู่ร่วมกันได้ ในภาพยนตร์เรื่องนี้คนดูจะได้เห็นอาวุธพิเศษที่พวกพาลาดินใช้สำหรับดักจับจัมพ์เปอร์ ตั้งแต่ปืนยิงเชือกไฟฟ้าไปจนถึงเครื่องมือทะลุมิติตามเงาจัมพ์เปอร์ไปได้แทบทุกที่เช่นเดียวกัน ซึ่งต้องบอกไว้เลยว่าการต่อสู้ระหว่างเดวิดและโรแลนด์เป็นไปอย่างดุเดือดเข้มข้นแบบที่ละจากหน้าจอไม่ได้ (ไม่อย่างนั้นคุณจะไม่รู้เลยว่าพระเอกวาร์ปไปไหนต่อไหนบ้าง) จนเมื่อถึงตอนจบของเรื่องที่ได้เฉลยว่าแม่ของเดวิดเป็นพาลาดิน ก็ยิ่งทำให้คนดูอึ้งกันไปอีก

สรุป

Jumper (2008) ฅนโดดกระชากมิติ เป็นภาพยนตร์แอคชั่นไซไฟที่รับประกันความสนุก สำหรับใครที่กำลังหาหนังไว้ดูยามว่างสักเรื่องขอแนะนำเรื่องนี้ไว้ โดยใช้เวลาดูประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่งเท่านั้น สำหรับผู้ที่ชอบภาพยนตร์แนวแอคชั่นวาร์ปได้ต้องห้ามพลาดอย่างเด็ดขาดเลยทีเดียว