มีรายงานว่า หนังเรื่อง No Time to Die จะเป็นการเปิดตัวลูกสาวของ James Bond ในตัวอย่างสุดท้ายของหนังภาคล่าสุดของ James Bond ที่มีการสนับสนุนแนวคิดเรื่องการปรากฏตัวลูกของสายลับ 007
ตัวอย่างสุดท้ายจากหนังเรื่อง No Time to Die ได้มีหลายคนสังเกตว่า ตัวอย่างนี้ได้สนับสนุนข่าวลือเกี่ยวกับหนัง เรื่องที่ว่าจะมีการเปิดตัวลูกสาวของ James Bond หนัง James Bond ภาคที่ 25 นี้ ถือว่าเป็นผลงานภาคที่ 5 และเป็นภาคสุดท้ายของนักแสดง Daniel craig ในชื่อของสายลับ 007 ซึ่งนั่นจะนำมาถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในแฟรนไชส์หนังเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ซึ่งนำมาถึงจุดสูงสุดของหนังแฟรนไชส์นี้เพียงเท่านั้น แต่ยังเป็นการนำมาถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่สำหรับนักแสดง Daniel craig ในบทของJames Bond ด้วย
มีรายงานเมื่อช่วงเดือนมิถุนายนปี 2020 ว่า หนังเรื่อง No Time to Die นี้จะมีการเปิดตัวลูกสาวของ James Bond ซึ่งหากข้อมูลนี้เป็นจริง นี่จะเป็นเรื่องราวที่ยิ่งใหญ่มากสำหรับตัวละครนี้ จากการที่เราไม่เคยเห็นเขามีครอบครัวเลย นับตั้งแต่นั้นมา ข้อมูลที่เป็นรูปธรรมที่ได้นั้นก็น้อยมาก แต่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร และก็เหมือนกับหนังหลาย ๆ เรื่อง No Time to Die ก็เป็นหนังที่จำเป็นที่จะต้องเกิดความล่าช้า ข่าวลือนี้จึงค่อยซาไป แต่ถึงอย่างนั้นก็มีการมโนไปอีกว่า หาก James Bond มีลูกจริง ๆ ผู้เป็นแม่ก็น่าจะเป็น Madeleine Swann ตัวละครของนักแสดง Léa Seydoux ยังไงก็ตามนี่ก็ยังเป็นข่าวที่ไม่ได้รับการเปิดเผยอย่างแท้จริง แต่คราวนี้อาจมีการบอกใบ้ไว้ในฟุตเทจใหม่ของหนังเรื่องนี้
ในตัวอย่างล่าสุดของ No Time to Die นั้น Safin (Rami Malek) บอกกับ James Bond ว่า “ทักษะของคุณได้ตายไปพร้อมกับร่างกาย และชีวิตคือการทิ้งบางสิ่งบางอย่างไว้ข้างหลังใช่ไหม” นี่เป็นคำพูดที่แสดงให้เห็นถึงความอันตรายและน่ากลัวของวายร้ายคนใหม่นี้ และยิ่งน่าสนใจเข้าไปอีกเมื่อเราเห็นว่าหนังเรื่อง No Time to Die นี้ จะเป็นหนังเรื่องสุดท้ายของนักแสดง Daniel craig ในฐานะ James Bond อีกทั้งนี่อาจจะบ่งบอกถึงการปรากฏตัวของลูกสาวของ James Bond อาจมีความเป็นไปได้ที่ James Bond ต้องการที่จะทิ้ง “มรดก” บางอย่างไว้เบื้องหลัง และต้องการจะสืบทอดชื่อของ 007 ให้ยังคงอยู่ต่อไป ถึงจะเป็นแนวคิดที่สุดโต่งไปเสียหน่อย แต่มรดกที่ว่าหรือการสืบทอดชื่อของ 007 อาจจะเป็นตำแหน่งของลูกสาวของเขาก็เป็นได้
หนัง No Time to Die จะเป็นหนังที่ James Bond ต้องต่อสู้กับตัวเอง หลังจากการเกษียณอายุของเขา แต่ก็มีให้เขาต้องกลับคืนวงการนี้ และต้องทำงานร่วมกับ 007 คนใหม่ (ที่แสดงโดย Lashana Lynch) James Bond นั้นห่างหายไปเป็นเวลากว่า 5 ปี แต่ถึงอย่างนั้นแล้วหน่วย MI6 ก็จำเป็นที่จะต้องทำหน้าที่อยู่ คำถามที่น่าสนใจคือ “มรดก” ที่เขาได้ทิ้งไว้นี้คืออะไร หากเรื่องของลูกสาวของเขาเป็นเรื่องจริง หนังในชุด James Bond นี้คงจะเปลี่ยนไปมาก หากเราลองสังเกตดูหนังหลาย ๆ ภาคที่ผ่านมา กับนักแสดงหลาย ๆ คนที่ผ่านมา พวกเขาเหล่านั้นเป็นตัวละครเจ้าเสน่ห์ มีสาว ๆ มากมาย (หรือที่เรียกกันว่า สาว Bond) หากมีเรื่องของลูกสาวของ James Bond เข้ามาเกี่ยวข้อง ความต่อเนื่องที่เกิดขึ้นในตลอดแฟรนไชส์นี้ก็จะหยุดลง หนังเรื่องนี้จะต้องถูกรีบูตใหม่ในภาคหน้า และเราอาจไม่ได้เห็นเรื่องราวแบบเดิมของ James Bond จะว่าไปแล้วก็เป็นอะไรที่น่าสนใจอยู่เหมือนกัน เพราะนั่นทำให้ทางทีมงานมีอิสระในการทำงานเป็นอย่างมาก ไม่ใช่หนังแบบเดิม ๆ ที่จบในตอน ตัวเอกชนะตัวร้าย และการผจญภัยของตัวเอกก็ยังคงดำเนินต่อไป แต่นี่หมายความว่า ตัวเอกของเราอาจจะสู้กับวายร้าย (จนอาจถึงตายได้) ก็คงต้องรอดูกันต่อไป
เนื่องจากเรื่องราวในหนัง James Bond ภาคนี้เป็นเรื่องราวที่เป็นจุดสิ้นสุดของเรื่องราวของเขา กับบทบาทของ Daniel craig ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม การที่กำหนดให้เขามีลูกสาวจึงเป็นเรื่องที่ค่อนข้างสมเหตุสมผล มันเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ยืนยันว่า ชีวิตมีอะไรมากกว่าการเป็นสายลับ 007 ไม่แน่การที่เขาได้หายไปก่อนที่จะกลับมาในหนังภาคนี้ หากมีสิ่งที่ทำให้เขาได้เรียนรู้อะไรบางอย่าง นั่นคือการมีลูกนั้น สามารถเติมเต็มความรู้สึกที่แท้จริงของJames Bond ที่ไม่ใช่แค่เรื่องของการเป็นสายลับเจ้าเสน่ห์ และอาจหมายความว่า เขาจะอำลาวงการนี้อย่างจริงจัง และใช้ชีวิตกับครอบครัวอย่างมีความสุข หรือไม่แน่ในหนังภาคนี้ เราอาจจะได้เห็นเขาต่อสู้เพื่อช่วยชีวิตลูกสาวของเขาก็เป็นได้ ไม่ว่าจะเป็นแนวคิดไหน การเพิ่มตัวละครนี้เข้ามาก็เป็นอะไรที่น่าสนใจอย่างมาก คงต้องรอติดตามกันในอีกไม่นานนี้
