เรียกได้ว่าเพิ่งจะจบไปสด ๆ ร้อน ๆ กับซีรี่ส์ดังของสตูดิโอ Marvel อย่าง The Falcon and the Winter Soldier ที่เริ่มฉายตอนแรกตั้งแต่วันที่ 19 มีนาคม 2021 และเพิ่งจบตอนที่ 6 คือเมื่อวานนี้เอง เป็นซีรี่ส์ที่แต่ละตอนมีความยาวอยู่ที่ประมาณเกือบ 1 ชั่วโมง ดังนั้นจึงเรียกได้ว่าจุใจแฟน ๆ กันอย่างแน่นอน ฉายอยู่ในสตรีมมิง Disney+ ที่ยังไม่เข้าในไทยเสียที แต่ก็คิดว่าไม่เกินความสามารถของหลายคนครับ ที่จะสามารถหาดู Disney+ นี้ได้ วันนี้เราจะมาพูดถึงซีรี่ส์เรื่องนี้กัน แต่ต้องขอบอกไว้ก่อนเลยว่า งานนี้มีสปอยล์ แต่จะไม่ได้สปอยล์ในส่วนสำคัญใหญ่ ๆ ของเรื่อง เพื่อไม่ให้เสียอรรถรสในการรับชม
เรื่องราวในซีรี่ส์ เป็นเรื่องราวที่อยู่ในช่วงเวลา 6 เดือน หลังจากกัปตันอเมริกาอย่าง Steve Rogers (รับบทโดย Chris Evan) ได้วางมือ และทิ้งมรดกชิ้นสำคัญไว้ให้ Sam Wilson (รับบทโดย Anthony Mackie) นั่นทำให้เขาเองต้องคิดอย่างหนัก ว่าจะทำอย่างไรกับสิ่งที่ได้รับนี้มา ในขณะเดียวกัน Bucky Barnes (รับบทโดย Sebastian Stan) จำเป็นที่จะต้องเผชิญหน้ากับตัวตนเก่าของเขาอย่าง Winter Soldier แล้วก้าวข้ามให้ได้ อีกทั้งทั้งสองคนยังมีเรื่องราวใหม่ให้ต้องสะสางกันหลายต่อหลายเรื่อง และนี่คือเรื่องราวการผจญภัยของทั้งสองคน
เรื่องราวของซีรี่ส์เรื่องนี้ เรียกได้ว่าเป็นตัวของตัวเอง มีเอกลักษณ์เฉพาะเป็นของตน เราเห็นหนังหรือซีรี่ส์หลายเรื่องของ Marvel ที่จะมาในโทนนี้ อย่างเช่น Captain America ทั้งสามภาค โดยเฉพาะที่ชัดเจนที่สุดคือภาค Captain America: Winter Soldier อีกเรื่องหนึ่งที่พอจะจับไปอยู่ในทางเดียวกันคือ Iron Man ซึ่งทั้งสองมีเอกลักษณ์และเรียกได้ว่ามี “รส” ในแบบของตัวเอง The Falcon and the Winter Soldier ก็เป็นแบบนั้น ทั้งที่น่าจะคล้ายกันกับทั้งสองเรื่องที่กล่าวมา น่าจะเป็นเพราะการประชดจิกกัดกันตลอดของคู่หูแซมบัค หรือการนำเสนอตัวละครลับต่าง ๆ ในส่วนของฉากแอ็กชันไม่ต้องพูดถึง น่าประทับใจเสียจนอยากร้องไห้เลย ตั้งแต่เปิดเรื่องในตอนแรก จนถึงตอนจบเลยครับ แน่นอนว่าตามสไตล์ Marvel มีตัวละคร หรือเหตุการณ์ต่าง ๆ ให้เซอไพรส์กันตลอดทุกตอนจริง ๆ ครับ โดยปกติผมจะไม่ค่อยสันทัดหนัง Marvel ที่มีโทนแอ็กชันหนัก ๆ แบบนี้ แต่เรื่องนี้แล้วผมชอบครับ
(spoil เล็กน้อย) และสิ่งที่ชอบมาก ๆ ในเรื่องนี้ คือสิ่งที่ซีรี่ส์ชุดนี้ต้องการจะสื่อสารกับคนดู เรียกได้ว่าเป็นสิ่งร่วมสมัยเลยทีเดียว การที่กลุ่มคนกลุ่มหนึ่งซึ่งได้ที่พักพิงใหม่ ที่นั่นเปรียบเสมือนบ้านของพวกเขา หลังจากนั้นพอกลุ่มคนที่เคยอยู่ตรงนั้นกลับมา กลุ่มคนใหม่กลับถูกขับไล่ ให้ไร้ซึ่งแผ่นดินอยู่ สิ่งที่กลุ่มตัวร้ายหลักอย่างกลุ่ม Flag Smashers ต้องการ เพียงแค่ให้โลกมองเห็นพวกเขาในฐานะมนุษย์กลุ่มหนึ่งเท่านั้น ไม่ได้ต้องการมากไปกว่านี้ แต่อาจจะใช้วิธีการที่รุนแรง อีกประเด็นที่น่าสนใจ ก็เห็นจะเป็นประเด็นกัปตันอเมริกาคนใหม่ (ในที่นี้หมายถึง Sam) การที่โลกไม่ยอมรับกับการที่คนดำจะมาเป็นสัญลักษณ์แห่งความหวัง เปรียบดังการนำเสนอการเหยียดผิว รวมไปถึงเชื้อชาติในยุคปัจจุบัน ซึ่งเป็นปัญหาที่ถูกฝังรากลึกมาช้านาน จึงต้องใช้เวลาในการแก้ไขปัญหานี้กันอย่างจริงจัง ไม่น่าเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้จะถูกนำเสนอในซีรี่ส์ที่เรียกได้ว่าเป็นซีรี่ส์ดังแห่งยุค
ตัวละครที่ในซีรี่ส์นี้น่าสนใจมาก ๆ ตัวหนึ่ง คือตัวละครของ Daniel Brühl ในบทของ Baron Zemo ในเรื่องนี้จะเรียกได้ว่าเป็นตัวร้ายก็เรียกไม่ได้เต็มปาก จะบอกว่าเป็นตัวดีก็ไม่เชิง เรียกว่าค่อนข้างมีมิติเลย จากที่ปรากฏตัวใน Captain America: Civil War รู้สึกว่าตอนนั้นเราจะไม่ได้รู้จักกับตัวละครนี้มากนัก แต่ในคราวนี้เราได้รู้จักเขามากขึ้นเยอะทีเดียว อีกตัวละครที่น่าสนใจไม่แพ้กัน คือตัวละคร John Walker ที่นำแสดงโดย Wyatt Russell อันนี้ก็มีมิติที่สมบูรณ์ ร้ายก็ไม่ร้าย ดีก็…สงสัยต้องรอไปดูกันต่อในหนัง Captain America 4 เพราะทาง Marvel ได้ประกาศสร้างเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โดยภาพรวม ซีรี่ส์เรื่องนี้มีฉากแอ็กชันที่ดีเกินจะเป็นซีรี่ส์เสียด้วยซ้ำ บทบาทของแต่ละตัวละคร ไม่มีใครขัดบทใคร ทุกตัวละครอยู่ในจุดของตัวเอง อย่างน่าประทับใจ อีกทั้งตัวละครลับมีให้เห็นเพียบ ใครเป็นติ่ง Marvel เรียกได้ว่าต้องชอบซีรี่ส์เรื่องนี้อย่างแน่นอน ประเด็นในซีรี่ส์อันนี้ก็น่าสนใจ นอกจากที่ผมกล่าวถึงแล้ว ยังมีอีกหลายเรื่องที่ซีรี่ส์นี้กำลังจะบอกกับผู้ชม ด้วยเหตุเหล่านี้ผมจึงไม่อยากให้คุณพลาดซีรี่ส์ดี ๆ เรื่องนี้ไปอย่างเด็ดขาด สามารถหาดูได้แล้ว ทาง Disney+ ครับ
อันนี้ขอแถม
.
(spoil หนัก) ขอพูดถึง End Credit ของซีรี่ส์เรื่องนี้สักนิด การที่ตัวละคร Sharon Carter ได้กลับมายังแผ่นดินอเมริกา แถมยังได้รับตำแหน่งทำงานเดิม (Agent Carter) กลับมาอีกด้วย แล้วหลังจากนั้นความชั่วร้ายก็ปรากฏ การที่ Agent Carter ได้ทำการติดต่อกลุ่มคนปริศนาเพื่อขายอาวุธยุทโธปกรณ์ของอเมริกาให้ เรื่องนี้อาจจะนำไปสู่ซีรี่ส์เรื่องต่อไปของ Marvel อย่างซีรี่ส์ Armor Wars ก็เป็นไปได้
