ตามที่ผู้อำนวยการสร้าง Brad Winderbaum ได้กล่าวไว้ว่า ซีรี่ส์เรื่อง What If…? ที่จะเข้าฉายทาง Disney+ จะมีความสำคัญต่อ MCU และมีเรื่องราวขยายใหญ่กว่าโปรเจกต์ อื่น ๆ ของ Marvel Studios
ตามที่ผู้อำนวยการสร้าง Brad Winderbaum ได้กล่าวไว้ว่า ซีรี่ส์ที่จะเข้าฉายทาง Disney+ เรื่อง What If…? นั้น เรียกได้ว่ามีความสำคัญต่อโครงเรื่องต่อไปในอนาคตของ Marvel Cinematic Universe (MCU) เป็นอย่างมาก และจะมีความสำคัญอย่างใหญ่กว่าโปรเจกต์อื่น ๆ ของ Marvel Studios เสียอีก โปรเจกต์ What If…? นี้เป็นโปรเจกต์ที่สร้างขึ้นมาจากหนังสือการ์ตูนในชื่อเดียวกัน ซีรี่ส์จะพาเราตั้งคำถามเกี่ยวกับเรื่องราวต่าง ๆ และตัวละครต่าง ๆ สุดคลาสสิกของ MCU ว่าหากเรื่องราวของพวกเขาเหล่านั้นแตกต่างไปจากเดิม ตัวอย่างเช่น ในตอนแรกของซีรี่ส์ เราจะได้เห็นตัวละคร Peggy Carter (Hayley Atwell) ที่ได้ฉีด Super Soldier แทนที่จะเป็น Steve Rogers หรือในตอนหนึ่งที่ Yondu ลักพาตัว T’Challa ตัวละครของ Chadwick Boseman แทนที่จะลักพาตัว Peter Quill
เมื่อมีการประกาศว่า ซีรี่ส์เรื่องนี้จะทำมาในรูปแบบของซีรี่ส์แอนิเมชันเรื่องแรกใน MCU หลายคนก็เลยมองไปว่า ซีรี่ส์เรื่องนี้อาจเป็นซีรี่ส์ที่จะไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อ MCU มากนัก ในตอนนี้ ซีรี่ส์เรื่อง What If…? นี้ ได้ถูกวางกำหนดฉายตอนแรกหลังจากที่ซีรี่ส์เรื่อง Loki ได้จบลง ซึ่งเรื่องราวที่ทิ้งไว้ในซีรี่ส์ Loki นั้น เป็นเรื่องราวของการแตกแขนงของเส้นเวลาที่ค่อนข้างน่ากลัว และได้สร้างสิ่งที่เรียกว่า Multiverse ขึ้น มันคือหลากหลายและความเป็นไปได้ที่ดูเหมือนจะไม่มีที่สิ้นสุด ซีรี่ส์ What If…? เรื่องนี้ จะเล่าเรื่องผ่านตัวละคร Uatu the Watcher (Jeffrey Wright) ซึ่งได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ดูแล Multiverse นักแสดงจาก MCU จำนวนมากหลายคน ได้กลับมาแสดงบทบาทของพวกเขา ในรูปแบบเป็นผู้ให้เสียงในซีรี่ส์เรื่องนี้ และในซีรี่ส์ hat If…? เรื่องนี้เอง จะเป็นหนึ่งในจุดเริ่มต้นของเรื่องราวในอนาคตของจักรวาล MCU กับเรื่องราวของ Multiverse ที่หลากหลาย นั่นนำไปสู่เรื่องราวในหนังเรื่องต่อ ๆ ไปของ MCU ที่จะมาถึงเช่น Spider-Man: No Way Home, Doctor Strange in the Multiverse of Madness และ Ant-Man and the Wasp: Quantumania
ในการให้สัมภาษณ์กับ Deadline รองประธานฝ่ายการผลิตและการพัฒนาที่ Marvel Studios อย่าง Brad Winderbaum กล่าวสั้น ๆ ว่า What If…? จะเป็นซีรี่ส์ที่ส่งผลกระทบต่อ MCU ขนาดใหญ่เลยทีเดียว ความจริงที่ว่า ซีรี่ส์ What If…? เกิดขึ้นหลังจากซีรี่ส์ Loki นั่นทำให้ซีรี่ส์เรื่องนี้ จะมีความสำคัญมากกว่าเรื่องราวอื่น ๆ ใน MCU อ่านสิ่งที่เขาได้ให้สัมภาษณ์ไว้ด้านล่างนี้
“มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่ซีรี่ส์เรื่องนี้จะเกิดขึ้นทันทีหลังจากเรื่องราวใน Loki ปัญหาต่าง ๆ ได้ปะทุขึ้น ในทุกทิศทางที่เป็นไปได้ ซีรี่ส์เรื่อง What If…? ทำให้เรามีโอกาสได้สำรวจว่า… ผมคิดว่าผมไม่ลงรายละเอียดมากกว่านี้ดีกว่า ผมบอกได้เลยว่า What If…? ในฐานะที่เป็นโปรเจกต์หนึ่ง เช่นเดียวกับเรื่องราวที่มีอยู่ใน MCU โปรเจกต์ นี้มีความสำคัญพอ ๆ กับเรื่องอื่น ๆ และได้ถักทอให้จักรวาลนี้สมบูรณ์แบบ”
รายชื่อนักแสดงใน MCU ที่จะกลับมาร่วมงานในซีรี่ส์ What If…? ได้แก่ Hayley Atwell, Chris Hemsworth, Paul Rudd, Mark Ruffalo, Samuel L. Jackson, Benedict Cumberbatch, Benedict Wong, Clark Gregg, Cobie Smulders, Danai Gurira, Don Cheadle, Emily VanCamp, Evangeline Lilly, Jeff Goldblum, Jeremy Renner, Jon Favreau, Josh Brolin, Karen Gillan, Kat Dennings, Kurt Russell, Leslie Bibb, Mark Ruffalo, Michael B. Jordan, Michael Douglas, Michael Rooker, Natalie Portman, Neal McDonough, Ophelia Lovibond, Paul Bettany, Sebastian Stan, Tom Hiddleston และบทบาทสุดท้ายของนักแสดง Chadwick Boseman ดูเหมือนว่าทีมผู้สร้างนั้น จะใช้ความพยายามอย่างมากในการทำให้ตอนของ Chadwick Boseman ไม่เพียงแต่แสดงความเคารพต่อเขา แต่ยังคงรักษาความเป็น Guardians of the Galaxy อีกทั้งยังยกให้ซีรี่ส์ตอนนี้ เป็นมรดกของนักแสดงอีกด้วย ดังนั้น ซีรี่ส์ What If…? นี้จะเล่าเรื่องราวของอดีต และเป็นการปูทางสู่อนาคตของ MCU อีกทั้งยังมีความตลก ตามสไตล์ถนัดของ Marvel อยู่ด้วย
Kevin Feige ประธานใหญ่ของ Marvel Studios ได้กล่าวไว้ว่า เป้าหมายหลักของซีรี่ส์เรื่องนี้ คือการทำให้เรื่องราวต่าง ๆ ในจักรวาลนี้ที่เคยเกิดขึ้น ได้กลายมาเป็นเรื่องราวสำคัญ และจะเป็นการนำเสนอตัวละครจาก MCU ให้ได้มากที่สุดจากหนังทั้ง 23 เรื่องที่ผ่านมา อาจเป็นไปได้ว่าในซีรี่ส์ What If…? นี้อาจมีการอ้างอิงถึงเหตุการณ์ของซีรี่ส์เรื่อง Loki หรืออาจมีการกล่าวถึง Kang the Conqueror (Jonathan Majors), Doctor Strange (Benedict Cumberbatch) เตรียมตัวรับบทนำในซีรี่ส์ What If…? รายละเอียดในตอนหนึ่งได้มีการเปิดเผยว่า Sorcerer Supreme ได้เผชิญหน้ากับตัวตนของตนเองในเวอร์ชันที่ร้ายกว่า นั่นอาจหมายความว่า เราอาจจะได้เห็น Doctor Strange ที่มาจาก Scared Timeline (หรือเส้นเวลาหลัก) นั่นจะเป็นการเชื่อมโยงได้อย่างลงตัว ที่ว่า Doctor Strange จะตระหนักได้ถึงความเป็นจริงที่แตกแขนงย่อยออกมาหลากหลาย จากเหตุการณ์ในซีรี่ส์ Loki อีกทั้งเรายังจะได้เห็นในซีรี่ส์ What If…? นี้ ที่จะนำเรื่องราวยอดนิยมต่าง ๆ มาเล่า ตัวอย่างเช่น Marvel Zombies และในฐานะที่แอนิเมชันเรื่องนี้เป็นแอนิเมชันที่ไม่ได้มีปัญหาด้านงบประมาณมากนัก สิ่งนี้ทำให้ซีรี่ส์เรื่องนี้สามารถที่จะเล่าเรื่องราวได้หลากหลาย และเล่าเรื่องราวของ Multiverse ได้อย่างเต็มที่
