ดาราสาวชื่อดัง Scarlett Johansson ดารานำจากหนังเรื่อง Black Widow ได้ยื่นฟ้อง Disney เกี่ยวกับการนำหนังของตนไปฉายทางสตรีมมิง Disney+ โดยเธอได้อ้างว่า เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์

Rachel Weisz and Scarlett Johansson at an event for Black Widow

ดาราสาว Scarlett Johansson ทำการฟ้องร้อง Disney เกี่ยวเกี่ยวกับการนำหนังเรื่อง Black Widow เข้าฉายบนสตรีมมิง Disney+ นักแสดงสาว Scarlett Johansson เรียกว่าได้รับบทแนวหน้าในหนังของ MCU มาอย่างยาวนาน โดยเธอได้เปิดตัวครั้งแรกในปี 2010 ในหนังเรื่อง Iron-Man 2 ในฐานะ Natasha Romanoff และเธอยังได้มีโอกาสแสดงนำในหนังของ Marvel ด้วยกันอีกหลายต่อหลายเรื่อง ในฐานะตัวละครที่แฟน ๆ ต่างเรียกร้อง ให้เธอได้มีโอกาสมีหนังเดี่ยวเป็นของตัวเองใน MCU มาเป็นเวลาอย่างยาวนาน ในที่สุด Marvel ก็รับฟังเสียงเรียกร้องจากแฟน ๆ หลังจากได้ทำการสังหารตัวละคร Natasha Romanoff ในหนัง Avengers: Endgame เดิมทีแล้วหนังเรื่อง Black Widow มีกำหนดเข้าฉายในโรงหนังในช่วงเดือนพฤษภาคมปี 2020 แต่ก็ได้มีการถูกเลื่อนออกไปหลายต่อหลายครั้ง เนื่องจากการระบาดใหญ่ จากตอนแรกหนังเรื่องนี้จะเป็นหนังเปิดตัวเฟสที่ 4 ของ MCU ในที่สุด Marvel ก็ได้ตัดสินใจเริ่มต้นเฟสที่ 4 นี้ ด้วยการฉายซีรี่ส์ลงบน Disney+ เรื่อง WandaVision และดูเหมือนว่าตอนนี้ พวกเขาจะเดินหน้าอย่างเต็มกำลัง เพื่อให้แผนที่วางไว้ของพวกเขานั้นเป็นไปอย่างราบรื่น กับการนำหนังหรือซีรี่ส์เรื่องต่าง ๆ มาฉายลงบนสตรีมมิงนี้

นั่นรวมไปถึง การนำหนังเรื่อง Black Widow มาเปิดตัวบนสตรีมมิงนี้ด้วย หลายคนต่างตั้งข้อสงสัยถึงกระบวนการที่ Disney ตัดสินใจ ในการฉายหนังรอบปฐมทัศน์บนแพลตฟอร์มสตรีมมิง ทั้งหนังเรื่อง Black Widow นี้ รวมไปถึงการเปิดตัวหนัง Mulan และ Soul ในปี 2020 ที่ผ่านมา ในที่สุดสตูดิโอก็ได้ตัดสินใจทำเช่นนั้น โดยการปล่อยหนังเรื่อง Black Widow ให้เข้าฉายทั้งในโรงหนังและในสตรีมมิง Disney+ พร้อมกัน ซึ่งกระบวนการนี้ต้องผ่าน Premier Access ซึ่งเป็นการเรียกเก็บเงินเพิ่มจากสมาชิกเพิ่มเติม 29.99 เหรียญ สำหรับการได้ดูหนังเรื่องนี้ ตลอดช่วงเวลาการแพร่ระบาดใหญ่ในครั้งนี้ การเปิดตัวหนังบล็อกบัสเตอร์ยังเป็นที่ถกเถียงกันสำหรับหลาย ๆ คน ในอุตสาหกรรมหนังนี้

Scarlett Johansson and Florence Pugh in Black Widow

ตามรายงานของ WSJ นักแสดง Scarlett Johansson ได้ยื่นฟ้อง Disney ในศาลสูง Los Angeles โดยเธอได้อ้างว่า การนำหนังเรื่อง Black Widow มาปล่อยลงบนสตรีมมิง Disney+ นั้น เป็นการละเมิดสัญญา ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่า เงินที่นักแสดง Scarlett Johansson จะได้รับนั้น ขึ้นอยู่กับความสำเร็จใน Box Office ของหนังเรื่องนี้ด้วย อีกเหตุผลคือการขัดขวางไม่ให้หนังเรื่องนี้ได้ฉายบนสตรีมมิงด้วย เธอได้มีการกล่าวเพิ่มเติมว่า “Disney นั้นจงใจที่จะชักจูง Marvel ให้ทำการละเมิดข้อตกลงโดยไม่มีเหตุผล เพื่อป้องกันไม่ให้นักแสดงสาว Scarlett Johansson ตระหนักถึงผลประโยชน์อย่างเต็มที่จากการต่อรองกับ Marvel” ทาง Disney เอง ก็ได้มีการตอบโต้เกี่ยวกับคดีความหนังเรื่อง Black Widow ของนางเอก Scarlett Johanson โดยได้กล่าวว่า “มันไม่ได้เป็นแบบนั้นเลย Disney ได้ปฏิบัติตามสัญญาและข้อตกลงของ Scarlett Johanson อย่างสมบูรณ์ครบถ้วนแล้ว”

หนังเรื่อง Black Widow นี้ เป็นเหมือนโปรเจกต์ใหญ่ที่สุดของนักแสดง Scarlett Johanson ในจักรวาล MCU เลยก็ว่าได้ จากการที่เกิดการฟ้องร้องนี้ขึ้น อาจเป็นไปได้ว่า นี่อาจเป็นครั้งสุดท้ายที่เราจะได้เห็นตัวละคร Natasha Romanoff ของเธอ อยู่ในหนังของ Marvel นอกจากนี้ในขณะนี้ อุตสาหกรรมหนังทั้งหมดใน Hollywood ยังคงอยู่ในช่วงปรับตัวให้เข้ากับการระบาดใหญ่ และสถานการณ์ในปัจจุบัน สตูดิโอหลายแห่งเริ่มทำการผ่อนปรนวิธีการ และช่วงเวลาที่พวกเขาจะออกฉายภาพยนตร์โปรเจกต์ใหญ่ ๆ แล้ว ทางสตูดิโอใหญ่อย่าง Warner Bros. ก็ได้เคยสร้างความโกลาหลใหญ่ครั้งหนึ่งเมื่อปลายปี 2020 เมื่อพวกเขาได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับหนังทั้งหมดที่จะฉายในปี 2021 ทั้งบนสตรีมมิง HBO Max และในโรงหนัง พร้อมกับหนังเรื่อง Dune ที่เป็นการร่วมทุนกันของ Warner Bros. และ Legendary Studios นั่นเป็นเหตุให้เกิดการยื่นฟ้องสตูดิโอเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน

ยังมีหนังเรื่องอื่น ๆ ที่เป็นประเด็นอีก หนังเรื่อง Wonder Woman 1984 ที่ได้นำไปใช้บนสตรีมมิง HBO Max นั่นทำให้ดาราสาว Gal Gadot และผู้กำกับ Patty Jenkins ได้รับเงินชดเชยเป็นจำนวน 10 ล้านเหรียญ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่มีความชัดเจนว่า ทาง Warner Bros. จะให้ค่าชดเชยแบบนี้กับหนังเรื่องอื่น ๆ หรือเปล่า หนังเรื่องอื่นที่จะเข้าฉายลงบนสตรีมมิง คดีความที่เกิดขึ้นกับหนัง Black Widow ของนักแสดงสาว Scarlett Johanson นี้ ก็จะเป็นกรณีศึกษากรณีใหญ่กรณีหนึ่ง ที่อุตสาหกรรมหนังก็ต้องหันมามอง เกี่ยวกับการเอาหนังที่เปิดตัวใหม่เข้าฉายลงบนสตรีมมิง ไม่แน่มันอาจเป็นการป้องกันสตูดิโอต่าง ๆ ที่จะนำหนังใหญ่ ๆ มาปล่อยฉายในโรงหนังพร้อมกับในสตรีมมิงในอนาคตก็เป็นได้