อย่างที่เรารู้กัน สตูดิโอชื่อดังอย่าง Pixar ได้มีผลงานออกมาให้เราดูกันมาแล้วมากมาย ผลงานทั้งหมดล้วนเรียกทั้งรอยยิ้ม และน้ำตา ให้กับผู้ชมทั้งโลก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของของเล่นที่เปรียบเสมือนเป็นทั้งหมดของชีวิตในวัยเด็กใน Toy Story เรื่องราวแห่งห้วงความคิด และอารมณ์ต่าง ๆ ผ่านการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ใน Inside Out หรือเมื่อเร็ว ๆ นี้ เก็บแอนิเมชันที่ชวนให้เราเคารพในความแตกต่าง และเปลี่ยนไปด้วยมิตรภาพอันอบอุ่นใน Luca และอย่างที่เรารู้กัน โดยปกติแล้ว Pixar จะมีแอนิเมชันออกมาให้เราดูกันปีละ 1 เรื่อง แต่ในปีที่แล้ว ได้มีผลงานแอนิเมชันยอดเยี่ยมออกมาถึง 2 เรื่อง หนึ่งในนั้นคือแอนิเมชันเรื่องที่ผมจะชวนทุกคนไปดูกันในวันนี้ครับ กับ Onward คู่ซ่าล่ามนต์มหัศจรรย์

Chris Pratt and Tom Holland in Onward

Onward เป็นแอนิเมชันที่เล่าเรื่องราวของโลกแห่งเวทมนตร์ ที่เต็มไปด้วยสัตว์วิเศษมากมาย และโลกแห่งการล่าขุมทรัพย์ แต่ด้วยกาลเวลา ผู้คนเริ่มรู้จักกับวิทยาศาสตร์ นั่นทำให้เวทมนตร์ด้อยค่าลง ในที่สุดมันก็ค่อย ๆ เลือนหายไปตามกาลเวลา เรื่องราวใน Onward เป็นเรื่องราวการผจญภัยของสองพี่น้องตระกูล Lightfoot เรื่องราวของ Ian คนน้อง (ให้เสียงโดย Tom Holland) และ Barley คนพี่ (ให้เสียงโดย Chris Pratt) เมื่อวันเกิดอายุได้ 17 ปีของ Ian แม่ได้เอาของขวัญวันเกิด ซึ่งเป็นสมบัติชิ้นสุดท้ายที่พ่อทิ้งไว้ให้มาให้กับสองพี่น้อง นั่นเป็นเหตุให้สองพี่น้องได้ออกเดินทางเพื่อค้นหาเวทมนตร์วิเศษที่ยังหลงเหลืออยู่ เพื่อที่จะคืนชีพให้กับพ่อ และใช้เวลาร่วมกันในวันสุดท้ายนี้ การเดินทางนี้เป็นการเดินทางที่เต็มไปด้วยภารกิจ เวทมนตร์ เส้นทางลึกลับ และอุปสรรคที่คาดไม่ถึง ที่จะนำพาพวกเขาไปเจอเวทมนตร์ที่แท้จริง และทำให้พวกเขาเติบโตขึ้น นี่ไม่ใช่แค่เพียงแอนิเมชันผจญภัยธรรมดา แต่ยังเปลี่ยนไปด้วยเรื่องราวและความหมาย ที่ทำให้พวกเขาล้วนเติบโตขึ้น และเราคนดูก็ได้เติบโตไปพร้อมกับพวกเขาเหล่านั้นด้วย

Julia Louis-Dreyfus, Chris Pratt, and Tom Holland in Onward

Onward เป็นแอนิเมชันที่ผมอยากดูมานานแล้ว เนื่องจากเป็นงานของ Pixar ซึ่งแน่นอนว่าเราสามารถไว้ใจได้ สำหรับผมแล้วเนื้อเรื่องของ Onward ไม่ได้มีอะไรใหม่ และแตกต่างไปจากแอนิเมชันรายเรื่องของ Pixar การผจญภัยตามหาอะไรบางอย่าง ตัวละครได้เรียนรู้จากเรื่องราวที่เขาประสบพบเจอ แต่น่าแปลกใจ ถึงแม้ว่าเราจะได้เห็นเนื้อเรื่องหรือพล็อตประมาณนี้มาเยอะแล้วในงานของ Pixar ก็ตาม แต่ไม่ว่าอย่างไรมันก็น่าประทับใจ และมีจุดที่เรียกได้ว่า เป็นตัวของตัวเอง อยู่ในนั้นเสมอ แม้ว่า Onward จะไม่ชัดเจนในความเป็นตัวของตัวเองนี้ แต่อย่างน้อยก็มีความเป็นตัวของตัวเอง และทำให้เราประทับใจ จนถึงขั้นต้องมีน้ำตา ดังที่แอนิเมชันของ Pixar ทำกับเรามาตั้งแต่เด็ก

Chris Pratt, Octavia Spencer, and Tom Holland in Onward

นอกเหนือจากความประทับใจแล้ว Onward ยังได้นำเสนอถึงเรื่องราวการผจญภัยที่สนุก ตื่นเต้น น่าประทับใจ และยังแฝงแง่คิดไว้ให้กับเราในทุก ๆ เรื่องราวการผจญภัย ไม่ว่าจะเป็น การจุดประกายไฟในตัวรถใหม่อีกครั้ง กับสิ่งที่เราหลงลืมอย่างเช่นตัวละคร The Manticore เรื่องราวความรักของพี่น้อง อย่างสองพี่น้อง Lightfoot สิ่งที่ชอบอีกอย่างหนึ่งของ Onward ก็คือ การที่เขาหยิบตำนานต่าง ๆ หรือเรื่องเล่าที่เราเคยได้ยินกันเกี่ยวกับสัตว์วิเศษ นำมาตีความใหม่ ให้มีความเป็นการ์ตูน และมีความตลกขบขันอยู่บ้าง อย่างเช่น สัตว์ในตำนานอย่างยูนิคอร์น ที่ได้กลายมาเป็นสุนัขข้างถนน คุ้ยขยะหากิน บวกกับการที่นำเอาเรื่องราวโบราณเก่าแก่แบบนี้ มาเล่าในยุคสมัยใหม่ ตรงนี้ก็เป็นอะไรที่เราไม่ค่อยเห็นนัก

Chris Pratt in Onward

ตัวละครต่าง ๆ ของ Onward ยังมีความน่าประทับใจ ฉากเรียกน้ำตาแต่ละฉากก็ยังพอมีอยู่บ้าง แต่ผมว่า Pixar ยังทำได้อีก บางฉากที่ผมมองว่าสามารถขยี้ไปได้อีก มันเหมือนไม่สุด ไม่ได้ร้องไห้หนักเหมือน Coco หรือ Toy Story แต่ก็ยังมีความดีงามในแบบของ Onward อยู่ อย่างเช่นตัวละครของพ่อ ผมว่าสามารถเล่นตัวละครนี้ได้เยอะกว่านี้สักหน่อย หรือฉากวีดีโอเทปของพ่อในตอนแรก ๆ ฉากนี้น่าจะเป็นฉากเรียกน้ำตาได้มากกว่านี้ แต่เขากลับเลือกที่จะใช้ประโยชน์จากฉากนี้เพียงแค่นิดหน่อย ดังนั้นตรงฉากซึ้ง หรือฉากเรียกน้ำตา ผมเองยังมองว่า สามารถที่จะไปต่อได้อีกเยอะครับ

Tom Holland in Onward

สิ่งที่ Onward กำลังจะบอกเราคือ ทุกคนล้วนมีเวทมนตร์อัศจรรย์อยู่ในตัว เวทมนตร์นี้เปรียบเสมือนบางสิ่งที่เราทุกคนกำลังตามหา บางครั้งเราใช้เวลามากที่จะตามหาสิ่งนี้ แต่บางทีหากเราลองมองดี ๆ แล้ว เวทมนตร์อัศจรรย์เหล่านี้ มันอยู่รอบตัวเราอยู่แล้ว มันอยู่ใกล้จนบางทีเรามองข้ามเวทมนตร์อัศจรรย์นี้ไป Onward กำลังให้เรากลับมามองสิ่งนี้ กลับมามองสิ่งที่มีค่าที่สุดที่เราจะมีได้ บางทีสิ่งที่เราตามหาอยู่ทั้งชีวิต อาจจะเป็นสิ่งที่อยู่ใกล้ ๆ ตัวเรานี้เอง อย่างที่เราคาดไม่ถึงก็ได้

Mel Rodriguez in Onward

ในบรรดาแอนิเมชันหลายเรื่องของ Pixar ผมมองว่า Onward ก็ยังคงเป็นแอนิเมชันที่คุณสมควรดูอยู่ดี มันเปลี่ยนไปด้วยความรักความสุข และการผจญภัยสุดตื่นเต้น แล้วบางทีคุณอาจจะพบเวทมนตร์อัศจรรย์ในรูปแบบของคุณก็เป็นได้ เช่นเคยกับทาง Disney+ หาดูได้แล้ววันนี้