จิมิมีกลิ่น เกิดจากสาเหตุไหน แก้ไขปัญหาอย่างไรดี?

จิมิมีกลิ่น

ปัญหาน้องสาวมีกลิ่น สร้างความหนักอกหนักใจให้กับสาว ๆ หลายคน ทำให้รู้สึกเสียความมั่นใจ อับอายจนไม่กล้าออกไปไหน และหลายคนก็ไม่รู้จะจัดการกับปัญหานี้อย่างไรดี บทความนี้มีคำตอบมาให้ค่ะ ทั้งสาเหตุ ประเภทกลิ่น และวิธีการแก้ไขเบื้องต้น สาว ๆ ตามมาอ่านกันได้เลยค่ะ

สาเหตุที่ทำให้น้องสาวมีกลิ่น

  • การรับประทานอาหาร การรับประทานอาหารบางประเภท สามารถส่งผลให้น้องสาวมีกลิ่นแปลก ๆ ได้เช่นกัน อย่างอาหารหมัก ดอง เครื่องเทศ หัวหอม ต้นหอม อาหารทะเลบางชนิด รวมทั้งอาหารรสจัดจ้านด้วย
  • กินยาปฏิชีวนะบางประเภท ยาปฏิชีวนะบางประเภทจะไปทำร้ายเชื้อแบคทีเรียชนิดดี หรือเชื้อแลคโตบาซิลลัส ซึ่งมีหน้าที่ฆ่าเชื้อราในช่องคลอดนั่นเอง ดังนั้นจึงควรกินแต่ยาที่แพทย์สั่งเท่านั้น ไม่ควรซื้อยามากินเอง
  • ติดเชื้อแบคทีเรีย โดยปกติในช่องคลอดจะมีทั้งแบคทีเรียชนิดดีและไม่ดี หากแบคทีเรียชนิดไม่ดีมีมากเกินไป จะทำให้เสียสมดุล และส่งกลิ่นเหม็นได้ สาเหตุมีได้จากหลายอย่าง เช่น การสวนล้างช่องคลอด การสูบบุหรี่ ดื่มน้ำน้อย อั้นปัสสาวะ เปลี่ยนคู่นอนบ่อย ไม่สวมถุงยางขณะมีเพศสัมพันธ์ การตั้งครรภ์ การใส่ห่วงอนามัย เป็นต้น
  • ใส่แผ่นอนามัยทุกวัน โดยปกติแล้วผู้หญิงจะใช้ผ้าอนามัยเฉพาะช่วงมีประจำเดือนเท่านั้น แต่สมัยนี้มีการออกแบบแผ่นอนามัยขนาดเล็กสำหรับใช้ได้ทุกวัน ซึ่งบางคนกังวลกับการเลอะเทอะเปรอะเปื้อนที่อาจจะต้องมีบ้าง จึงใส่แผ่นอนามัยทุกวันทั้งที่ไม่จำเป็น ซึ่งจะทำให้เกิดการอับชื้น และส่งกลิ่นออกมาได้นั่นเอง
  • ใส่กางเกงรัดรูป การใส่เสื้อผ้าที่รัดรูปจนเกินไป จะทำให้บริเวณจุดซ่อนเร้นเกิดการอับชื้น เนื่องจากบริเวณนั้นเหงื่อมักจะออกมามาก และเป็นจุดที่เสี่ยงต่อการอับชื้นได้ง่ายที่สุดอีกด้วย จึงควรสวมใส่เสื้อผ้าที่โปร่งโล่งสบาย ให้อากาศได้ระบายถ่ายเทได้สะดวก
  • เช็ดจากหลังมาหน้า การทำความสะอาดน้องสาวที่ถูกต้องคือการเช็ดจากหน้าไปหลัง หรือซับเพียงเบา ๆ เท่านั้น เพราะจะลดการติดเชื้อจากแบคทีเรียได้นั่นเอง ซึ่งอาจจะขัดกับความเคยชินของใครหลายคน แต่ก็ต้องเปลี่ยนใหม่ เพราะด้านหลังจะเป็นช่องอุจจาระซึ่งเป็นที่สะสมของแบคทีเรีย จึงต้องเลี่ยงเช็ดจากหน้าไปหลังนั่นเอง
  • สวนล้างช่องคลอด บางคนคิดว่าการสวนล้างช่องคลอดจะทำให้สะอาด ซึ่งเป็นความคิดที่ผิด เพราะอาจจะเกิดการติดเชื้อในช่องคลอดได้ เนื่องจากช่องคลอดมีภาวะเป็นด่างมากขึ้น จึงไปทำลายแบคทีเรียชนิดดีที่อยู่ภายใน ทางที่ดีเราควรล้างจุดซ่อนเร้นด้วยสบู่อ่อนเพียงแต่ภายนอกเท่านั้นจะดีกว่า
  • เกิดจากตกขาว แม้ว่าการตกขาวจะเป็นเรื่องปกติของสาว ๆ แต่ถ้าตกขาวมีสีและกลิ่นผิดไปจากเดิม ก็บ่งบอกถึงความปกติของช่องคลอดได้เช่นกัน อย่างตกขาวที่มีสีน้ำตาล มีเลือดปน สีเหลือง สีเขียว สีเทา หรือมีฟอง ก็บ่งบอกถึงความผิดปกติได้ทั้งนั้น
  • โกนขนน้องสาว หลายคนไม่ชอบให้น้องสาวมีขน เพราะดูไม่สะอาดและรกรุงรัง แต่ธรรมชาติออกแบบมาเพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งสกปรกจากภายนอกเข้าสู่ช่องคลอดได้สะดวก ทางที่ดีจึงควรเล็มหรือแต่งขนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น คือไม่ให้รู้สึกคันหรืออับชื้นนั่นเอง
  • อาจเป็นมะเร็ง สำหรับข้อนี้อาจจะฟังดูน่าตกใจอยู่สักหน่อย แต่ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้น้องสาวมีกลิ่นได้เช่นกัน ซึ่งอาจเกิดได้จากมะเร็งปากมดลูก หรืออาจเกิดจากการติดเชื้อไวรัสหลังมีเพศสัมพันธ์ก็ได้เช่นกัน ซึ่งหากมีเลือดหรือหนองออกจากช่องคลอด และมีกลิ่นผิดปกติ ให้ไปพบแพทย์โดยด่วน

กลิ่นจิมิ 5 แบบ ที่ไม่พึงประสงค์

  1. กลิ่นหอมอ่อน ๆ ใช่ว่ามีกลิ่นหอมบริเวณจุดซ่อนเร้นแล้วจะดีเสมอไป เพราะบางทีอาจมาจากการที่ใส่ชุดที่รัดแน่น หรือมีเหงื่อออกในบริเวณนั้นมาก ดังนั้นจึงควรใส่เสื้อผ้าที่โปร่งสบาย และทำความสะอาดด้วยสบู่อ่อน กลิ่นก็จะกลับมาปกติเหมือนเดิม
  2. กลิ่นอับแบบยีสต์ หรือกลิ่นคล้าย ๆ ขนมปัง ซึ่งอาจจะมีการตกขาวและอาการคันร่วมด้วย เนื่องมาจากการติดเชื้อในช่องคลอด หรือการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน รวมทั้งภูมิคุ้มกันอ่อนแอ่ หรือการใส่กางเกงในที่อับชื้นก็เป็นไปได้เช่นกัน
  3. กลิ่นอับแบบโลหะ จะเป็นกลิ่นที่พบได้หลังมีประจำเดือน หรือช่วงมีเพศสัมพันธ์ เพราะช่องคลอดมีค่าความเป็นกรดด่างหรือค่า pH ที่เปลี่ยนไป ซึ่งอาจจะมาจากเลือดหรืออสุจิก็เป็นได้
  4. กลิ่นคาวปลาเค็ม เป็นกลิ่นที่พบได้ปกติทั่วไป แต่ในช่วงมีประจำเดือนกลิ่นอาจจะแรงหน่อย ซึ่งตัวเราเองต้องคอยสังเกตุว่ากลิ่นแรงผิดปกติ หรือมีกลิ่นแบบนี้นานไปหรือเปล่า เพราะอาจมาจากการติดเชื้อในช่องคลอดได้เช่นกัน
  5. กลิ่นเหม็นเน่า เป็นกลิ่นที่บ่งบอกถึงความผิดปกติอย่างรุนแรง ต้องรีบพบแพทย์โดยด่วน

วิธีลดปัญหาน้องสาวมีกลิ่น

  1. ทำความสะอาดอย่างถูกต้อง โดยปกติเราควรทำความสะอาดน้องสาวด้วยการไม่สวนล้างเข้าไปในช่องคลอด และสามารถใช้สบู่อาบน้ำปกติได้เลย แพทย์ไม่ค่อยแนะนำให้ใช้สบู่สำหรับจุดซ่อนเร้น เพราะจะทำให้ช่องคลอดมีภาวะเป็นด่าง ซึ่งเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้นั่นเอง
  2. ไม่ใส่กางเกงที่รัดแน่นเกินไป แน่นอนว่าการใส่เสื้อผ้าที่รัดรูปจะทำให้เราดูดี แต่การใส่บ่อย ๆ เกือบทุกวันไม่ส่งผลดีต่อน้องสาวแน่ เพราะจะทำให้เกิดการอับชื้นได้ง่าย และส่งกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ออกมา
  3. เลี่ยงอาหารที่ทำให้เกิดกลิ่น ไม่รับประทานอาหารที่จะก่อให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ เช่น ของหมัก ของดอง เนย ชีส อาหารทะเล เครื่องเทศ ต้นหอม หัวหอม เป็นต้น การรับประทานโยเกิร์ตและนมเปรี้ยวจะช่วยลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ของอาหารเหล่านี้ได้ เพราะเข้าไปเพิ่มเชื้อแลคโตบาซิลลัส หรือแบคทีเรียชนิดดีในช่องคลอดนั่นเอง
  4. จัดแต่งทรงให้น้องสาวบ้าง การตัดแต่งทรงขนให้น้องสาวบ้างเดือนละประมาณ 1-2 ครั้ง ก็ช่วยลดกลิ่นอับระหว่างวันได้ ทั้งยังช่วยให้เรารู้สึกสบายตัวอีกด้วย แต่อย่าโกนจนเกลี้ยงนะ เพราะจะเสี่ยงติดเชื้อได้เช่นกัน
  5. ไม่เปลี่ยนคู่นอนบ่อย เพราะเราไม่รู้เลยว่าคู่นอนแต่ละคนนั้นเป็นใครมาจากไหน การสวมถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ก็ช่วยลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อและโรคติดต่อได้ด้วยเช่นกัน

ปัญหาจิมิมีกลิ่น นับว่าเป็นปัญหาที่นอกจากจะกวนใจสาว ๆ แล้ว ยังทำให้สูญเสียความมั่นใจอีกด้วย แต่ปัญหาเหล่านี้จะค่อย ๆ หมดไป หากคุณผู้หญิงทั้งหลายสามารถนำข้อแนะนำเหล่านี้ไปใช้ในชีวิตประจำวันได้จริงนั่นเอง