คนอ้วนเสี่ยงเป็นโรคอะไรได้บ้าง?

คนอ้วนเสี่ยงเป็นโรคอะไร

ในปัจจุบันที่ชีวิตคนเราต่างเร่งรีบ การเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และถูกต้องตามโภชนาการ ดูเหมือนจะเป็นเรื่องยากเข้าไปทุกที ประกอบกันการทำงานในออฟฟิศ ที่คนส่วนใหญ่มักจะไม่ค่อยได้เคลื่อนไหวร่างกาย ทำให้แต่ละคนสะสมไขมัน และทำให้มีน้ำหนักที่เพิ่มมากขึ้น จนเกินเกณฑ์มาตรฐาน ส่งผลให้เข้าสู่ภาวะน้ำหนักเกิน หรือที่เรียกกันง่าย ๆ ว่า “อ้วน” นั่นเอง

ความอ้วนหรือการที่มีน้ำหนักเกินนั้น เป็นสิ่งที่ใคร ๆ ต่างก็ไม่อยากเผชิญ เพราะนอกจากจะทำให้เสียความมั่นใจแล้ว ยังมีปัญหาในการหาเสื้อผ้าที่ขนาดพอดีกับตัวเอง และที่สำคัญยังเสี่ยงต่อการป่วยเป็นโรคร้ายต่าง ๆ อีกด้วย ซึ่งจะมีโรคอะไรบ้างนั้น มาอ่านกันเลยค่ะ

โรคความดันโลหิตสูง

โรคความดันโลหิตสูง อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ หนึ่งในนั้นก็คือการรับประทานอาหารที่มีรสเค็ม แม้บางคนอาจปฏิเสธว่าตนเองไม่ได้ชอบรับประทานอาหารที่มีรสเค็ม แต่การบริโภคผงชูรสบ่อย ๆ โดยไม่รู้ตัว จากอาหารนอกบ้านหรืออาหารสำเร็จรูป ก็ทำให้ปริมาณโซเดียมในร่างกายสูงขึ้นได้ อันเป็นเหตุให้เกิดโรคความดันโลหิตสูงตามมา หรือบางคนอาจป่วยเป็นโรคไตอยู่แล้ว ก็มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคนี้ง่ายขึ้นด้วย รวมทั้งโรคเบาหวาน โรคไขมันในเลือดสูงก็เช่นกัน นอกจากนั้นการดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ และขาดการออกกำลังกาย ก็เป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคนี้ได้อีกเช่นกัน

โรคไขมันในเลือดสูง

โรคไขมันในเลือดสูงมักเกิดจากการรับประทานอาหารที่ไม่ถูกหลักโภชนาการติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน ทำให้ไขมันสะสมในร่างกาย และเสี่ยงอุดตันหลอดเลือด อาหารที่ทำให้ไขมันในเลือดสูง คืออาหารที่มีปริมาณคอเลสเตอรอลชนิดที่ไม่ดีสูง ซึ่งมักจะได้แก่ เนื้อสัตว์ติดมัน เครื่องในสัตว์ อาหารทะเล เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ขนมกรุบกรอบ ครีมเทียม เป็นต้น รวมทั้งโรคบางอย่างก็ทำให้เกิดภาวะไขมันในเลือดสูงได้เช่นกัน อย่างโรคเบาหวาน โรคไทรอยด์ หรือความผิดปกติจากพันธุกรรมก็เป็นไปได้เช่นเดียวกัน

โรคหัวใจและหลอดเลือด

เกิดจากการสะสมของคอเลสเตอรอลภายในหลอดเลือดเป็นระยะเวลานาน จนกลายเป็นคราบไขมันที่อาจทำให้หลอดเลือดตีบหรืออุดตันจนอาจแตกได้ทุกขณะ จะทำให้ผู้ป่วยอาจรู้สึกเจ็บหน้าอก หายใจติดขัด เสี่ยงต่อภาวะหัวใจวายและล้มเหลว และยังมีอาการร่วมอื่น ๆ อีก เช่น เหนื่อยหอบ คลื่นไส้ อาเจียน เหงื่อออก เหมือนจะเป็นลม และอาจหมดสติได้ในทุกขณะ หากเข้ารับการรักษาไม่ทันท่วงทีอาจจะทำให้เป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต หรืออาจถึงขั้นเสียชีวิตก็เป็นได้

โรคเบาหวาน

เกิดจากการที่ร่างกายมีภาวะน้ำตาลในเลือดสูง อันเนื่องมาจากฮอร์โมนอินซูลินทำงานผิดปกติ ส่งผลให้กระบวนการดูดซึมน้ำตาลให้เปลี่ยนเป็นพลังงานลดประสิทธิภาพลง ทำให้น้ำตาลสะสมในเลือด และส่งผลเสียต่อร่างกายต่าง ๆ ตามมา โดยในระยะแรก ๆ อาการอาจจะไม่ชัดเจน บางคนรู้ตัวตอนที่เริ่มมีอาการแทรกซ้อนไปแล้ว โดยเราสามารถสังเกตตัวเองและคนใกล้ชิดได้หากมีอาการดังกล่าวเหล่านี้ ได้แก่ เหนื่อยง่าย หิวบ่อย กระหายน้ำมาก ปากแห้ง ปัสสาวะบ่อย มือเท้าชา บาดแผลหายได้ยาก สายตาพร่ามัว เห็นภาพไม่ค่อยชัด เป็นต้น โดยหากมีอาการดังกล่าวควรไปพบแพทย์ทันที

โรคไต

สาเหตุของการเกิดโรคไตไม่เพียงแต่การรับประทานอาหารที่มีรสเค็มเท่านั้น แต่ยังรวมถึงอาหารที่มีรสจัดทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นหวานจัด เปรี้ยวจัด หรือเผ็ดจัด นอกจากนั้นยังรวมถึงพวกอาหารสำเร็จรูปและอาหารแปรรูปอีกด้วย เนื่องจากอาหารเหล่านี้มักจะมีโซเดียมสูงนั่นเอง แม้แต่เครื่องปรุงรสต่าง ๆ ก็ไม่เว้นเช่นกัน รวมทั้งการที่ดื่มน้ำน้อยเกินไป ไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายในแต่ละวัน การขาดการออกกำลังกายเป็นเวลานาน รวมทั้งความเครียดและกรรมพันธุ์ด้วยเช่นกัน

โรคมะเร็ง

เป็นโรคที่ใคร ๆ ต่างก็กลัวกันทั้งนั้น เพราะเป็นสาเหตุการตายอันดับต้น ๆ ของคนไทย โดยมีสาเหตุอันเนื่องมาจากการรับประทานอาหารที่ไม่เหมาะสม เช่น อาหารพวกทอด ปิ้งย่าง อาหารไขมันสูง อาหารที่มีการอุ่นซ้ำ ๆ หลายครั้ง รวมทั้งการรับประทานอาหารประเภทเดิม ๆ ที่ไม่หลากหลายด้วย รวมทั้งการไม่รับประทานผักและผลไม้ การขาดการออกกำลังกาย ความเครียด การสูบบุหรี่ การดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ และส่งผลให้เกิดเซลล์ผิดปกติในร่างกาย จนกลายเป็นเนื้อร้ายในที่สุด

โรคเกาต์

โรคเกาต์เกิดจากการที่ร่างกายมีภาวะกรดยูริกสูงในเลือดสูงเกินกว่ามาตรฐานเป็นระยะเวลานาน และกรดยูริกเหล่านั้นก็จะไปสะสมในข้อต่อต่าง ๆ ของร่างกาย ทำให้เกิดอาการปวดบวมอักเสบอย่างรุนแรง เนื่องมาจากการรับประทานอาหารจำพวกเนื้อสัตว์ เครื่องใน อาหารทะเล แอลกอฮอล์ และเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลฟรุกโตสสูง อย่างพวกน้ำชา น้ำผลไม้ที่ขายกันเป็นขวด ๆ ในท้องตลาด รวมทั้งการเจ็บป่วยจากโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคไต โรคมะเร็ง เป็นต้น รวมทั้งการรับประทานยาบางชนิดด้วย

โรคข้อเข่าเสื่อม

เมื่อน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นจนเกินเกณฑ์มาตรฐาน ก็ทำให้น้ำหนักเกินกว่าที่ร่างกายจะรับไหว ส่งผลให้ข้อเข่ารับน้ำหนักมากกว่าปกติ เมื่อไม่มีการลดน้ำหนัก นานวันเข้าก็จะเกิดอาการปวดข้อเข่า เนื่องมาจากข้อเข่าเสื่อมก่อนนั่นเอง จึงต้องมีการเริ่มต้นลดน้ำหนัก และเลือกรับประทานอาหารให้เหมาะสม พร้อมกับทำท่ากายบริหารเพื่อลดอาการปวดอีกด้วย

จะเห็นได้ว่าการที่เราน้ำหนักเกินมาตรฐานหรืออ้วนขึ้นนั่น ส่งผลให้มีความเสี่ยงเป็นโรคร้ายต่าง ๆ ที่อันตรายมากมาย ทางที่ดีที่สุด เราจึงควรหันกลับมาใส่ใจดูแลตัวเอง เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ในปริมาณที่เหมาะสม ออกกำลังกายอย่างมีวินัยและสม่ำเสมอ พักผ่อนนอนหลับให้เพียงพอ ไม่เครียดจนเกิดไป หาเวลาพักผ่อนให้ตัวเองบ้าง เพียงเท่านี้ก็จะทำให้เราห่างไกลทั้งความอ้วนและโรคร้ายได้แล้วค่ะ