อาการปวดหัว เชื่อว่าใคร ๆ ก็ต่างต้องเคยเป็นกันทั้งนั้น ซึ่งมาจากหลายสาเหตุด้วยกัน แต่ล้วนก็ทำให้เรารู้สึกแย่ อ่อนเพลีย เป็นอุปสรรคต่อการเรียนและการทำงาน รวมถึงการใช้ชีวิตในประจำวันกันทั้งนั้น คงไม่มีใครอยากปวดหัวกันบ่อย ๆ แน่นอน ดังนั้นเราจึงต้องพยายามหลีกเลี่ยงสาเหตุที่ทำให้ปวดหัว ซึ่งจะมีอะไรบ้างนั้น มาอ่านกันเลยค่ะ
ความเครียด
แน่นอนว่าความเครียดเป็นสาเหตุอันดับต้น ๆ ที่ทำให้เราปวดหัว ซึ่งอาจจะมาจากการทำงานที่มีปัญหา หรือจากการเรียนที่หนักมากเกินไป หรือจากปัญหาอุปสรรคในชีวิตที่แต่ละคนต้องพบเจอ ซึ่งแตกต่างกันออกไป แต่ก็ล้วนทำให้เราเกิดความเครียดขึ้นได้ทั้งนั้น ไม่ว่าจะกับใคร ไม่เว้นทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ทุกคนสามารถเครียดได้ทุกเพศทุกวัย ซึ่งก็มักจะทำให้เราเกิดอาการปวดหัว อาจจะปวดหัวข้างเดียวหรือสองข้าง อาการอาจจะปวดตึบ ๆ หรือปวดจี๊ด ๆ ก็เป็นไปได้ทั้งนั้น ดังนั้นหากรู้ตัวว่าเริ่มเครียด พยายามหาทางผ่อนคลายตัวเอง อาจจะด้วยการเปลี่ยนสถานที่ เปลี่ยนบรรยากาศ หรือเปลี่ยนกิจกรรมที่ทำอยู่ หรือจะหาคนคุยที่เราไว้ใจเพื่อระบายความรู้สึกก็ได้เช่นกัน
นอนไม่พอ
อีกหนึ่งสาเหตุของอาการปวดหัวก็คงจะหนีไม่พ้นการนอนหลับพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ บางคนอาจเสียดายเวลานอน เพราะคิดว่าการนอนไม่มีประโยชน์ เลยเอาเวลามาทำงานเพิ่มหรือทำงานเสริม เพื่อหารายได้อีกทาง แต่หารู้ไม่ว่า ถ้าเรานอนไม่พอไปเรื่อย ๆ ร่างกายอาจจะเกิดอาการเจ็บป่วยได้ จนต้องนำเงินที่หาได้มานั้น กลับมารักษาตัวเองอีกที เราจึงควรทำงานอย่างพอดี และแบ่งเวลานอนให้เพียงพอ ส่วนบางคนเห็นว่าพรุ่งนี้เป็นวันหยุด เลยให้รางวัลตัวเองด้วยการเหมาดูซีรี่ย์ยาว ๆ บางทีดูจนไปถึงรุ่งเช้าของอีกวันเลยก็มี ถ้าเป็นแบบนี้ ก็หนีไม่พ้นอาการปวดหัวอีกเช่นกัน ดังนั้นเราจึงควรจัดสรรแบ่งเวลาต่าง ๆ ของตัวเองให้ดีค่ะ

อากาศร้อน
สำหรับสาเหตุนี้บางคนอาจจะหลีกเลี่ยงยากอยู่สักหน่อย เพราะต้องทำงานในสถานที่โล่งแจ้ง เจอแดดทั้งวัน และเมืองไทยก็รู้กันอยู่ว่าอากาศร้อนมากถึงมากที่สุด จึงส่งผลทำให้ปวดหัวได้ ซึ่งก็ต้องหาทางแก้ด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น ดื่มน้ำมาก ๆ ล้างหน้าบ่อย ๆ หรือพยายามหาเวลาพักไปหลบในที่ร่มบ้าง ก็จะเป็นการดี เนื่องจากเมื่ออากาศร้อนขึ้น ก็จะทำให้สารเคมีในสมองเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งจะไปกระตุ้นให้เกิดอาการปวดหัวขึ้นนั่นเอง แต่คนที่เจออากาศร้อนจัดมา อย่าเพิ่งดื่มน้ำเย็นจัดทันทีนะคะ เพราะร่างกายอาจจะปรับตัวไม่ทัน อาจจะทำให้ปวดหัวมากขึ้นกว่าเดิม หรือเกิดเจ็บป่วยเป็นอย่างอื่นแทนก็เป็นได้
ฮอร์โมนเปลี่ยน
สำหรับข้อนี้ผู้หญิงมักจะตกที่นั่งลำบากเสมอ เพราะเวลามีประจำเดือน รอบเดือนมา ฮอร์โมนในร่างกายก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลง โดยฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกายของเราจะลดลง ส่งผลให้เราเกิดอาการปวดหัวนั่นเอง บางคนปวดท้องแล้ว ยังต้องมาปวดหัวซ้ำอีก เรียกได้ว่าเป็นช่วงที่มีอุปสรรคในการใช้ชีวิตเลยทีเดียว ดังนั้นช่วงที่ยังไม่มีประจำเดือน ต้องพยายามออกกำลังกาย กินอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนนอนหลับให้เพียงพอ ดูแลตัวเองให้ดีอยู่เสมอ ก็จะช่วยลดผลข้างเคียงจากการมีประจำเดือนลงได้ และควรหลีกเลี่ยงสิ่งที่กระตุ้นทำให้เราปวดหัวในเวลาที่มีรอบเดือนด้วยเช่นกัน โดยมักจะได้แก่ การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ การนอนดึก การออกกำลังกายมากเกินไป การพักผ่อนไม่เพียงพอ เป็นต้น

ออกกำลังกายมาก
บางคนมีความเข้าใจผิดว่ายิ่งออกกำลังกายมากเท่าไหร่ ร่างกายก็จะยิ่งแข็งแรงขึ้นเท่านั้น ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด สิ่งใดก็แล้วแต่ หากทำมากจนเกินไป ก็จะไม่เป็นผลดี การออกกำลังกายก็เช่นกัน จะทำให้เราสูญเสียพลังงานในร่างกายเยอะขึ้น และเวลาที่เราออกกำลังกายนั้น เลือดจะไหลเวียนไปเลี้ยงบริเวณศีรษะและต้นคอ หากเราออกกำลังกายมากหรือหักโหมจนเกินไป ก็อาจจะทำให้เส้นเลือดเกิดอาการบวมและอักเสบได้ ส่งผลทำให้เราปวดหัวนั่นเอง ดังนั้นเราจึงควรออกกำลังกายแต่พอดี ไม่มากไม่น้อยจนเกินไป ก็จะช่วยให้ร่างกายแข็งแรง และลดอาการปวดหัวลงได้อีกด้วยค่ะ
จ้องหน้าจอนาน
ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือหน้าจอโทรศัพท์มือถือ ก็ล้วนแล้วแต่ทำให้ปวดหัวได้ทั้งนั้น หากเราจ้องอยู่หน้าจอมากหรือนานเกินไป เพราะสิ่งประดิษฐ์อิเล็กทรอนิกส์พวกนี้จะปล่อยแสงสีฟ้าออกมา ซึ่งนอกจากจะทำลายสายตาของเราให้แย่ลงได้แล้ว ยังกระตุ้นทำให้เกิดอาการปวดหัวอีกด้วย ดังนั้นหากจำเป็นต้องใช้คอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์นาน ๆ ก็ควรต้องมีการพักสายตาทุก ๆ 10-15 นาที โดยการหลับตาประมาณ 20 วินาที หรือมองไปที่ต้นไม้สีเขียว กระพริบตาให้บ่อยขึ้น หรือเปลี่ยนอิริยาบถ ลุกไปกินน้ำ เข้าห้องน้ำ หรือยืดเส้นยืดสายก็ได้ นอกจากจะช่วยถนอมสายตาแล้ว ยังช่วยลดอาการปวดหัวลงอีกด้วยค่ะ
แม้ว่าสาเหตุของการปวดหัวจะมีอยู่มากมายหลากหลายสาเหตุ แต่ก็เป็นสิ่งที่เราสามารถหลีกเลี่ยงและป้องกันได้ ก็คือพยายามให้ตัวเองได้มีเวลาพักผ่อนอย่างเต็มที่ นอนให้พอดี ไม่เครียดจนเกินไป หลีกเลี่ยงแสงแดดและความร้อน อย่าจ้องหน้าจอนานเกินไป พยายามหาเวลาตัวเองได้พักบ้าง เพียงเท่านี้อาการปวดหัวก็จะไม่เข้ามากล้ำกรายเราได้ง่าย ๆ แล้วค่ะ