อากาศร้อน ๆ ของเมืองไทย คงมีไม่กี่คนที่ปฏิเสธไม่ดื่มน้ำเย็น เพราะทำให้รู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า และช่วยบรรเทาความร้อนลงได้ ยิ่งเป็นน้ำผลไม้ปั่น น้ำชา กาแฟ โกโก้ ทั้งแบบเย็นและแบบปั่น ซึ่งล้วนแล้วแต่อร่อยน่าชวนให้ดื่มทั้งนั้น แล้วใครล่ะจะปฏิเสธลง แต่บางคนอาจหารู้ไม่ว่า น้ำเย็นและน้ำปั่นที่รสชาติแสนอร่อยนั้น มีโทษในตัวของมันอยู่เช่นกัน ไม่เพียงแต่ทำให้เราได้รับน้ำตาลมากเกินไป เสี่ยงน้ำหนักขึ้น หรือมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงเท่านั้น แต่ยังมีโทษอื่น ๆ อีกมากมายที่คุณอาจไม่เคยรู้ บทความนี้จึงได้รวบรวมมาให้คุณอ่านและทำความเข้าใจกันค่ะ
ไตทำงานหนัก
การดื่มน้ำเย็นจะทำให้ไตทำงานหนักขึ้น เพราะต้องคอยกำจัดความเย็นส่วนเกิน ทำให้เราปัสสาวะบ่อยขึ้น และอั้นปัสสาวะไม่ค่อยได้ หากดื่มน้ำน้อยด้วยแล้ว ก็จะทำให้เลือดข้น ไขมันและของเสียอาจจะสะสมจับตัวเป็นก้อน และไปเกาะอยู่ตามผนังของหลอดเลือด และอาจทำให้เกิดการอุดตันในหลอดเลือด ซึ่งเสี่ยงที่หลอดเลือดจะแตกหรือตีบได้ ส่งผลให้เป็นอัมพฤกษ์ หรืออัมพาตได้ และหากรักษาไม่ทันการ ก็อาจจะทำให้ถึงแก่ชีวิตได้เช่นกัน
มีผลต่อการหายใจ
เคยมีการทดลองให้คนจำนวน 15 คนดื่มน้ำเย็น หลังจากนั้นก็พบว่าสารคัดหลั่งในบริเวณโพรงจมูกมีความเหนียวข้นมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งส่งผลต่อการหายใจ ทำให้หายใจได้ไม่สะดวก และต่อจากนั้นก็ให้ผู้ทดลองเปลี่ยนมาดื่มน้ำอุ่นแทน ก็พบว่าอาการดังกล่าวค่อย ๆ ดีขึ้นและหายไป ดังนั้นจึงสรุปได้ว่าการดื่มน้ำเย็นส่งผลต่อการหายใจ โดยเฉพาะผู้ที่กำลังมีไข้หรือเป็นหวัดอยู่ หากดื่มน้ำเย็นเข้าไป ก็จะทำให้อาการแย่ลง หายใจติดขัดหรือลำบากมากยิ่งขึ้นนั่นเอง

อาหารย่อยได้ยากขึ้น
แม้ว่าการดื่มน้ำเย็นหลังรับประทานอาหารเสร็จ จะทำให้เรารู้สึกดี สดชื่น อิ่มท้อง แต่เนื่องจากเวลาเรารับประทานอาหารเข้าไปในร่างกาย กระเพาะอาหารจะหลั่งน้ำย่อยหรือเอนไซม์มาทำหน้าที่ย่อยอาหาร ซึ่งมีอุณหภูมิเท่ากับร่างกายของเรา คือประมาณ 37 องศาเซลเซียส ด้วยอุณหภูมินี้เอนไซม์จะทำงานได้ดีอย่างมีประสิทธิภาพ แต่หากเราดื่มน้ำเย็นลงไป ก็จะทำให้เอนไซม์มีอุณหภูมิเปลี่ยนแปลง ส่งผลต่อการทำงานของระบบย่อยอาหาร ทำให้ย่อยอาหารได้ช้าลง หรือย่อยได้ยากขึ้นกว่าเดิมนั่นเอง นอกจากนั้นน้ำเย็นจะทำให้ไขมันจับตัวเป็นก้อน ส่งผลให้ย่อยอาหารได้ยากกว่าเดิมมากขึ้นอีกด้วย
ปวดเมื่อยตามร่างกาย
การดื่มน้ำเย็นจะทำให้เรามีอาการปวดเมื่อยตามร่างกายได้ บางคนอาจปวดหัว ปวดหลัง ปวดเอว ปวดตามข้อต่าง ๆ เช่น ข้อเข่า ข้อศอก นิ้วมือ ต้นคอ เป็นต้น ซึ่งเคยมีผลการทดลองยืนยันแล้วว่า ผู้ที่ดื่มน้ำเย็นจะมีอาการปวดหลังตามมา และสำหรับผู้ที่เป็นไมเกรนระยะเริ่มต้น ก็จะส่งผลให้มีอาการปวดไมเกรนได้ด้วยเช่นกัน ดังนั้นหากคุณมักมีอาการปวดต่าง ๆ ก็ควรหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำเย็น หรือรับประทานให้น้อยลง ก็จะช่วยลดปัจจัยในการปวดตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้นั่นเอง

ปวดท้องประจำเดือน
เป็นที่รู้กันดีของเหล่าผู้หญิง ยามเมื่อมีประจำเดือน การดื่มน้ำเย็น หรือรับประทานของเย็น ๆ อย่างไอศกรีม ก็จะทำให้ปวดท้องมากขึ้น เพราะในช่วงที่เรามีรอบเดือนนั้น ร่างกายบริเวณช่องท้องก็จะมีการบีบตัวเพื่อขับเลือดออกมาอยู่แล้ว ถ้าเรายังดื่มน้ำเย็นเข้าไปอีก ก็จะทำให้เส้นเลือดและกล้ามเนื้อเกิดการหดตัวมากขึ้น ทำให้เรารู้สึกปวดท้องยิ่งกว่าเดิม นอกจากนั้นน้ำเย็นยังมีส่วนทำให้เลือดจับตัวกันเป็นก้อน หรือที่เรียกว่าลิ่มเลือด ซึ่งทำให้การขับเลือดลดประสิทธิภาพลง และอาจทำให้เลือดคั่งค้างอยู่ในร่างกายได้อีกด้วย
สรุปส่งท้าย
แม้ว่าการดื่มน้ำเย็นจะมีโทษต่อร่ากายมากมาย แต่เราก็สามารถดื่มได้ในบางครั้ง ในวันที่เรามีร่างกายปกติแข็งแรงดี ไม่ได้เป็นหวัดคัดจมูก หรือมีไข้ หรือมีรอบเดือน หรือป่วยเป็นโรคไต เราก็สามารถดับร้อนดับกระหายได้ด้วยการดื่มน้ำเย็นได้เช่นกัน แต่ก็ไม่ควรจะดื่มบ่อยจนเกินไป เพราะจะส่งผลเสียต่อร่างกายนั่นเอง