สุขภาพฟันและช่องปากเป็นส่วนประกอบหนึ่งที่สำคัญของร่างกาย เพราะช่วยเคี้ยวบดและคลุกเคล้าอาหารให้เข้ากัน ก่อนกลืนลงท้องไปสู่ระบบทางเดินและย่อยอาหารต่อไป ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องใส่ใจดูแลสุขภาพฟันและช่องปากอยู่เสมอ ซึ่งหลายคนอาจจะคิดว่าการแปรงฟันเป็นเรื่องธรรมดา หรือคิดว่าเราแปรงฟันสะอาดอยู่แล้ว แต่เรามาดูวิธีการแปรงฟันที่ถูกต้องกันดีกว่าค่ะ
- วางแปรงสีฟันทำมุม 45 องศากับคอฟัน หรือบริเวณด้านนอกฟันกราม ให้ขนแปรงอยู่บริเวณขอบเหงือกของฟัน
- ขยับแปรงไปมาเบา ๆ ในลักษณะสะบัดข้อมือ แปรงวนเป็นวงกลมที่ละซี่ ประมาณ 5-10 ครั้งต่อซี่ พยายามให้ขนแปรงเข้าไปในร่องเหงือก
- ทำแบบนี้กับทั้งฟันด้านนอกและฟันด้านใน โดยเริ่มจากด้านบนก่อน แล้วแปรงไปให้สุดของอีกฝั่งหนึ่ง
- แปรงแบบนี้กับฟันบดเคี้ยว โดยวางแปรงให้หน้าตัดอยู่ด้านบนของฟันบดเคี้ยว ถูไปมาหน้าและหลัง ทั้งฟันด้านบนและฟันด้านล่าง
- แปรงฟันหน้าด้านใน วางแปรงในแนวตั้ง ขยับแปรงขึ้นลง แปรงที่ละซี่ ให้ครบทุกซี่ ของฟันด้านหน้า
- แปรงลิ้น ปัดแปรงสีฟันจากโคนลิ้นจนถึงปลายลิ้นให้ทั่ว ประมาณ 10 ครั้ง
บางคนไม่รู้ว่าต้องแปรงลิ้นด้วย ซึ่งการแปรงลิ้นจะช่วยขจัดคราบแบคทีเรียสะสม และยังช่วยลดกลิ่นปากอีกด้วย นอกจากนั้นควรแปรงฟันวันละ 2 ครั้ง คือหลังตื่นนอนและหลังอาหารเย็น โดยควรใช้เวลาครั้งละไม่ต่ำกว่า 2 นาที เพื่อให้ฟลูออไรด์ในยาสีฟันทำหน้าที่ป้องกันฟันผุได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากเราแปรงฟันไม่สะอาด และใช้เวลาไม่เพียงพอ แบคทีเรียในช่องปากที่สมสมอยู่ตามซอกฟันและร่องเหงือก อาจสะสมจนกลายเป็นคราบพลัค หรือแผ่นฟิล์มเหนียว ๆ ไม่มีสี ที่ติดอยู่บนผิวฟัน และอาจก่อให้เกิดหินปูนตามมาได้

นอกจากการแปรงฟันที่ถูกต้องแล้ว เราควรเลือกใช้แปรงสีฟันและยาสีฟันที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน โดยแปรงสีฟันต้องมีขนอ่อนนุ่ม เรียวเล็ก สามารถซอกซอกตามร่องต่าง ๆ ของช่องปากได้อย่างทั่วถึง และควรเปลี่ยนแปรงสีฟันทุก 3 เดือน เพื่อลดการสะสมของเชื้อแบคทีเรีย และให้การแปรงฟันเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนยาสีฟันก็ควรเลือกที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ เพราะเป็นส่วนผสมที่สำคัญ ซึ่งสามารถช่วยป้องกันฟันผุได้นั่นเอง

และสำหรับใครที่คิดว่าการแปรงฟันอย่างเดียวอาจไม่สะอาดเพียงพอ จะเพิ่มการใช้น้ำยาบ้วนปากที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ด้วยก็ได้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลช่องปากอย่างทั่วถึง และสะอาดหมดจด ทั้งยังช่วยเสริมความแข็งแรงให้เหงือกและฟัน ลดกลิ่นปาก และปัญหาเกี่ยวกับช่องปากต่าง ๆ ได้ โดยเฉพาะผู้ป่วยบางคนที่ไม่สามารถแปรงฟันได้ น้ำยาบ้วนปากคือตัวช่วยที่ดีที่สุดตัวหนึ่งเลยค่ะ
แม้ว่าเราจะแปรงฟันอย่างถูกวิธีแล้ว และมีการใช้น้ำยาบ้วนปาก ใช้แปรงสีฟันและเปลี่ยนแปรงสีฟันอย่างเหมาะสมแล้วก็ตาม ก็ต้องไม่ลืมที่จะไปพบทันตแพทย์ เพื่อตรวจสุขภาพของช่องปากและฟัน อย่างน้อยทุก 6 เดือน เผื่อว่ามีฟันผุ จะได้รีบทำการอุดฟัน หรือมีหินปูนต้องขูด ก็จะได้รีบจัดการ หรืออาจมีปัญหาเกี่ยวกับช่องปากอื่น ๆ ก็จะได้รีบรักษาอย่างทันท่วงที