รู้จักกับไมเกรน ที่ไม่ใช่อาการปวดหัวธรรมดา

ไมเกรนคืออะไร

หลายคนคงเคยเกิดอาการปวดหัว ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องปกติ โดยอาจจะเกิดจากความเครียดจากการเรียนหรือทำงาน การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ แต่สำหรับคนที่เป็นไมเกรน การปวดหัวนั้นจะรุนแรงกว่าการปวดหัวแบบธรรมดาหลายเท่า ซึ่งบางคนปวดจนส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการเรียนและการทำงาน รวมทั้งการใชชีวิตประจำวันด้วย มาดูกันดีกว่าว่า ไมเกรนคืออะไร มีอาการแบบไหน และมีวิธีรักษาอย่างไร

ไมเกรนคือ

คือภาวะที่หลอดเลือดแดงในสมองหดตัวหรือขยายตัวมากกว่าปกติ เนื่องมาจากสิ่งกระตุ้นทั้งภายในและภายนอก เป็นการปวดหัวที่รุนแรง โดยอาจจะปวดข้างเดียว หรือปวดข้างเดียวก่อนแล้วค่อยปวดทั้งสองข้าง และยังสามารถสลับข้างปวดไปมาได้เช่นกัน ร่วมถึงสามารถปวดบริเวณขมับและท้ายทอยอีกด้วย โดยลักษณะของอาการปวดอาจจะเป็นแบบปวดหัวตุบ ๆ หรือปวดจี๊ด ๆ หรือรู้สึกเหมือนโดนบีบหัวก็เป็นไปได้เช่นกัน

สาเหตุ

ในปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัดของที่มาของโรคไมเกรน แต่มีสิ่งกระตุ้นที่ควรหลีกเลี่ยงอยู่ ซึ่งเป็นปัจจัยให้เกิดการปวดหัวไมเกรนได้ เช่น ความเครียด แสงจ้า เสียงดัง กลิ่นเหม็น หรือกลิ่นฉุนของน้ำหอม อากาศที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว อุณหภูมิที่ไม่เหมาะสม เช่น ร้อนเกินไป หรือหนาวเกินไป การนอนหลับพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ ทำงานมากเกินไปจนอดนอน ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนผสม เกิดจากฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น อยู่ในระหว่างการมีรอบเดือน หรือกำลังตั้งครรภ์ รวมทั้งการรับประทานอาหารบางชนิด เช่น ชา กาแฟ ช็อคโกแลต กล้วยหอม เนยแข็ง เป็นต้น ก็สามารถเป็นสิ่งกระตุ้นทำให้เกิดไมเกรนได้ทั้งนั้น

อาการร่วม

นอกจากอาการปวดหัวที่รุนแรงกว่าการปวดหัวแบบปกติแล้ว ยังมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น คลื่นไส้ อาเจียน เวียนศีรษะ หรือบางคนอาจจะมีอาการบอกล่วงหน้าก่อนปวดหัวที่เรียกว่าออร่า เช่น เห็นแสงระยิบระยับ เห็นแสงเป็นเส้น ๆ หรืออาจมีอาการเห็นภาพมัว เห็นภาพไม่ชัด ภาพบิดเบี้ยว เป็นต้น ร่วมทั้งมีอาการไวต่อแสงและเสียง เมื่อเห็นแสงจ้าหรือเสียงดังจะทำให้ปวดหัวมากขึ้น ร่วมทั้งการเคลื่อนไหวที่มีแรงสะเทือนต่าง ๆ เช่น การเดิน การวิ่ง ก็จะทำให้ปวดหัวมากขึ้นเช่นกัน แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว อาการมักจะดีขึ้นเมื่อได้นอนเฉย ๆ อยู่ในห้องที่มืดและเงียบ และค่อนข้างเย็น ซึ่งหากรับประทานยาแก้ปวดหรือยาป้องกันด้วย ก็จะช่วยให้อาการดีขึ้นได้เช่นกัน

การวินิจฉัย

แพทย์จะเริ่มวินิจฉัยอาการจากการสอบถามประวัติโดยเบื้องต้นก่อน จากนั้นอาจตรวจด้วยการสแกนสมองด้วยเครื่อง CT scan หรือ MRI หากอาการรุนแรง จึงค่อยตรวจสอบโดยละเอียดด้วยการตรวจเลือด หรือการเจาะตรวจน้ำไขสันหลัง เพื่อดูว่ามีอาการติดเชื้อ หรือมีความผิดปกติในสมองหรือเปล่า จึงทำให้อาการรุนแรงมากกว่าปกติ ซึ่งจะช่วยให้แพทย์วินิจฉัยได้อย่างละเอียดและถูกต้องมากขึ้น

 การรักษา

การรักษาเบื้องต้นสำหรับผู้ป่วยไมเกรนจะใช้ยาสำหรับแก้ปวด คือยาพาราเซตามอล หรือแอสไพริน ไอบูโพรเฟน ก็ช่วยได้เช่นกัน แต่คนที่เป็นโรคกระเพาะ หรือมีแผลในกระเพาะอาหาร ไม่ควรใช้ยาสองตัวหลัง เพราะมีฤทธิ์กัดกระเพาะ ต้องรับประทานหลังอาหารโดยทันที หรืออาจจะปรึกษาคุณหมอขอให้ใช้ยาอื่นทดแทน หรือร่วมกันลดปริมาณการใช้ยาด้วยก็ได้

แต่สำหรับบางคนที่ปวดหัวเพราะไมเกรนบ่อย ๆ การต้องกินยาแก้ปวดมาก ๆ คงไม่ใช่ผลดีแน่ ดังนั้นแพทย์อาจเปลี่ยนหรือเพิ่มให้ใช้ยาป้องกันแทน ซึ่งต้องกินต่อเนื่องทุกวันเพื่อให้เห็นผล อาจเป็นยาที่มีคุณสมบัติปิดกั้นตัวรับเบต้า เพื่อช่วยป้องกันและลดอาการปวดหัว หรือหากใครมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ก็มียาช่วยระงับอาการด้วยเช่นกัน

จะเห็นว่าไมเกรนแม้ว่าจะเป็นโรคที่ละเอียดอ่อน ดูแลรักษายาก แต่ก็สามารถป้องกันและรักษาได้ เพียงแต่เราหลีกเลี่ยงจากสิ่งกระตุ้นต่าง ๆ หรือหากเริ่มมีอาการปวดแล้ว ก็กินยาระงับอาการปวดได้ รวมทั้งยาป้องกันก็ด้วยเช่นกัน ถ้าคุณให้ความร่วมมือในการรักษาที่ดี และดูแลตัวเองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไปในทางที่ถูกต้อง ก็จะทำให้โรคนี้ทุเลาลง และทำให้คุณสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกตินั่นเอง